4 วิธีช่วยแอร์เย็นจุใจ แต่ค่าไฟสบายกระเป๋า

Advertisement การทำงานของเครื่องปรับอากาศสามารถทำให้ค่าไฟฟ้าของเราพุ่งกระฉูดได้ แต่โชคดีที่เรามีวิธีที่สามารถช่วยให้เครื่องปรับอากาศของคุณทำงานได้ดีขึ้น แถมยังช่วยให้คุณประหยัดเงินได้อีกด้วย ว่าแล้วก็ตาม MoneyGuru.co.th มาดูกันเลยค่ะ Advertisement ภาพประกอบจาก www.ashraeregion12.org อุดรูรั่วรอบ ๆ ขอบหน้าต่างและประตู หากบ้านของคุณไม่ได้เป็นบ้านสมัยใหม่ที่สามารถคงความเย็นไว้ภายในได้ มันอาจทำให้แอร์ไหลออกไปสู่ภายนอกได้ ด้วยการไหลออกผ่านช่องประตู, หน้าต่าง หรือห้องใต้หลังคา รวมถึงรอยแยกต่างๆ ภายในกำแพง นอกจากนี้ หากคุณจะดูว่าบ้านของคุณมีการคงความเย็นไว้หรือไม่ คุณอาจให้ผู้ให้บริการสาธารณูปโภคของคุณหรือผู้รับเหมาท้องถิ่นมาประเมินได้ ผู้ตรวจสอบเหล่านี้จะตรวจสอบบ้านของคุณว่ามีการรั่วไหลของแอร์ออกไปสู่ภายนอกหรือไม่ พร้อมทั้งจะแนะนำวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้แอร์ในบ้านของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ต้องการที่จะให้ผู้บริการสาธารณูปโภคมาตรวจสอบล่ะก็ คุณก็สามารถตรวจสอบการรั่วไหลของแอร์ด้วยตัวเองได้นะคะ โดยคุณสามารถยืนอยู่นอกบ้านของคุณ และใช้มืออังตรงหน้าต่างและประตู ถ้าคุณรู้สึกถึงอากาศเย็น ๆ แล้วล่ะก็ ก็ให้คุณทำการอุดรูรั่วรอบ ๆ ขอบหน้าต่างและประตูเสียค่ะ Advertisement ตรวจสอบให้แน่ใจว่า thermostat อยู่บนผนังด้านขวา ตำแหน่งของ Thermostat หรืออุปกรณ์สำหรับควบคุมการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ให้ได้อุณหภูมิตามที่เราต้องการ ควรติดไว้บนผนังด้านขวา สูงจากพื้นห้องประมาณ 1.5 เมตร และห่างจากผนังด้านนอกอาคารไม่น้อยกว่า 48 เซนติเมตร รวมทั้งไม่อยู่ใกล้กับแหล่งกำเนิดความร้อน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, ท่อน้ำ, หน้าต่าง […]

สูตรโรตีมะตะบะ!! ทำกินเองง่ายๆได้ที่บ้าน

โรตี เป็นขนมชนิดหนึ่งที่ส่วนใหญ่เราจะคุ้นเคยกับ "อาบัง" ชาวอินเดีย บังกลาเทศหรือศรีลังกา เดินเข็นรถเข็นไปตามที่ต่างๆหรือจอดไว้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ให้พวกเราได้ซื้อกลับไปรับประทานที่บ้านในตอนเย็น แต่ส่วนใหญ่เรามักกังวลในเรื่องความสะอาดของการทำ วันนี้เราจะขอนำเสนอสูตรโรตีชนิดหนึ่งที่มีไส้อยู่ข้างใน คนไทยเราเรียกว่า "โรตีมะตะบะ" วิธีการทำเป็นอย่างไร ยากง่ายขนาดไหนนั้น เรามาดูกันเลยครับ ส่วนผสมของตัวแป้ง แป้งสาลี      500 กรัม ไข่ไก่             2 ฟอง น้ำ             1/2 ถ้วย เนยสด         50 กรัม เกลือ             1 ช้อนชา น้ำตาล           2 ช้อนชา ส่วนผสมของไส้มะตะบะ ไก่บด                   500 กรัม  มันฝรั่ง(หั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก) 2 ลูก หอมใหญ่               2 ลูก ก้อนปรุงแกงกะหรี่ญี่ปุ่น       1 ก้อน (มีขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป) […]

เมื่ออกหักหรือเสียใจ!!ร้องไห้แล้วตาบวม มีวิธีแก้ง่ายๆ

การร้องไห้เป็นอาการที่มนุษย์ทุกคนจะต้องเคยเกิดขึ้นกับตัวเองอย่างแน่นอน ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่มนุษย์จะเสียน้ำตาจากการร้องไห้ การร้องไห้ก็มีผลดีหลายอย่างคือ ช่วยให้ระบายความเครียดในใจออกไปได้ในระดับหนึ่งและเป็นกลไกในการล้างและทำความดวงตามตามธรรมชาติ แต่การร้องให้มากๆหรือร้องไห้อย่างหนักนั้นไม่เป็นผลดีแน่นอน อาการอย่างหนึ่งหลังจากที่ร้องไห้อย่างหนักก็คือ "อาการตาบวม" ครับ วันนี้เรามีวิธีง่ายๆในการแก้อาการนี้มาแนะนำให้ผู้อ่านทุกท่านได้ลองนำไปใช้ครับ วิธีแก้ตาบวมจากการร้องไห้แบบง่ายๆ 1. ช้อน ใช้ช้อนทานอาหารที่บ้านเรานี่แหละครับ นำไปแช่ช่องแช่แข็งจนเย็นจัด จากนั้นนำช้อนมาประคบบริเวณดวงตา จะช่วยให้อาการตาบวมยุบลงได้ภายในเวลาอันรวดเร็วเลยทีเดียว 2. ไข่ต้ม นำไข่ไก่หรือไข่เป็ดไปต้มกับน้ำเดือด รอจนสุกและปลอกเปลือกออกให้หมด แล้วนำไข่ร้อนๆมาคลึงให้ทั่วบริเวณรอบดวงตา จะช่วยให้อาการบวมลดลงได้มาก 3. นมสด ใช้นมสดที่มีความเย็นจัดจากการแช่ตู้เย็น จากนั้นนำสำลีไปชุบนมแล้วนำมาประคบบริเวณรอบดวงตาทิ้งไว้ จะช่วยให้ดวงตากลับคืนสภาพได้โดยเร็ว 4. เมคอัพ การแต่งหน้าช่วยได้ แต่ต้องใช้คอนซีลเลอร์หรืออายครีมทาบริเวณรอบดวงตาก่อนแต่งหน้า จะช่วยอำพรางอาการตาบวมได้อย่างเรียบเนียนที่สุด   เรียบเรียงโดย Thaijobsgov  ข้อมูลจาก เกร็ดความรู้.net ขอบคุณภาพจาก Google.com [ads=center]  

เจอแล้วหลักฐานชัดเจน!! วินาทีสะเทือนใจคนไทย ถ้าจะยื่นเรื่องช่วยกันแชร์ภาพนี้ด่วน!!!

ภาพนี้เห็นชัดเจนว่าญี่ปุ่นฟาวล์จริงๆ และกรรมการก็จ้องอยู่ชัดเจน แต่ไม่ให้ฟาวล์ พอจะขอชาเลนจ์กลับไม่ให้ แต่ดันได้ใบแดงมาแทน ซึ่งทำให้แทนที่เราจะขึ้นนำ13-7 แต่ดันเป็น12-9 ซึ่งต่างกันมากๆ นะ เท่ากับว่าเซตนี้เราเสียผลประโยชน์4แต้ม ไม่ใช่2แต้ม นี่ยังไม่นับรวมที่เราไม่ได้เปลี่ยนตัวอีกหลายครั้ง (ไม่ใช่แค่เซต5 แต่มีหลายช่วง เช่น ปลายเซต4เราเกือบจะชนะ3-1จู่ๆ ก็เปลี่ยนตัวไม่ได้)       ที่มาจาก : http://m.pantip.com/topic/35173972  

แจกสูตร!! 10วิธีลดกลิ่น”ตด” เป็นมิตรต่อจมูกของเราและคนรอบข้าง

ปูด…ปาด..เสียงผายลมที่อยู่กับมนุษย์มาตั้งแต่เกิดจนตาย อันเป็นเสียงที่คุ้นชิน แต่สิ่งที่ไม่พึงประสงค์นั้นก็คือ"กลิ่น"อันรัญจวนของมันนั่นเอง วันนี้เราจะมาแจกสูตรลดกลิ่น"ผายลม"หรือ"ตด"ให้ท่านผู้อ่านได้ลองเอาไปปฎิบัติตามดูครับ 10 วิธีการลดกลิ่นเหม็นของการผายลม          1. รับประทานสิ่งเหล่านี้ให้น้อยนั่นก็คือ ไข่ เนื้อ ผักตระกูลกะหล่ำเช่น บร็อกโคลี่ กะหล่ำปลี เนื่องจากผักเหล่านี้มีกำมะถัน แบคทีเรียในลำไส้จะย่อยให้เป็นแก๊สที่มีกลิ่นเหม็น ถั่ว มีน้ำตาลที่ร่างกายย่อยไม่ได้ ทำให้หมักหมมอยู่ในลำไส้ใหญ่ แบคทีเรียในลำไส้จะย่อยน้ำตาลพวกนี้แทนทำให้เกิดแก๊สและกลิ่น          2. ถ้ามีความจำเป็นจะต้องรับประทานอาหารจำพวกถั่ว ควรแช่น้ำไว้อย่างน้อย 12 ชั่วโมง จึงนำมาประกอบอาหาร หรือนำไปแช่ในน้ำร้อน 10-15 นาทีขึ้นไปแล้วจึงนำไปปรุงอาหาร จะช่วยลดปัญหากลิ่นเหม็นจากการผายลมจากการกินถั่วได้            3. ลดละอาหารที่มีไขมันสูงเพราะอาหารประเภทไขมันใช้เวลาย่อยนาน จึงทำให้ไอ้เจ้าแบคทีเรียมีเวลาในการสร้างตัวในลำไส้ ทำให้เกิดอาการท้องอืด และผายลมได้แถมมีกลิ่นอีกด้วย          4. ลดแอลกอฮอล์หรืออาหารที่มีแก๊สเช่น น้ำอัดลม เบียร์ โซดา เพราะจะไปเพิ่มปริมาณลมและแก๊ส ทำให้เรอและผายลมมากขึ้น          5. ขิง […]

ความเชื่อหรือเรื่องจริง!!? ข้อห้ามช่วงตอนมีประจำเดือนของสาวๆ

  ในสังคมไทยในปัจจุบันยังคงเก็บรักษาคำว่า"ความเชื่อ"ไว้อยู่มากเลยครับ โดยที่บางคนก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดโดยไม่มีการศึกษาข้อเท็จจริงใดๆ ในเรื่องหนึ่งที่เป็นที่ข้อสงสัยของสาวๆนั่นก็คือข้อห้ามช่วงตอนมีประจำเดือนของสาวๆ ซึ่งมีหลายต่อหลายข้อมาก วันนี้เราจะมาคลายข้อสงสัยและความเชื่อเหล่านี้กันครับว่ามันจริงหรือไม่จริงกันแน่นะ!!    1. เขาว่ากันว่า…ห้ามอาบน้ำเย็นในช่วงที่มีประจำเดือน!!?  อันที่จริงแล้ว..เมื่อเวลาที่มีประจำเดือนนั้น ฮอร์โมนในร่างกายจะมีการแปรปรวนภูมิคุ้มกันลดลง การอาบน้ำเย็นจะทำให้ร่างกายต้องปรับอุณหภูมิตาม อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ น้ำเย็นในที่นี่คือไม่ใช่น้ำที่ใส่น้ำแข็งนะครับ!! ถ้าเป็นแบบนั้นจะเป็นเมนส์หรือไม่ก็ไม่ควรจะอาบจ่ะ! ผู้หญิงที่เป็นประจำเดือนสามารถอาบน้ำเย็นในอุณหภูมิปกติได้ครับ     2.เขาว่ากันว่า…ห้ามรับประทานน้ำแข็ง หรือของเย็นในช่วงที่มีประจำเดือน อันที่จริงแล้ว..ผู้หญิงที่เป็นประจำเดือนาสามารถรับประทานน้ำแข็ง หรือของเย็นได้ตามปกติ โดยที่มีปริมาณที่ไม่มากจนเกินไปครับ   3.เขาว่ากันว่า… ห้ามออกกำลังกายเวลามีประจำเดือน อันที่จริงแล้ว..มันเป็นความเชื่อที่ผิดมาก!! เพราะความจริงแล้วการออกกำลังกายเป็นประจำ ร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟินออกมา สารนี้จะทำให้เราเกิดความสุข ช่วยผ่อนคลายความเครียด และช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด ดังนั้นการออกกำลังกายจึงเป็นวิธีป้องกันอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นในระหว่างมีประจำเดือนได้   4.เขาว่ากันว่า…ห้ามมีเพศสัมพันธ์ขณะที่มีประจำเดือน อันที่จริงแล้ว…ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตอนช่วงที่สาวๆมีประจำเดือนนั้นจะสามารถทำให้ช่องคลอดเกิดการติดเชื้อได้ง่าย เกิดการเลอะเทอะสกปรก ทางที่ดีควรรอให้ประจำเดือนหมดไปก่อนจะดีกว่าครับ   5.เขาว่ากันว่า…ห้ามลงเล่นน้ำขณะที่มีประจำเดือน อันที่จริงแล้ว ลงเล่นน้ำได้ครับแต่ต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาด เพราะในน้ำนั้นอาจจะมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนอยู่ ทำให้เชื้อโรคเข้าไปในช่องคลอดแล้วเกิดการอักเสบได้ ดังนั้น ถ้าใครที่อยากจะลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำก็คงจะต้องเลือกสระว่ายน้ำที่สะอาด เลือกช่วงเวลาที่ไม่มีคนใช้บริการ มากนัก และควรใช้ผ้าอนามัยแบบสอดก่อนที่จะลงว่ายน้ำ   เรียบเรียงโดย Thaijobsgov ข่อมูลจาก wangnamyen.net ภาพจาก Google.com [ads=center]

แพทย์เตือน!! อย่าให้นมทารกแทนกัน เสี่ยงติดเชื้อ!!

  จากข่าวเมื่อปีที่แล้วที่พยาบาลท่านหนึ่งสวมวิญญาณความเป็นแม่ ให้นมทารกน้อยวัย4เดือนแทนแม่ของเด็ก เนื่องจากแม่ของเด็กนั้นประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ไม่สามารถให้นมได้ หลังจากที่ข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ก็ทำให้นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิและเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิกได้ออกมาเตือนผู้ที่ให้นมแทนแม่ของเด็กว่าการให้นมแทนกันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเนื่องจาก… ในน้ำนมคนเรานั้นมีเชื้อไวรัสที่สามารถติดต่อได้ เช่น เอดส์ ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบบี,ซี ไวรัสซีเอ็มวี ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคลูคีเมียหรือโรคภูมิต้านทานทำงานผิดปกติ (HTVL1,HTVL2) จึงไม่สามารถนำมาให้เด็กคนอื่นกินโดยไม่ได้ผ่านการตรวจหาเชื้อเหล่านี้ก่อน ซึ่งจะทำได้ในรพ.ที่มีธนาคารนมแม่ การรับนมแม่บริจาคกันเองจึงมีความเสี่ยงที่ลูกจะได้รับเชื้อเหล่านี้ การให้ทารกได้รับนมจากอกแม่นั้นเป็นสิ่งที่ดี เพราะน้ำนมของแม่นั้นมีประโยชน์ต่อทารกแต่ใช่ว่าทุกคนจะให้นมแทนกันได้ ท่านผู้อ่านท่านไหนทราบแล้วก็ไม่ควรที่จะนำน้ำนมของคุณแม่ท่านอื่นมาให้ลูกของเราเด็ดขาดนะครับ เพื่อเป็นการลดความเสียงที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูกของเรา   เรียบเรียงโดย Thaijobsgov ข้อมูลจาก http://th.theasianparent.com/ ขอบคุณภาพจาก Google.com [ads=center]

“อาการดวงตาเมื่อยล้า” บรรเทาและป้องกันได้ด้วยวิธีนี้!!

ในปัจจุบันนี้คนเรามีการใช้สายตามากขึ้นจากการใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานหรือการจ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถือ รูดหน้าจอขึ้น-ลงเพื่อเล่นโซเชียลกับเพื่อนๆเป็นเวลานาน ส่งผลทำให้สายตาเสีย ทำให้ค่าสายตาสั้นเร็วกว่าปกติและเกิดอาการเมื่อยล้าของดวงตา วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีป้องกันและการบรรเทาอาการเมื่อยล้าของดวงตากันครับ โดยมีวิธีง่ายๆดังต่อไปนี้  การป้องกันและบรรเทาอาการที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองคือ หยุดพักสายตา จากการทำงานด้วยจอคอมพิวเตอร์ดังนี้ -ทุก 15-30 นาที ให้หลับตาและมองออกไปไกลๆประมาณ 2-3นาทีเพื่อเป็นการผ่อนคลายสายตา  -ในทุกๆ 1 ชั่วโมงควรที่จะหยุดทำงานแล้งลุกขึ้นยืนเดินไปผ่อนคลายประมาณ 2-3 นาทีแล้วจึงกลับมาทำงานใหม่ -ในทุก 3-4 ชั่วโมงควรหยุดพักทำงาน 15-20 นาที โดยหลับตาลงเพื่อที่จะไม่ใช้สายตา -กระพริบตาให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มน้ำตา ทำให้ตาชุ่มชื่น การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา  -การนวดตา วางข้อศอกลงบนโต๊ะ หงายฝ่ามือขึ้น โน้มตัวทิ้งน้ำหนักไปด้านหน้า วางศรีษะลงที่ฝ่ามือ ให้เบ้าตาวางอยู่บริเวณด้านล่างฝ่ามือ นิ้วมือวางอยู่บนหน้าผาก (ระวังอย่าให้มีแรงกดลงไปที่ตัวลูกตา ) หลับตา สูดหายใจเข้าลึกๆช้าๆทางจมูก กลั้นใจไว้ประมาณ 4 วินาที ผ่อนหายใจออก ช้าๆสูดหายใจใหม่ ทำสลับกันแบบนี้ต่อเนื่องประมาณ 15-30 นาที -การประคบ โดยการใช้ผ้าร้อน(ไม่ควรที่จะร้อนจนเกินไป)และผ้าเย็น สลับกันทุกๆ30วินาทีโดยทำต่อเนื่องประมาณ 2 นาทีแล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดและนวดเบ้าตาเบาๆ  ดวงตาเป็นสิ่งที่สำคัญของร่างกายฉะนั้นควรที่จะรักษาสุขภาพดวงตาไว้และไม่ควรใช้ดวงตาอย่างหักโหมครับ เมื่อมีอาการเกิดขึ้นก็อย่าลืมใช้วิธีการข้างต้นในการบรรเทาอาการ แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เกิดอาการดังกล่าวครับ ขอให้มีสุขภาพดวงตาที่ดีกันทุกท่านนะครับ   เรียบเรียงโดย […]

แจกสูตรสุดแซ่บ!! น้ำตกคอหมูย่าง เห็นแล้วน้ำลายสอ!!

น้ำตกคอหมูย่าง เป็นอาหารอีสานอย่างหนึ่งที่มีชื่อเสียงและมีรสชาติที่แซ่บถึงใจและกลมกล่อม เหมาะแก่การกับแกล้มกับเครื่องดื่มชนิดต่างๆเป็นอย่างยิ่งนะครับ วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการหมักคอหมูและการทำน้ำตกเพื่อให้ท่านผู้อ่านสามารถนำไปทำได้ครับ วิธีการง่ายๆมีดังนี้ วัตถุดิบและสูตรการหมักคอหมู 1.คอหมูน้ำหนักประมาณ 350 กรัม  2.ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ 3.ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ 4.นมข้นจืด 1/3 ถ้วย  5.รากผักชีตำละเอียด 2-3 ราก 6.พริกไทยป่น 1 ช้อนชา  วิธีการทำคือนำส่วนผสมทั้งหมดข้างต้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วหมักทิ้งไว้ 1 คืนเพื่อให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้าเนื้อ  วิธีการปรุงสุกคอหมูย่างสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การกริลในกระทะเทฟล่อนใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อย,การย่างบนเตาไฟฟ้าหรือเตาถ่าน(ถ้าเป็นเตาถ่านจะได้กลิ่นรมควันนิดๆ) หรือจะอบด้วยเตาอบก็ได้เช่นกันครับ [ads=center] วัตถุดิบและวิธีการทำน้ำตกคอหมูย่าง 1.คอหมูที่สุกแล้วหั่นบางๆ 2.หอมแดงหั่น 1/4 ถ้วย 3.สะระแหน่และผักชีฝรั่งหั่นหยาบ 1/3 ถ้วย 4.พริกป่น ใส่ตามชอบ เผ็ดมากเผ็ดน้อย 5.ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ 6.น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 7.น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ 8.น้ำตาล 1/2 […]

สารให้ความหวานแทนน้ำตาล…เทวดาหรือซาตาน??!!!

สารให้ความหวาานแทนน้ำตาลหรือ Aspartame (สารแอสพาแทม)  เป็นสิ่งอันตรายที่อยู่อาหารและเครื่องดิ่มหลากหลายชนิด หลายๆท่านชอบรับประทานและคิดว่ามันจะช่วยไม่ให้เราอ้วนได้แต่ความจริงแล้วมันส่งผลเสียต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก สารแอสพาแทมสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างรุนแรงนั้นคือ โดยตัวมันเองสามารถละลายได้ ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมและกระจายไปทั่วร่างกาย  แตกต่างจากแซกคารีน (Saccharin) ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ เพราะระบบย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหารจะสะสมไว้ในร่างกายของเราและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราในภายหลัง แอสปาร์แตมเป็นสารให้ความหวานที่เกิดขึ้นจากการรวมสารเคมี 3 ชนิดเข้าด้วยกัน นั่นคือกรดแอสปาร์ติก (Aspartic Acid) ฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine) และเมธานอล (Methanol)จริงอยู่ที่ว่าสารทั้งสามนี้สามารถกำจัดออกไปจากร่างกายได้ แต่ถ้าบริโภคในปริมาณมากเกินไปอาจจะก่ออันตรายต่อร่างกาย อาการต่างๆที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับสาร Aspartame ในปริมาณที่มาก -อาการเกี่ยวกับหู มีอาการหูอื้อ ได้ยินเสียงก้องอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยเมื่อได้รับสาร Aspartame ถ้าบริโภคในปริมาณที่มาก ก็อาจจะสูญเสียการได้ยินได้เช่นกัน -อาการเกี่ยวกับตา   การบริโภคแอสปาร์แตมอาจจะทำให้มองภาพได้ไม่ชัด และมีอาการปวดตา -อาการเกี่ยวกับหน้าอก มีอาการหายใจลำบาก มีไหลเวียนขอรงเลือดลดลง ทำให้การเต้นของหัวใจมีความผิดปกติ  -อาการเกี่ยวกับทางเดินอาหาร มีอาการปวดท้อง ท้องร่วง อาจจะมีเลือดออกมาด้วย ปวด จุก เสียด และท้องอืด -ผมร่วง ประจำเดือนมาไม่ปกติ ระดูขาวมามากผิดปกติ บางคนอาจจะประสบกับปัญหาน้ำหนักลดและน้ำตาลในเลือดต่ำ -ก่อให้เกิดอาการทางระบบประสารทได้หลายอาการ เช่น การสูญเสียความจำ  อาการสับสน ไมเกรน วิงเวียนศีรษะ  อาการชัก พูดจาติดอ่าง เกิดอาการเหนื่อยล้าจนเกินปกติ ค่อนข้างน่ากลัวเลยนะครับ […]

1 2,866 2,867 2,868 2,874
error: