เผยล่าสุด ขรก.มหาดไทยเกษียณ227คน ทั้ง “อธิบดีปค.- ปภ.” ผู้ว่าฯ17จว. รองผู้ว่าฯ44คน

Advertisement 21 มิถุนายน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย(มท.) เปิดเผยว่า ได้ลงนามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ข้าราชการพ้นจากราชการเพราะอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ (ครบเกษียณอายุ) ในสิ้นปีงบประมาณ 2566 ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2566 ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีข้าราชการพลเรือนสามัญที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และจะต้องพ้นจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป ตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ โดยเป็นผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 24 คน และตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (ระดับ 10 เดิม) ประเภทบริหารระดับต้น (ระดับ 9 เดิม) อำนวยการระดับสูง (ระดับ 9 เดิม) และระดับเชี่ยวชาญ (ระดับ 9 เดิม) ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และ 6 กรม ได้แก่ กรมการปกครอง […]

ดอกเบี้ยบ้านพุ่ง! หนุ่มแชร์ประสบการณ์ กู้บ้าน13ล้าน ผ่อนจนจบต้องจ่าย33ล้าน แนะวัยสร้างตัวระวังสิ่งต่อไปนี้!

หนุ่มคนนี้ได้โพสต์ข้อความว่า เพื่อนของตนซื้อบ้านในราคา 12.9 ล้านบาท และจากเอกสารก่อนปรับดอกเบี้ยครั้งล่าสุด ที่ดอกเบี้ย MRR 8.350% พบว่า หากเพื่อนผ่อนบ้านโดยที่ไม่โปะเลย จะจ่ายค่าบ้านรวมดอกเบี้ยที่ 33.1 ล้านบาท เท่ากับว่าจะต้องจ่ายค่าบ้านเกือบ 3 เท่าจากราคาบ้านที่กู้มา หนุ่มคนนี้ได้ตั้งคำถามว่า ทำแบบนี้ถือว่าธนาคารเอาเปรียบเกินไปหรือไม่ ดอกเบี้ยเงินฝากปรับขึ้นแค่ 0.25% แต่ดอกเบี้ยเงินกู้กลับสูงลิบ และมีการยัดเยียดให้พนักงานขายสินค้าประกันชีวิตให้ลูกค้า จึงจะได้ดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงกว่าปกติ ตนมองว่าเป็นการหลอกล่อน่าดู และตนขอฝากไปถึงรัฐบาลชุดต่อไป ให้แก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ประชาชนด้วย ประชาชนได้รับผลกระทบกว้างมาก และจะมีกี่คนในประเทศนี้ที่สามารถซื้อบ้านเงินสด ถ้าไม่มาจากตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดก็ทุนสีเทาทั้งนั้น ที่มีเงินสด 1,000,0000 ทุกวันนี้คอนโดยังแทบไม่ได้เลย บ้านเดี่ยวหลังเล็ก ๆ ราคาก็ 4-5 ล้านบาทไปแล้ว ถ้าดอกเบี้ยขาขึ้นขนาดนี้ ประชาชนไม่ต้องใช้ชีวิตหรอก จ่ายเงินแบงก์จ่ายนายทุนหมด มันมากเกินไป ทั้งนี้ เรื่องนี้ได้ถูกแชร์ออกไปนับหมื่นครั้ง และมีคนเข้ามาวิจารณ์เป็นจำนวนมาก พร้อมกับที่เจ้าของโพสต์ได้มาเพิ่มเติมว่า “ตนไม่ได้ต้องการบ่นหรือโวยวาย มันคือการตั้งคำถามจากคนที่ไม่รู้ ตนต้องการพูดถึงดอกเบี้ยลอยตัว ดอกเบี้ยขาขึ้นที่ทำประชาชนต้องรับภาระมาก เพราะตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ดอกเบี้ยเงินกู้ไม่มีแบบดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี แล้ว นั่นหมายความว่า […]

รร.ดังเมืองสมุทรสาคร แจงอาหารกลางวัน นร.ไข่ครึ่งซีกกันติดคอเด็ก ใครไม่อิ่มก็เติมได้

จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน โพสต์ข้อความเกี่ยวกับโครงการอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน โรงเรียนวัดพันธุวงษ์ (สมุทรสาคร) พร้อมระบุข้อความว่า ขนมจีนลูกชิ้นผ่าครึ่ง เมนูขนมจีนลูกชิ้นหนึ่งลูกผ่าครึ่ง ไข่ต้มครึ่งซีก และฝรั่งอีก 3 ชิ้น อาหารกลางวันของเด็กๆ โรงเรียนวัดพันธุวงษ์ จ.สมุทรสาคร ที่นี่มีเด็กนักเรียนตั้งแต่อนุบาลสองถึง ป.6 ในเทอม 1/66 รวม 171 คน อยู่ห่างจากโรงเรียนเทพนรรัตน์ ประมาณ 10 กิโล แม่ครัวรับเหมาชุดเดียวกัน ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนวัดพันธุวงษ์ (ปรีชาเลี่ยมราษฎร์บำรุง) ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยได้พบกับ น.ส.สุภาพ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนวัดพันธุวงษ์ บอกว่า ตามภาพที่ปรากฏเป็นอาหารของนักเรียนชั้นอนุบาล ซึ่งลูกชิ้นจะต้องผ่าครึ่ง ถ้าเด็กกินเต็มลูกอาจจะติดคอได้ ส่วนไข่ต้มเป็นไปตามเมนู Thai School Lunch ที่ในหนึ่งสัปดาห์จะต้องมีเมนูไข่ 1-2 ฟอง ซึ่งแต่ละสัปดาห์เราจะมีเมนูไข่แตกต่างกันไป บางสัปดาห์ก็มีถึง […]

กองทัพบกเลื่อนยศให้ “วรพจน์ เพชรขุ้ม” หลังดับเครื่องชนเคส “ผู้กองแคท”

ก่อนหน้านี้ที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเลื่อนยศของ “ผู้กองแคท” ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก อดีตนักร้องและนางงาม ที่ผันตัวเข้ารับราชการตำรวจ และโพสต์เลื่อนยศเป็น ร.ต.อ.หญิง และยังดูแลงานในวงการบันเทิงเป็นผู้บริหารรายการคอนเสิร์ตลูกทุ่ง ตามมาด้วยกระแสวิพากษ์วิจารณ์ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจง ดำเนินการตามหลักเกณฑ์กฎ ก.ตร.ตามขั้นตอน โดยในช่วงเวลานั้นได้มีเหล่าคนในวงการกีฬา ที่รับราชการ อย่าง วรพจน์ เพชรขุ้ม อดีตนักมวยสากลเหรียญเงิน โอลิมปิก 2004 ที่ประเทศกรีซ ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า “23 ปีเต็มๆ จ.ส.ต. สุดๆ ครับระบบราชการ ไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอ ก็อย่าไปหวังอีกปีกว่าๆ คงไม่ต้องไปวุ่นวายกะระบบที่ยืนกุมไข่และดีครับผม เหมาะสมครับท่าน” ล่าสุดมีรายงานว่า กองทัพบกได้พิจารณาให้ วรพจน์ ที่ปัจจุบันอยู่ในยศจ่าสิบตรี มีรายชื่อนายทหารประทวนที่เข้ารับการฝึกอบรม เพื่อเลื่อนฐานะเป็นนายทหารสัญญาบัตรจากโควต้าส่วนกลางกองทัพบก โดยจะทำการอบรมระหว่างวันที่ 1-30 สิงหาคมนี้   ข่าวจาก : มติชน

กรมศิลปากร ประกาศรายชื่อโบราณสถานพื้นที่ กทม. ล่าสุด มีที่ไหนบ้าง เช็กเลย

23 มิถุนายน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง รายชื่อโบราณสถานในเขตกรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 2 ตามที่ได้ออกประกาศกรมศิลปากร เรื่อง รายชื่อโบราณสถานในเขตกรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558 โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับประกาศและงานทั่วไป เล่ม 135 ตอนพิเศษ 165 ง วันที่ 12 กรกฎาคม 2561 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 อธิบดีกรมศิลปากรจึงประกาศรายชื่อโบราณสถานในเขตกรุงเทพมหานครเพิ่มเติม ดังนี้

เร่งหาสาเหตุถังดับเพลิงระเบิดในโรงเรียน ตร.จ่อแจ้งข้อหาประมาท 3จนท.สาธิต

ขณะนี้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าเก็บพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อตรวจสอบมาตรฐานและรายละเอียดของถัง ทั้งการทดสอบแรงดันและถูกนำมาใช้ซ้ำกี่รอบแล้ว รวมไปถึงขั้นตอนการบรรจุสารเคมีลงถังอีกด้วย หัวหน้าสถานีดับเพลิงสามเสน ซึ่งเป็นหัวหน้าต้นสังกัดของทีมดับเพลิงชุดสาธิต ได้นำถังชนิดเดียวกัน แต่ขนาดเล็กกว่า คือ ขนาด 10 ปอนด์ มาอธิบายกับทีมข่าว 3 มิติ โดยระบุว่า ถังที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่กว่า คือ ขนาด 15 ปอนด์ ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้มาเก็บไปตรวจสอบทั้งหมดแล้ว สำหรับถังชุดที่นำไปใช้สาธิต ทางหัวหน้าสถานียืนยันว่า ถังชุดดังกล่าวเพิ่งได้รับมอบมาไม่เกิน 2 ปี และผ่านการตรวจสอบความพร้อมการใช้งานเบื้องต้นทุกครั้งก่อนนำไปใช้ปฏิบัติงาน รวมทั้งต้องส่งตรวจสอบคุณภาพทุกครั้งตามรอบ ในช่วง 4-5 ปี โดยต้องนำไปตรวจสอบและบรรจุจากบริษัทเอกชนย่านพัฒนาการ แต่ก็ยอมรับว่าถังที่นำไปใช้สาธิตมีบางส่วนที่ผู้ฝึกอบรมนำมาเอง และ บางส่วนเป็นของส่วนกลาง จึงต้องมีการตรวจสอบความชัดเจนอีกครั้ง ทีมข่าวสอบถามถึงบันทึกการตรวจและบรรจุ เนื่องจากได้รับการยืนยันว่าต้องมีการบรรจุใหม่ทุกครั้ง แต่ทางหัวหน้าสถานี ระบุว่าบันทึกดังกล่าวอยู่ที่บริษัทเอกชนรายนั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบบันทึกดังกล่าวแล้ว ล่าสุดพลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหา 3 เจ้าหน้าที่สาธิต 3 คน ในข้อหากระทำการโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไปพิสูจน์ […]

กทม.เริ่มคิดค่าปรับก่อสร้างล่าช้าทางลอด “รัชดา-ราชพฤกษ์” วันละ2.3ล้าน เริ่มตั้งแต่21 มิ.ย.

22 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงการปรับเงินบริษัทเอกชนที่ปรับปรุงถนนล่าช้า บริเวณถนนรัชดาภิเษก แยกรัชดา-ราชพฤกษ์ เขตธนบุรี นายวิศณุกล่าวว่า โครงการก่อสร้างทางลอดรัชดา-ราชพฤกษ์ ประกวดราคาค่าก่อสร้าง วงเงิน 924,949,357.65 บาท สำหรับสัญญาการก่อสร้างหมดตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเริ่มคิดค่าปรับการก่อสร้างล่าช้าตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย. วันละ 2,312.374 บาท โดยเป็นการหักค่าปรับออกจากค่างานที่มีการส่งมอบ หากไม่พอจะเรียกเอาจากหลักประกันของสัญญา นายวิศณุกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม บริษัทเอกชนผู้รับจ้างมีการยื่นหนังสืออุทธรณ์เรื่องค่าปรับเข้ามาแล้ว ซึ่งทางคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องจะมีการพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ บริษัทเอกชนผู้รับจ้างยังมิได้แจ้งระบุวันก่อสร้างแล้วเสร็จมาแต่อย่างใด   ข่าวจาก : มติชน

แม่ขอชี้แจงบ้าง ยอมรับโพสต์เพราะโกรธ พยายามเคลียร์แต่ไม่เป็นผล ขอรับผิดคนเดียว

จากกรณีที่ คุณแม่ศศิกานต์ ตั้งประภาพร แม่ของนางเอกสาว พิม พิมประภา ได้โพสต์ข้อความฟาดลูกสาว ทั้งเรื่องที่ท้าให้นำหลักฐานช่วยที่บ้านใช้หนี้ และเรื่องที่ลูกสาวไม่อยากให้ไปร่วมงานแต่ง เพราะกลัวแม่เข้าไปวุ่นวาย จนทำให้นางเอกสาวพิม พิมประภา ออกมาให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตายอมรับว่าที่บ้านมีปัญหากันจริง แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าปัญหาเกิดจากอะไร ล่าสุดคุณแม่ศศิกานต์ ได้โพสต์ชี้แจงถึงเรื่องราวต่างๆ ผ่านทางเฟซบุ๊ก Sasikarn Tangprabhaporn ของตนเอง ว่า มีนักข่าวติดต่อผ่านทางเพจร้าน โทรหาพนักงานหน้าร้านและขอเบอร์ส่วนตัวแม่ และยังติดตามไปหาเพื่อนที่แม่แทคในไอจีเพื่อสอบถามเรื่องนี้ แม่ขอร้องอย่าไปรบกวนคนอื่นเลยนะคะ แม่ขอตอบในพื้นที่นี้ทีเดียวนะคะ แม่อ่านหลายเมนต์ที่หลายคนด่ารุนแรงถึงการโพสต์เหมือนประจานลูกตัวเอง แม่ไม่โกรธทุกคนเลยค่ะ เพราะแม่ทำผิดจริงๆ ที่ทำให้เรื่องมันลุกลามแบบนี้เลย แม่รักลูกเหมือนแม่คนอื่นๆค่ะ ทุ่มเททั้งชีวิต ทั้งหมดที่มีเพื่ออนาคตของลูกๆ แต่ที่โพสต์ไปเพราะตอนนั้นยอมรับว่าเสียใจมาก น้อยใจมากๆที่ได้ยินคำพูดของลูกๆ(ไม่มีน้องพลอยวันนั่นนะคะ)พูดในกล้อง และได้ส่งคลิปลงกลุ่มทีนที่กลุ่มที่มีป๊าและลูกๆอยู่ เพื่อเคลียร์ปัญหา ทุกคนอ่านแต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆและลูกก็ออกจากกลุ่มไป จึงทำให้เสียใจมากจึงโพสต์ไปแบบนั้นด้วยความโกรธ คนถามว่าทำไมไม่เคลียร์หลังบ้าน พยายามเคลียร์ปัญหาหลังบ้านแล้วค่ะ ทั้งไลน์ถามส่วนตัว หรือในกลุ่มอ่านแต่ก็เงียบกันหมด หลังจากแยกออกมาจนถึงวันนี้ระยะเกือบ 7เดือนก็ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ จนมาได้ยินจากกล้อง ทำให้เสียใจมากๆ เพราะหลังจากน้องพิมให้สัมไป มีผลกระทบกับแม่มากๆ แม่ต้องเครียด อึดอัดใจกับการตอบคำถามคนรอบข้างโดยแม่ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะยังไม่ได้คำตอบจากพิมและที่หลายคนด่าว่าที่เกิดปัญหาเพราะลูกไม่ให้เงิน แม่หน้าเงิน ต้องการเงินจากลูก ถมไม่เต็ม […]

อุทาหรณ์ ชายไต้หวันเอาหม้อซุปร้อนจัดเข้าตู้เย็น ทำทั้งครอบครัวอาหารเป็นพิษ-ดับสลด

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานกรณีครอบครัวหนึ่งในไต้หวันเข้ารับการรักษาด้วยอาการอาหารเป็นพิษรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตสลด 1 ราย และสมาชิกในครอบครัวอีก 5 คนถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน แพทย์สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการนำอาหารร้อนจัดแช่ในตู้เย็นทันที โดยไม่รอให้อาหารเย็นก่อน ตามรายงานของ ดร. Jiang Shousan แพทย์ทางโรงพยาบาล ระบุว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แพทย์ได้รับชายคนหนึ่งที่ฟอกไตมา 10 ปี โดยชายรายนี้ได้รับการรักษาอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นสุขภาพของเขาจึงค่อนข้างคงที่ ไม่มีความผิดปกติใดๆ แต่วันหนึ่งเขาถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินและเสียชีวิตอย่างกระทันหัน ต่อมาสมาชิกในครอบครัวอีก 5 คนของผู้ป่วยชายรายดังกล่าวก็ถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินด้วยเนื่องจากอาหารเป็นพิษ เมื่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สอบถามกับคนในครอบครัวว่า กินอะไรในวันนั้น พวกเขาค่อยๆ อนุมานได้ว่า ต้นเหตุที่ทำให้สมาชิกในครอบครัวทั้ง 6 คนต้องเข้าโรงพยาบาลน่าจะเป็น “ซุป” โดยชายคนหนึ่งในครอบครัวกลัวอากาศร้อน การทิ้งหม้อซุปไว้ข้างนอกจะทำให้แบคทีเรียเพิ่มจำนวนและกลัวเป็นอันตราย ดังนั้น ทันทีที่ภรรยาของเขาปรุงซุปเสร็จ เขาก็ตักซุปให้เพียงพอสำหรับทั้งครอบครัว แล้วใส่หม้อซุปร้อนทั้งหม้อในตู้เย็นโดยไม่รอให้ซุปเย็นลง และดูเหมือนเป็นการถนอมอาหารโดยไม่ได้ตั้งใจที่ทำให้อุณหภูมิตู้เย็นสูงขึ้นส่งผลต่อการถนอมอาหารอื่นๆ ทำให้เกิดโอกาสที่แบคทีเรียจะเพิ่มจำนวนและสร้างความเสียหายให้กับอาหารอื่นๆ ขณะที่ ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้เตือนว่า ซุปส่วนใหญ่เป็นน้ำ เมื่อน้ำมีอุณหภูมิสูงมักจะใช้เวลานานในการทำให้เย็นลง ตู้เย็นในครัวเรือนไม่ใช่คลังสินค้าที่เย็นเร็ว ซุปที่ร้อนเกินไปจะทำให้อุณหภูมิในตู้เย็นสูงขึ้น เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้อาหารอื่นเสีย อาหารที่ปรุงสุกแล้วควรทำให้เย็นสนิทก่อนเก็บในตู้เย็น เพื่อไม่ให้ตู้เย็นใช้เวลานานขึ้นและเพิ่มโอกาสทำให้อาหารอื่นเน่าเสีย นอกจากนี้ […]

เกาหลีใต้เล็งยกเลิก “โจทย์ยาก” ในข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย ลดพึ่งพา ร.ร.กวดวิชา

20 มิ.ย.เอเอฟพีรายงานว่า นายอี จูโฮ รมว.ศึกษาธิการเกาหลีใต้จะยกเลิกคำถามยากออกจากข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือข้อสอบซูนึงที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความยากอย่างมากในความพยายามที่จะลดการพึ่งพาโรงเรียนกวดวิชาเอกชนเพื่อเกิดระบบการสอบที่ยุติธรรม การประกาศยกเลิกดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งทุกปีนักเรียนมากกว่า 500,000 คนทำข้อสอบซูนึง 9 ชั่วโมง ซึ่งมีความสำคัญในการกำหนดมหาวิทยาลัย อาชีพ ตลอดจนอนาคตการแต่งงานของนักเรียน โดยนักเรียนไม่สามารถแก้โจทย์ข้อสอบยากดังกล่าวโดยการเรียนเพียงในสถานศึกษาของรัฐ จึงสร้างภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแก่ผู้ปกครองและนักเรียนที่หลั่งไหลไปเรียนโรงเรียนกวดวิชาเอกชนราคาแพง “ผมจะทำสุดความสามารถในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เอาโจทย์คำถามที่อยู่นอกระบบการศึกษาสาธารณะออกไปเพื่อทำให้การสอบเป็นการสอบที่ยุติธรรม” นายอี จูโฮกล่าว ความพยายามในอดีตที่จะเปลี่ยนระบบการสอบประสบความล้มเหลวในปีนี้ รวมถึงความพยายามที่จะกำจัด “โจทย์ยากขั้นเทพ” จากการสอบรอบเสมือนจริง ความสำคัญของการสอบถูกสะท้อนในหลายมาตรการพิเศษที่ทางการใช้เพื่อป้องกันปัญหารบกวนใดๆรวมถึงการระงับการขึ้น-ลงจอดของเครื่องบินที่สนามบินลหายแห่งระหว่างการสอบฟังภาษาอังกฤษ ความกดดันส่งผลต่อนักเรียนในระบบการศึกษาที่แข่งขันสูงอย่างมากของเกาหลีใต้ที่เป็นสาเหตุให้วัยรุ่นเกิดภาวะซึมเศร้าและอัตราการฆ่าตัวตาย ซึ่งสูงมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก นายอีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ควรทบทวนตัวพวกเขาเองเกี่ยวกับความล้มเหลวที่จะแก้ไขปัญหาความยากของข้อสอบ ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตอย่างมากของการศึกษาเอกชน และว่าขณะที่รัฐบาลยืนดูผลร้ายที่เกิดขึ้นอย่างเกียจคร้าน กระเป๋าเงินของโรงเรียนกวดวิชาก็อ้วนขึ้น ครอบครัวเกาหลีใต้ใช้จ่ายเงินกว่า 20,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือราว 6.9 แสนล้านบาทในการศึกษาเอกชนของนักเรียนประถม มัธยมต้นและมัธยมปลายเมื่อปี 2565 ซึ่งเฉลี่ยต่อเดือน คิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อหัว 320 ดอลล่าร์สหรัฐหรือราว 11,000 บาท   ข่าวจาก : ข่าวสด

1 164 165 166 2,878
error: