ภูมิธรรม เวชยชัย

Advertisement 3 มี.ค. สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง ประเมินผลงานรัฐบาล 6 เดือน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ อายุ 18 ปีขึ้นไป ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวน 1,289 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-2 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา Advertisement เมื่อถามถึงรัฐมนตรีที่ประชาชนรับรู้และพอใจเรื่อง แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เมื่อตอบได้มากกว่า 1 ท่าน พบว่า 5 อันดับแรก รัฐมนตรีที่ประชาชนรับรู้และพอใจเรื่อง แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ได้แก่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ร้อยละ 67.5 รองลงมา อันดับที่สอง ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร้อยละ […]

24 ก.ย. นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อยากทาบทามมาร่วมคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ ว่า ขอบพระคุณมากที่ยังนึกถึง แต่ท่านอาจจะไม่นึกถึงก็ได้ แต่มีสื่อฯ ไปถามนำท่านก่อน แต่ก็ขอบคุณที่นึกถึง ซึ่งงานที่ทำเป็นงานใหญ่ ใช้เวลาและยุ่งยาก ข้อสำคัญอยู่กับความเห็นที่แตกต่าง ที่อาจจะเกิดความขัดแย้ง “ผมพ้นออกมาจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็ไม่ควรจะกลับไปเป็นบุคคลสาธารณะอีก เพราะการไปทำงานนี้ คือไปเป็นบุคคลสาธารณะอย่างยิ่ง ทุกวันนี้ก็สบายอกสบายใจอยู่แล้ว” นายวิษณุ กล่าว… เมื่อถามว่า หากมาขอคำแนะนำเป็นบางครั้งบางคราว นายวิษณุ กล่าวว่า ด้วยความยินดี ซึ่งที่ผ่านมาก็มีอยู่บ้างคือรัฐมนตรีหน้าเก่าๆ ที่เคยอยู่ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งคุ้นเคยกันอยู่ ท่านก็โทรมาถามแบบที่สื่อฯ สอบถามว่า สมัยนั้นสมัยนี้เป็นอย่างไร แต่ไม่ถามว่า ควรจะอย่างไร เพราะท่านตัดสินใจเองได้ และถามเรื่องในอดีต อาทิ มติ ครม.เก่าๆ ซึ่งก็มีคนโทรมาถามบ่อยๆ ทุกวัน นายวิษณุ กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เรื่องนี้ตอบไม่ถูก แต่ให้เขาคิดกันเอง เพราะว่ายุ่งยากซับซ้อน ข้อสำคัญหากจะใช้วิธีไหนก็ตาม ก็ควรจะหลบหลีกการทำประชามติหลายครั้ง และเห็นด้วยกับแก้ไขเป็นรายมาตรา ทีละหลายๆ […]

(12 ส.ค. 66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการรวบรวมเสียงที่จะโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยซึ่งล่าสุดมีทั้งหมด 315 เสียงว่า ขณะนี้หากนับเสียงที่ชัดเจนที่จะโหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยนั้น ตัวเลขที่ชัดเจนจริงๆ ยังอยู่ที่ 278 เสียง ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง, พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง, พรรคประชาชาติ 9 เสียง, พรรคเพื่อไทยรวมพลัง 2 เสียง, พรรคชาติพัฒนากล้า 2 เสียง ส่วนพรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย พรรคละ 1 เสียง รวมเป็น 238 เสียง รวมกับทางพรรคพลังประชารัฐที่ประกาศจะยกมือให้กับพรรคเพื่อไทยอีก 40 เสียง ทำให้มีเสียงรวมกันอยู่ที่ 278 เสียง ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น เราถือว่ายังไม่ชัดเจน เพราะทางนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ว่ายังต้องขอคุยกันภายในพรรคก่อน ขณะที่พรรคประชาธิปไตยใหม่อีก 1 เสียงนั้น ขณะนี้เรายังไม่ตอบรับ […]

16 พ.ค.2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ร่วมมือเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาล พาประเทศออกจากหลุมดำ ผลการเลือกตั้งที่ออกมาได้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ว่าต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง และต้องการให้ประเทศคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด นายภูมิธรรม ระบุต่อว่า ถึงแม้ว่าผลการเลือกตั้งในครั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะได้รับความไว้วางใจมาเป็นอับดับสอง แต่ผมรับรู้ว่านี่คือชัยชนะของประชาชน เป็นชัยชนะอีกก้าวหนึ่งของฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งนับเป็นการเดินทางก้าวสำคัญที่จะร่วมมือกันเปลี่ยนแปลง และนำประเทศไทยให้ออกมาจากหลุมดำของปัญหาที่ทำให้เราต้องทนทุกข์มา 8-9 ปี อันเป็นช่วงเวลาที่ต้องช่วยกันทำให้ประเทศเข้มแข็ง และทำให้ความหวังต่อชีวิตของประชาชนเป็นจริง นายภูมิธรรม ระบุอีกว่า คะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ถือเป็นการแสดงเจตจำนงที่ชัดเจนว่าต้องการมอบอำนาจให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเข้ามาบริหารประเทศ เป็นเพื่อนร่วมทางกับประชาชนในการแก้ไขปัญหา ในสถานการณ์เช่นนี้ผมคิดว่าทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ควรใช้โอกาสนี้ร่วมมือกันช่วยให้การเปลี่ยนผ่านรัฐบาลระหว่างชุดเก่ากับชุดใหม่ตามกลไกการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปตามระบบ เคารพในอำนาจและฉันทามติให้แก่พรรคการเมืองที่ประชาชนเลือก นายภูมิธรรม ระบุว่า และทำให้กระบวนการเคลื่อนสู่ระบบประชาธิปไตยอย่างราบรื่น ไม่เข้าสู่สถานการณ์ทางตันแบบไปต่อไม่ได้ ผมขอแสดงความยินดีกับผู้สมัคร ส.ส.จากทุกพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน ให้เข้ามาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และขอแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกลที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง “ในฐานะที่เราต่างเป็นส่วนหนึ่งของกลไกที่สำคัญในระบอบประชาธิปไตย ผมหวังว่ากลไกทางการเมืองทุกส่วน จะเคารพเสียงของประชาชน และร่วมมือกันรักษาประโยชน์ของประชาชน หวังว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะไม่ใช่เรื่องการเปลี่ยนตัวบุคคล แต่เป็นการรักษาคำมั่นที่จะคืนความกินดีอยู่ดี คืนสิทธิและความหวังให้แก่พี่น้องประชาชน ที่สำคัญคือฝ่ายประชาธิปไตยยังมีพันธกิจที่ต้องทำมากมายในระยะยาวตามที่ได้ให้สัญญาเอาไว้” นายภูมิธรรม ระบุ   ข่าวจาก : ข่าวสด