ทุบเพื่อสังคม!! หนุ่มทนไม่ได้ เห็นรถจอดในที่คนพิการ ให้ ผจก.ประกาศหาแล้วยังเงียบ ตัดสินใจทุบรถ ยอมควักจ่าย เพราะอยากเตือนสติ!!
เป็นดราม่ากันอีกครั้งสำหรับกรณีการจอดรถในที่คนพิการทั้งที่ตนเองปกติดี โดยเคสนี้เฟซบุ๊ก Peerapong Amornpich เป็นผู้ทุบรถเอง อัดคลิปเอง ยินดีจ่ายเงินค่าเสียหาย เพราะสุดจะทนที่เจ้าของรถไม่ยอมมาเลื่อนรถออกไปเสียที
โดยรายละเอียดเรื่องดังกล่าว เพจ Poetry of Bitch ลำดับเหตุการณ์ไว้ว่า
สรุปดราม่า
พลเมืองดีทุบกระจกรถสั่งสอน
อ้างยอมไม่ได้จอดในที่คนพิการ
:
1- "นายพีระพงค์" นักธุรกิจชาวเชียงราย พาครอบครัวไปทานเอ็มเคสุกี้ที่ห้างบิ๊กซีสาขาหนึ่งในจังหวัดเชียงราย
2- ที่ลานจอดรถ พีระพงค์เห็นชายหญิงคู่หนึ่งจอดรถตรงที่จอดคนพิการแล้วเดินเข้าห้างไป พีระพงค์สังเกตเห็นว่าคนทั้งคู่ไม่ได้พิการจึงไม่พอใจ
3- พีระพงค์จดทะเบียนรถไปแจ้งให้ประชาสัมพันธ์ประกาศมาเลื่อนรถ แล้วจึงเดินไปหาครอบครัวที่รออยู่ที่ร้านเอ็มเค
4- กินไปสักพักพีระพงค์ก็เดินกลับไปดูรถใหม่ เห็นยังจอดอยู่ที่เดิมจึงไปบอกให้ประชาสัมพันธ์ประกาศอีกครั้ง พร้อมบอกประชาสัมพันธ์ว่า "คุณจะทำอย่างไรก็ได้ให้เขามาเลื่อนรถภายใน 10 นาที ถ้าไม่มาผมจะทุบรถ"
5- เมื่อครบ 10 นาที ยังไม่เห็นเจ้าของมาเลื่อนรถ พีระพงค์ก็เดินไปจะทุบรถ แต่ผู้จัดการบิ๊กซีเดินมาขอร้องว่าอย่าทุบเลย ตนอาจโดนไล่ออกได้ พีระพงค์จึงบอกว่างั้นให้เวลาอีก 10 นาที
6- จากนั้นพีระพงค์เดินกลับไปกินสุกี้กับครอบครัวจนเสร็จ แล้วกลับมาที่รถคันดังกล่าว เห็นยังจอดอยู่ที่เดิม จึงลงมือทุบกระจกรถทันที
7- หลังทุบแล้ว พีระพงค์ให้ภรรยาพาครอบครัวกลับบ้านไปก่อน ส่วนตัวเองยืนรอเจ้าของรถอยู่ที่นั่น โดยทางบิ๊กซีก็ได้แจ้งตำรวจมาดูเหตุการณ์
8- เมื่อเจ้าของรถมาถึงก็ถามว่าใครป็นคนทุบรถ พีระพงค์เดินไปบอกว่า "ผมเอง ผมเห็นน้องจอดรถในที่คนพิการ ผมยอมให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทยไม่ได้ ผมจะจ่ายค่าเสียหายให้"
9- คนทั้งสองอ้างว่าไม่ทราบว่าเป็นที่จอดรถคนพิการ และไม่ได้ยินที่ประชาสัมพันธ์ประกาศให้มาเลื่อนรถ
10- ทั้งสองฝ่ายไปตกลงกันที่สถานีตำรวจ เจ้าของรถเรียกค่าเสียหายจากพีระพงค์ 70,000 บาท แต่ไกล่เกลี่ยจนตกลงกันได้ที่ 10,000 บาท
11- พีระพงค์บอกว่าที่ตนทำอย่างนี้เพราะต้องการสร้างสังคมไทยที่ดีให้ลูกหลานและตัวเอง ในขณะที่ตำรวจบอกเขาว่านี่ไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง
12- เสียงในสังคมแตกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเห็นดีเห็นงามกับพีระพงค์ อีกฝ่ายมองว่าพีระพงค์ไม่มีสิทธิ์ทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น และที่ทำไปก็เพื่อความสะใจของตัวเองเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก เพจ Poetry of Bitch, เฟซบุ๊ก Peerapong Amornpich
