เร่งติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง “มอเตอร์เวย์โคราช” รวมระยะทาง 80 กม. เปิดวิ่งฟรี 28 ธ.ค.นี้

Advertisement จากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีคำสั่ง ให้เปิดใช้ถนนมอเตอร์เวย์ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ธ.ค. 2566)บรรดาช่างไฟฟ้าของบริษัทผู้รับเหมา ได้เร่งติดตั้ง ระบบ ไฟส่องสว่าง บนถนนมอเตอร์เวย์ จุดทางลงเชื่อมต่อกับถนนเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมความพร้อม ที่จะเปิดให้บริการประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ Advertisement โดยจะเปิดใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 6 (M6) วิ่งฟรีตลอด จนกว่าการก่อสร้างทางหลวงพิเศษ ระหว่างเมืองหมายเลข 6 (M6) จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ พร้อมสั่งการให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวง เปิดใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 ตอน 24 ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ถึง ตอน 40 อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา […]

จับตารัฐบาลบีบ ‘ปตท.’ ลดราคาก๊าซ อุ้มค่าไฟประชาชนทั่วไป 4.1 บาท

รายงานข่าวระบุว่า ภายหลังที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ถึงกรณีที่สำนักงานกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเห็นชอบให้ปรับค่าไฟฟ้าผันแปล (เอฟที) ขายปลีก สำหรับเรียกเก็บในงวดเดือน ม.ค. – เม.ย. 2567 เท่ากับ 89.55 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 69.07 สตางค์ต่อหน่วย ทั้งนี้ เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บของผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ส่งผลให้ฝ่ายรัฐบาลอยู่ระหว่างหาแนวทางเพื่อปรับลดค่าไฟฟ้าเพื่อคงให้อยู่ในระดับ 3.99 บาทต่อหน่วย เทียบเท่างวดที่เรียกเก็บปัจจุบัน (ก.ย.-ธ.ค. 2566) หรือไม่ควรเกิน 4.20 บาทต่อหน่วย อย่างไรก็ตาม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำให้ค่าไฟฟ้าอยู่ที่ระดับ 4.20 บาทต่อหน่วย ในขณะที่ นายกฯ ต้องการที่จะให้ลดค่าไฟฟ้าให้เหลือในระดับ […]

ครม. เห็นชอบหลักการ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่ 1.8 หมื่นบาท

28 พ.ย. นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธาน เห็นชอบหลักการให้มีการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ตามข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการพลเรือน (ก.พ.) โดยปรับขึ้นในส่วนของข้าราชการบรรจุใหม่ปีละ 10% ใน 2 ปีงบประมาณ ได้แก่ ปีงบประมาณ 2567 และปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจะทำให้เงินเดือนของข้าราชการบรรจุใหม่อยู่ที่ 18,000 บาทต่อเดือน ในปีงบประมาณ 2568 จากปัจจุบันอยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือน โดยการเริ่มปรับฐานเงินเดือนข้าราชการจบใหม่ 10% จะเริ่มต้นในเดือน พ.ค. หน้า หลังจากที่ พ.ร.บ.งบประมาณ ประกาศใช้แล้ว สำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อยอื่นๆ ที่เข้ามารับราชการก่อน และยังไม่ถึงระดับชำนาญการ (C8) และยังมีเงินเดือนไม่ถึง 18,000 บาทต่อเดือน จะมีการปรับฐานเงินเดือนขึ้นไปให้อยู่ในที่สูงกว่าข้าราชการบรรจุใหม่ โดยในช่วงเวลาที่ยังไม่ได้ปรับฐานเงินเดือนให้กับข้าราชการที่เข้ามารับราชการก่อนและเงินเดือนยังไม่ถึง 18,000 บาท […]

ยกเลิกแล้ว ตำรวจจีนลาดตระเวนในไทย ผู้ว่า ททท. น้อมรับ สื่อสารผิดพลาด

14พ.ย.66 นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยล่าสุด กรณีแนวคิดให้ตำรวจจีนมาร่วมลาดตระเวนกับตำรวจไทย ว่าขณะนี้ยกเลิกแนวคิดดังกล่าวแล้ว ถึงแม้จะมีการสื่อสารต่อสาธารณะ แต่เนื่องจากชื่อของโครงการมีคำว่า “ลาดตระเวน” ทำให้มีเสียงสะท้อนในสังคม จนกลายเป็นกระแสเชิงลบ ขอน้อมรับเสียงสะท้อนของทุกคน ขออภัยที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวอีกว่า เรื่องนี้มาจากเจตนาที่ดี แต่ใช้คำสื่อสารไม่ตรงความหมาย ทำให้สังคมกังวลกับแนวคิดที่สื่อออกไป เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ แต่แนวคิดของโครงการนี้ เป็นความร่วมมือในการประสานข้อมูลระหว่างตำรวจ 2 ประเทศ ที่เป็นประโยชน์ต่อตลาดท่องเที่ยว พร้อมกับการเชิญตำรวจของจีนมาดูงานในแหล่งท่องเที่ยวของไทย เพื่อให้มั่นใจว่า เรายกระดับดูแลนักท่องเที่ยว ด้าน นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีนี้ ณ ทำเนียบรัฐบาลว่า รัฐบาลไม่มีแนวทางที่จะให้ตำรวจจีนมาลาดตระเวนร่วมกับตำรวจไทย ศักยภาพตำรวจไทยดีมากอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจท่องเที่ยว มีการทำงานอย่างหนักร่วมกัน เชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวได้ เพราะผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้มีการจัดตำรวจท่องเที่ยวไปประจำในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น วัดพระแก้ว รวมถึงทำงานร่วมกับกรมเจ้าท่าเพื่อดูแลบริเวณท่าเรือที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ   ข่าวจาก : tnews

เปิดเงื่อนไข แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท สินค้าอะไรบางที่ซื้อได้ – ไม่ได้

เงื่อนไขเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซื้อสินค้าได้-ไม่ได้ จากการแถลงข่าวนโยบายแจกเงิน เติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต ส่องเงื่อนไขเงินดิจิทัล 10,000 บาท ไม่สามารถซื้อสินค้าประเภทใดได้บ้าง หลังนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เคาะวงเงิน 6 แสนล้านแจกกลุ่มเป้าหมาย 50 ล้านคน ประชาชนที่อยู่ในเกณฑ์ คือ เงินเดือนไม่เกิน 70,000 บาทต่อราย และ/หรือ มีเงินฝากไม่เกิน 5 แสนบาท นั้น สำหรับ เงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้สิทธิ์ใช้โดยกำหนดระยะเวลา 6 เดือน ครอบคลุมการใช้จ่ายในระดับอำเภอ ยึดตามบัตรประชาชน โดยโครงการฯจะสิ้นสุดในปี พ.ศ.2570 โดยแหล่งที่มารัฐบาลจะใช้วงเงิน 6 แสนล้านบาทเพื่อดำเนินการในส่วนนี้ คือ 5 แสนล้านบาทจะมีการใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนี้ส่วนอีก 1 แสนล้านบาท รัฐบาลจะนำเงินไปใส่ในกองทุนเสริมสร้างการแข่งขันในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (New S Curve) เพื่อใช้ในการให้สิทธิประโยชน์ในการดึงอุตสาหกรรมเป้าหมายเข้ามาลงทุน โดยกองทุนนี้จะใช้ในการดึงดูดการดึงบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น เงื่อนไขการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 […]

‘นายกฯ’ ลั่นแจก 1 หมื่นถ้วนหน้า ไม่ทบทวน แต่พร้อมรับฟังทุกฝ่าย

6 ตุลาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประชุมร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 20 นาที จากนั้นนายเศรษฐาได้เดินทางกลับเพื่อไปตรวจเยี่ยมอุทกภัยที่ จ.อุบลราชธานี โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าได้ขอให้ ส.อ.ท.ทำแอ๊กชั่นแพลนเพื่อย่อยข้อเสนอทั้ง 8 ข้อ จากนั้นจะให้ทีมงานร่วมหารือกับ ส.อ.ท.ในแต่ละข้อเสนอเพื่อแก้ไขและผลักดันร่วมกันต่อไป นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ได้เสนอนายกรัฐมนตรี 8 ข้อเสนอหลักจาก 70 ข้อ เน้นพัฒนา 3 ด้านคือ การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน การขับเคลื่อนจีดีพีให้เติบโตมาก และการพัฒนาเศรษฐกิจแบบบีซีจี 8 แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ได้แก่ 1.การปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ เพื่อส่งเสริมอีสออฟดูอิ้งบิซิเนส และเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจ 2.การพัฒนาบุคลากร เพิ่มผลิตภาพแรงงาน และแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานทั้งระบบ 3.การบริหารจัดการด้านพลังงานทั้งระบบรองรับการเปลี่ยนผ่านพลังงาน 4.การส่งเสริมการส่งออก การค้า และสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 5.การยกระดับอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมและดิจิทัล 6.การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน การบริหารจัดการทรัพยากรนํ้า และการมุ่งสู่เป้าหมายเน็ตซีโร่ 7.การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี […]

“เศรษฐา” ประกาศทุ่ม “5.6 แสนล้าน” เดินหน้า “ดิจิทัลวอลเล็ต” ไม่ต้องห่วง ก.พ.นี้ ได้ใช้แน่นอน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ตุลาคม ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ชั้น 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานพิธีเปิดโครงการประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยกล่าวช่วงหนึ่งว่า การฟื้นฟูรายได้ รัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2567 ด้วยการอัดฉีดเงิน 560,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นระดับชุมชน กระตุ้นอุปสงค์ ก่อนขับเคลื่อนอุปทาน สิ่งที่รัฐได้กลับมา คือ ภาษี ในระยะเวลา 6 เดือน ให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ “ไม่ต้องห่วงครับใช้ได้แน่นอนภายในเดือน ก.พ.นี้” นายเศรษฐากล่าวและว่า สำหรับค่าแรงขั้นต่ำ เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นจะขยับค่าแรงไปถึง 400 บาทต่อวันให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งถือเป็นก้าวแรก   ข่าวจาก : มติชน

นายกฯ ส่งต่อเงินเดือน-เบี้ยประชุมทุกบาท ให้มูลนิธิต่างๆ เพื่อผู้ด้อยโอกาส

28 ก.ย. 66 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอส่งต่อเงินเดือน และเบี้ยประชุมของทุกเดือนที่ได้รับจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตลอดการดำรงตำแหน่งให้มูลนิธิฯ ต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้เปราะบางที่ต้องการการช่วยเหลือ   นายชัย กล่าวว่า นายกฯ มีดำริว่า “การให้” เป็นเรื่องที่ดี ตามแต่กำลังศรัทธาของแต่ละคน นายกฯจึงตั้งใจเริ่มที่ตัวเองก่อน ขณะที่รัฐบาลเองมีหลายนโยบายที่พยายามอย่างมากในการมุ่งสร้างประโยชน์สุข และความเป็นอยู่ที่ดีให้กับคนไทย โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ทำให้เด็กที่มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบ ทั้งยังสามารถได้รับการศึกษาได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งทั้งหมดของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทั้งหมด หลังจากได้รับมาแล้วรวมเป็นเงิน 125,590 บาทต่อเดือน (เงินเดือนตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 75,590 บาท เงินประจำตำแหน่ง 50,000 บาท) ขอส่งต่อให้กับกลุ่มที่เปราะบาง ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ทันที แต่สิ่งที่ทดแทนไม่ได้ คือหน้าที่ของรัฐที่ต้องดำเนินการสนับสนุนมูลนิธิต่างๆ เป็นการช่วยเหลืออีกทางหนึ่งซึ่งทำได้เร็วกว่าการพึ่งระบบของรัฐที่ต้องใช้เวลา เพราะต้องอาศัยการทำผ่าน พรบ. ต่างๆ ตามกลไกของรัฐสภาในการดำเนินการเพียงอย่างเดียว   นายชัย กล่าวอีกว่า สำหรับการคัดเลือกองค์กรที่จะได้รับความช่วยเหลือนั้น […]

โฆษก รบ.แจง บิลค่าไฟเดือน ก.ย. ฉบับที่ออกก่อนมติครม. ใครไม่ได้ส่วนลด จะคืนให้บิลหน้า

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่ ครม. มีมติลดค่าไฟฟ้า เนื่องจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีการพิมพ์และส่งใบแจ้งหนี้ค่าไฟของรอบเดือนกันยายน 2566 ออกไปบางส่วนแล้วประมาณ 8 ล้านฉบับ หรือประมาน 30% ก่อนที่จะมีมติครม.ลดค่าไฟฟ้าออกมา ดังนั้น ถ้ามติออกมาก่อน ทำใบแจ้งหนี้ที่ยังไม่ได้ออกให้ผู้ใช้ไฟฟ้าจะเป็นบิลตามมติ แต่ถ้าวางใบแจ้งไปแล้วแต่ผู้ใช้ไฟฟ้ายังไม่ได้ชำระเงิน จะปรับปรุงบิล เวลาผู้ใช้ไฟฟ้าชำระเงินจะเป็นยอดใหม่ที่ลดแล้ว ส่วนกรณีสุดท้าย ถ้าผู้ใช้ไฟฟ้าจ่ายเงินไปแล้ว ตามใบแจ้งหนี้ที่ยังไม่ได้ลดราคา ขอให้ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ต้องกังวล จะไปคืนให้โดยนำไปลดกับใบแจ้งหนี้ค่าไฟเดือนถัดไป   ข่าวจาก : thebangkokinsight

“เศรษฐา” สั่งยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี มีผล20ก.ย.นี้เป็นต้นไป

18 กันยายน 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศเรื่อง ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี ลงนามโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ลงวันที่20 กรกฏาคม พ.ศ. 2548 และได้ประกาศการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อใช้มาตรการต่าง 1 ที่บัญญัติไว้ในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เข้าดำเนินการในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของรัฐและประชาชน ภายในเขตพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง นั้น โดยที่ปรากฏว่า ในปัจจุบันสถานการณ์อันเป็นเหตุให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในขตท้องที่อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี อยู่ในภาวะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐสามารถใช้มาตรการต่าง ๆ เข้าควบคุม ระงับยับยั้ง และแก้ไขปัญหาได้ตามปกติแล้ว ดังนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคสาม ประกอบกับมาตรา11 วรรคสาม แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นายกรัฐมนตรี จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2566 เป็นต้นไป

1 2 3 4
error: