ช่วยกันหน่อย! ตาจูงหลานมาต่ออายุบัตรคนพิการ ดวงซวยทำเงินหาย1.5หมื่น วอนคนเก็บได้ส่งคืน

Advertisement ตาวัย 72 ปีชาวบุรีรัมย์พาหลานสาวพิการวัย 6 ขวบนั่งรถประจำทางมาต่ออายุบัตรคนพิการที่ รพ.บุรีรัมย์ ดวงซวยทำกระเป๋าที่มีเงินสดกว่า 15,000 บาทหล่นหาย โร่แจ้งตำรวจช่วยตามหา พร้อมวอนพลเมืองดีหากเก็บได้ช่วยส่งคืนเพราะเป็นเงินเบี้ยยังชีพคนพิการ เบี้ยผู้สูงอายุที่เก็บสะสมไว้ใช้ยามจำเป็นฉุกเฉินของครอบครัว ผู้สื่อข่าวและประชาชนสงสารให้เงินค่ารถกลับบ้าน Advertisement         Advertisement 4 ต.ค.59 ผู้สื่อข่าวได้สังเกตเห็นสองตาหลานจูงแขนกันเดินไปมาอยู่บริเวณหน้า สภ.เมืองบุรีรัมย์อยู่พักใหญ่ โดยคุณตามีท่าทางร้อนรนและสีหน้าทุกข์ใจ จึงได้เดินเข้าไปสอบถามจึงทราบว่าคุณตาคนดังกล่าวชื่อ นายแผน แผ้วพลสง อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.8 ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมเล่าให้ฟังว่าช่วงเช้าได้นั่งรถโดยสารประจำทางออกมาจากบ้าน เพื่อพา ด.ญ.อริสา แผ้วพลสง หรือน้องแพม วัย 6 ขวบ หลานสาวซึ่งพิการพูดไม่ได้มาตั้งแต่กำเนิด ไปทำเรื่องต่ออายุบัตรคนพิการที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์         แต่พอลงจากรถจะเดินเข้าโรงพยาบาลล้วงหากระเป๋าสตางค์สีดำ ซึ่งใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อไม่เจอคาดว่าน่าจะหล่นหายโดยไม่รู้ตัว โดยในกระเป๋าสตางค์ดังกล่าวมีเงินสดอยู่กว่า 15,000 บาท ซึ่งคุณตาได้เก็บสะสมจากเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั้งของตนเอง และภรรยา รวมถึงเงินเบี้ยคนพิการของหลานสาว และเงินที่ลูกชายส่งมาเป็นค่าเล่าเรียนอีกเดือนละ 3,000 บาท […]

หันหลังให้ชีวิตโรงงาน กลับบ้านเลี้ยง”ฮวก”ที่อุดร ขายกิโลละ400 มีเงินเหลือกินเหลือเก็บสบาย

เพราะงานคือเงิน หลายคนจึงจำเป็นต้องเดินทางไกลเพื่อไปหางานทำ บางคนโชคดีได้ความก้าวหน้า ได้ลืมตาอ้าปากสมใจหวัง แต่ก็มีอีกหลายคนที่โชคร้าย เหมือนหนีเสือปะจระเข้ มีงาน มีเงินเดือนก็จริง แต่ชักหน้าไม่ถึงหลัง หลายๆ เดือนก็แค่พออยู่พอกินไปวันๆ ไม่เห็นความก้าวหน้า ซึ่งในจุดนี้บางคนก็อาจคิดที่จะเสี่ยงชีวิตต่อในเมืองกรุง แต่บางคนก็ขอยอมแพ้ กลับไปซบอกที่บ้านเกิดดีกว่า เพราะอย่างน้อยค่าครองชีพก็ไม่แพงมากเหมือนที่อื่น เมื่อวันที่ 3 ต.ค.59 ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" เดินทางที่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 12 บ้านธาตุสามัคคี ต.กุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี หลังจากที่ได้ทราบว่าได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้เลิกจากไปขายแรงงานในโรงงานที่ จ.ชลบุรี กลับบ้านมาทำอาชีพ เลี้ยง “ลูกอ๊อด” หรือที่ชาวอีสานเรียกว่า “ฮวก” ขาย ซึ่งทำให้มีรายได้ดี เนื่องจากตลาดยังขาดแคลน เมื่อไปถึงพบนายธนากร หอมดวง อายุ 26 ปี กำลังตักฮวกขายให้ลูกค้าในราคาขีดละ 40 บาท หรือกก.ละ 400 บาท ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ฮวกมีราคาแพง 1 ครั้ง เนื่องจากเข้าหน้าหนาวกบเลิกผสมพันธ์ เตรียมจำศีล ทำให้มีฮวกจำนวนน้อย […]

เนียนได้อีก! ตร.หนุ่มปลอมตัวเป็นเด็กแว้นแฝงเข้ากลุ่มซิ่ง ซ้อนแผนพาเข้าซอยตัน รวบยกแก๊ง

การวางกำลังจับกุมผู้กระทำความผิดบนท้องถนน หรือ กลุ่มเด็กแว้น หลายครั้งเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะแก๊งจยย.เหล่านี้ เมื่อรวมตัวกันครั้งหนึ่งจะมีจำนวนมากบางครั้งเกือบร้อยคัน ดังนั้น การเข้าจับกุมจึงต้องวางแผนมาอย่างดี โดยเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา พบว่า สภ.ประพระแดง สามารถจับ จยย.ซิ่งได้ทั้งหมด 72 คน โดยพบว่าหนึ่งในกระบวนการจับกุมนั้น มีสมาชิกเฟซบุ๊ก Ruttanon pinta ถ่ายภาพจนเองที่แต่งตัวคล้ายเด็กแว้นพร้อมโพสต์ข้อความว่า “อวสาน ปิดกล่อง “ค่ำมากูซิ่ง สุขสวัสดิ์” ภารกิจเนียนๆเด็กแว้น เนียนเกินจนพักพวกจับกันเอง เหมือนโอคอนเนอร์ แอบเข้าไปในแก็ง วีนดีเชล เลยแหะ แต่ผิดกันที่เป็น มอไชต์และไม่ได้ปล่อยผู้ต้องหานะ 02.00 ยันสว่าง” [ads]   ต่อมา ทราบว่า คือ ส.ต.ต.ชล เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับร้องเรียนเรื่องเด็กแว้น ก่อความเดือดร้อนรำคาญ จึงวางกำลังปิดล้อม ซึ่งตนและเพื่อนตำรวจนอกเครื่องแบบ “ชุดมดเอ็กซ์” ได้วางกำลังอยู่ตามซอยต่างๆ และเมื่อถึงกำหนดตามที่นัดหมายจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการเข้าปิดล้อม ตนจึงได้แฝงตัวในกลุ่มเด็กขับขี่รถจักรยานยนต์นำไปซอยตัน จากนั้นจึงได้ทำการเข้าจับกุมทันที ข่าวจาก : khaosod.co.th [ads=center]

เจ้าหนี้ผูกคอตาย ทิ้งจดหมายสั่งเสีย “หนี้ที่เหลือคนอื่นไม่ต้องทวง ตายแล้วจะตามไปทวงเอง”

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่3ตุลาคม 2559 พ.ต.ท.พงษกร ธนะวัง พนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด จังหวัดตาก รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 9/2 หมู่ที่ 2 ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หลังรับแจ้งจึงประสานฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอดและหน่วยกู้ภัยตำบลแม่ปะ รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่ใจกลางชุมชนภายในหมู่บ้านแม่ปะกลาง และพบบรรดาไทยมุงมามุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก จนเจ้าหน้าที่ต้องกั้นพื้นที่ และพบบ้านเกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวยกสูง และภายในบ้านพบศพนาง เสาร์พร จี๋ใจหล้า แม่ม่ายอายุ 60 ปี ในสภาพใช้เชือกผ้าผูกคอตัวเองไว้กับขื่อบ้าน เสียชีวิตในท่ายืนและสวมเสื้อผ้าชุดใหม่แต่งหน้าทาปากสวยงาม จากการตรวจสอบโดยรอบร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินตรวจรอบจุดเกิดเหตุ ก็พบจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของผู้ตาย มีใจความเขียน ตัดท้อถึงเพื่อนชื่อคำ ซึ่งติดหนี้ผู้ตายกว่าสองแสนบาท และไม่ยอมจ่ายเงินคืน และผู้ตายจะขอตามไปทวงเงินคืนหลังจากที่ตายไปแล้ว จนสร้างความตกใจให้แก่บรรดาชาวบ้านที่อ่านจดหมายลาตายนี้ ต่างจับกลุ่มพูดถึงเรื่องวิญญาณเฮี้ยนตามอาฆาตทวงหนี้ลูกหนี้สร้างความหวาดกลัวไปทั้งชุมชน จนผู้นำชุมชนต้องไปเชิญพ่ออาจารย์หมอผีประจำหมู่บ้านให้มาทำพิธีสะกดวิญญาณไม่ให้อาฆาต ก่อนจะนำศพไปบำเพ็ญพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดภายในหมู่บ้าน จากการสอบสวนของตำรวจทราบว่า ผู้ตายมีปัญหาหนี้สินรอบตัว จนต้องนำที่ดินไปจำนองและให้เพื่อนกู้ยืมแต่เกิดโดนเบี้ยวชำระหนี้ จนเจ้าหนี้จะมายึดที่ดิน จนทำให้ผู้ตายเกิดความเครียดสูง โดยช่วงเช้าผู้ตายได้ส่งข้อความทางระบบไลน์ มาหากลุ่มเพื่อน เพื่อขออาหารเช้า แต่พอเพื่อนนำอาหารมาให้ที่บ้านก็ถึงกับตกใจเมื่อพบผู้ตายใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว ข่าวจาก : khaosod.co.th

ซาบซึ้งบุญคุณครู สาวมาเลย์วัย27 บริจาคตับช่วยชีวิตครูวัย57

เว็บไซต์ เดอะสตาร์ ของมาเลเซียนำเสนอเรื่องราวความเสียสละของ นางมารี คริสตี โรเบิร์ต อายุ 27 ปี ซึ่งตัดสินใจบริจาคตับของตัวเองร้อยละ 61 ให้ นายชอง ซิว ฮัว อายุ 57 ปี คุณครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในรัฐซาบาห์ ฝั่งเกาะบอร์เนียวของมาเลเซีย เนื่องจากเป็นไวรัสตับอักเสบบี โดยรอรับบริจาคตับอยู่ นายคุง เมิร์ง อายุ 28 ปี ลูกชายนายชอง กล่าวว่า คาดไม่ถึงว่า นางมารีมุ่งมั่นตั้งใจบริจาคตับ เธอเป็น “ปาฏิหาริย์” ต่อครอบครัว ก่อนหน้านี้ น้องสาวของนายชองจะบริจาคแล้ว แต่สุขภาพไม่แข็งแรง [ads] นางมารีกล่าวว่า นายชองเป็นผู้มีบุญคุณอย่างใหญ่หลวง เธอจึงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ แม้ว่าสามีจะทัดทานและมีลูกด้วยกันก็ตาม โดยเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับที่โรงพยาบาลในปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา “เมื่ออายุ 13 ปี ดิฉันอ่อนคณิตศาสตร์ แต่คุณครูให้คำปรึกษามาโดยตลอด และสอนนอกชั้นเรียนให้ จนผ่านเกรด ฉันผ่านคณิตศาสตร์ จึงไม่ลืมบุญคุณครู” นางมารี กล่าว โชคชะตาเหมือนจะเข้าข้าง เมื่อนางมารีกลับไปทำงานที่ ฮับเซ็งกรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมอบค่ารักษาพยาบาล 690,000 ริงกิต (5,778,646 บาท) ผ่านมูลนิธิในมาเลเซีย […]

พ.ต.ท.ลาบวชตลอดชีวิต เบื่อระอา ลาภ-ยศ-สรรเสริญ

ฮือฮาทางโซเชียล ตำรวจหนุ่มอนาคตไกล ยศสูง ตัดสินใจลาบวช เหตุเบื่อลาภ ยศ สรรเสริญ โดยข้อมูลดังกล่าวได้รับการเปิดเผยใน manager.co.th เนื้อความดังนี้ เพื่อน นรต.47 ที่รักทุกท่าน ผม พ.ต.ท.พนมไพร จักรภาส (จันทร์กา) ขออนุญาตแจ้งข่าว ผมได้เสนอขอลาออกจากราชการก่อนกำหนด early retire มีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.59 เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลเพื่ออุปการะบุพการีและศึกษาปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา และตร.ได้มีคำสั่งอนุญาตลงมาแล้ว          ผมรู้สึกภูมิใจและดีใจมากที่ได้เป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.47 กับพวกเราทุกคน ได้มีโอกาสร่วมทุกข์ร่วมสุขอาบเหงื่อต่างน้ำมาด้วยกันตั้งแต่เป็นวัยรุ่น จนแยกย้ายกันออกมารับใช้ชาติตามภารกิจหน้าที่ของแต่ละคน จนกระทั่งตอนนี้ที่พวกเราผ่านพ้นวัยกลางคนกันมาแล้ว ความผูกพันความเป็นเพื่อนของพวกเราก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและอายุที่เพิ่มมากขึ้นไปทุกขณะ ผมชื่นชมและยินดีกับความสำเร็จ ความเจริญก้าวหน้าของเพื่อนๆ ทุกคนในวิถีชีวิตตำรวจ ตามที่แต่ละคนปรารถนา ตัวผมเองก็มีความพอใจและมีความสุขดีในหน้าที่ราชการปัจจุบัน         เหตุผลที่ตัดสินใจในครั้งนี้ มีที่มาจากสิ่งที่มันสั่งสมอยู่ในใจมาตั้งแต่เด็กๆ ที่สนใจการปฏิบัติสมาธิ ภาวนา มาตั้งแต่อยู่ชั้นประถม เรื่อยมาตลอดจนมาเรียนเตรียมทหาร เข้า นรต.ก็ศึกษาปฏิบัติมาตลอดเท่าที่โอกาสจะอำนวย จนมาประมาณ 6-7 ปีที่ผ่านมา ได้ปฏิบัติเรียนรู้อย่างจริงจังกับครูอาจารย์ท่านผู้รู้แจ้งฯ หลายๆ ท่าน (เพื่อนเราบางคน ได้มีโอกาสไปด้วยกัน) […]

มีผลแล้ว! ผู้ประกันตนรับสิทธิทำฟัน “อุด-ถอน-ขูดหินปูน” เบิกได้ 900 บาทต่อปี

2 ต.ค.59 นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย.59 ที่ผ่านมา ประธานคณะกรรมการการแพทย์ของ สปส.ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการการแพทย์โดยยกเลิกบัญชีประกาศแนบท้ายหลักเกณฑ์สิทธิการรักษาทันตกรรมผู้ประกันตนของ สปส.ภายใต้วงเงินคนละ 900 บาทต่อปีแล้ว หลังจากนี้ ผู้ประกันตนที่ไปใช้บริการทันตกรรมในสถานพยาบาลรัฐและเอกชนทั่วไป ก็สามารถไปใช้บริการทันตกรรมได้ แต่ต้องสำรองจ่ายเงินไปก่อนและผู้ประกันตนมายื่นเรื่องเบิกเงินกับ สปส.ภายหลัง แต่ไม่เกินคนละ 900 บาทต่อปี โดยสามารถยื่นเบิกได้ในครั้งเดียวหรือจะยื่นหลายครั้งก็ได้ ภาพประกอบจาก www.sukumvithospital.com เลขาธิการ สปส.กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันโครงการนำร่องทำฟันโดยไม่ต้องสำรองจ่ายไปก่อนใน 30 หน่วยบริการ ก็ได้เริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่วันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งผู้ประกันตนที่ใช้บริการทันตกรรมในสถานพยาบาลรัฐและเอกชนในโครงการนำร่องไม่ต้องสำรองจ่ายเงินไปก่อน ทั้งนี้ ให้สถานพยาบาลรัฐและเอกชนในโครงการนำร่องมาเรียกเก็บเงินจาก สปส.โดยตรง ซึ่งมีเกณฑ์กำหนดอัตราเบิกจ่ายตามจริง แต่ไม่เกินคนละ 900 บาทต่อปี ซึ่งในส่วนของสถานพยาบาลรัฐจะยึดตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ขณะที่สถานพยาบาลเอกชน ก็จะให้แจ้งอัตราค่าบริการทันตกรรมต่างๆ ทั้งอุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน มายัง สปส. เพื่อจะได้แจ้งผู้ประกันตนให้ทราบ [ads] นพ.สุรเดชกล่าวด้วยว่า โครงการนำร่องทำฟันฯดำเนินการใน […]

“บางทีเห็นเป็นสิวก็ไม่ใช่สิว” กวาง กมลชนก โพสต์ภาพเตือนสาวๆ ระวังสุขภาพตนเอง

ถึงจะเป็นคุณแม่ลูกสองแล้ว "กวาง กมลชนก" ก็ยังหน้าใสปิ๊ง ผิวดูดี มีสุขภาพเสมอ จนหลายคนอาจจะคิดว่าเธอไม่น่าจะมีปัญหาสุขภาพอะไร แต่ล่าสุดนี้ เธอก็ได้โพสต์ภาพในอินสตาแกรมเพื่อเตือนสาวๆ หลายคนได้เห็นว่า บางทีเห็นเป็นเม็ดสิวบนใบหน้า อาจไม่ใช่แค่เรื่องสิวๆ แต่เป็นฝีที่ถึงกับต้องไปผ่าตัดออกเลยทีเดียว "คุณหมอบอกว่ากวางเป็นฝีค่ะ…เริ่มจากคิดว่าตัวเองเป็นสิวมา3วัน เห็นหัวสิวขึ้นมาก็เลยบีบ แต่ไม่ออกก็เลยไปเค้นจนหัวสิวแตกออกมา แต่ก็ยังไม่หมด อยู่ลึกข้างใน วันรุ่งขึ้นเจ็บระบมและหน้าบวมมากไปข้างหนึ่ง(มากจนน่าตกใจ)และปวดบวม(มากขึ้น)อีกคืนจนทนไม่ไหว เห็นท่าไม่ดีเลยไปหาหมอผิวหนัง คุณหมอบอกไม่ใช่สิวและการอักเสบอยู่ลึกกว่าชั้นรูขุมขน จึงส่งกวางไปหาหมอศัลยกรรมทำการผ่าเอาหนองออก คุณหมอบอกว่าเป็นฝีค่ะ ให้ทานยาฆ่าเชื้อ ปรากฏว่าผ่านไปอีก1วันก็ยังบวมและเห็นหนองอยู่ลึกเป็นแอ่งลงไป จึงไปกลับหาหมออีกครั้ง คราวนี้คุณหมอขูดหนองออกจนเป็นหลุมลึกตามภาพที่เห็น เจ็บมากๆๆค่ะ และต้องไปให้หมอทำแผลทุกวันจนกว่าแผลจะปิด #จึงอยากบอกให้เป็นอุทาหรณ์กับทุกคนว่าบางทีสิวของเราอาจไม่ใช่แค่สิวและอาจลุกลามอักเสบจนเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้ได้ จึงควรไปหาหมอตั้งแต่เนิ่นๆนะคะ #เฮ้อ!คงต้องรักษากันอีกยาวนาน แผลเป็นมาเยือนใบหน้าแน่นอนค่ะ#ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะคะ" ยังไงก็ขอให้คุณกวางหายไวๆ นะคะ ส่วนสาวๆ ท่านอื่นๆ ก็ต้องระวังกันด้วยนะ   

ช่วยแชร์ให้โลกรู้! นักเรียนฮีโร่ ช่วยคนออกจากรถได้ปลอดภัยดีในขณะที่รถกำลังไฟลุก

การเป็นฮีโร่ ใครก็เป็นได้ แม้จะทำความดีเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชายร่างใหญ่ บึกบึน เหมือนในหนังซุปเปอร์ฮีโร่ เป็นแค่คนธรรมดาอย่างเรื่องราวน่าชื่นชมต่อไปนี้ก็โอเคแล้ว เมื่อวันที่ 2 ต.ค.59 เฟซบุ๊ก จ๊ะ จ๋า จ้า ได้โพสต์ถึงวีรกรรมน่าชื่นชมของเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ในกลุ่ม "พิษณุโลกบ้านเรา" กล่าวชื่นชมถึงน้องๆ นักเรียนที่จอดรถข้างโรงเรียนวัดคูหาสวรรค์ว่า "ช่วงที่เกิดเหตุไฟไหมรถยนต์ ข้างโรงเรียนวัดคูหาสวรรค์ ตอนที่ไปถึงก็เห็นน้องกลุ่มนี้ จอดรถจักรยานยนต์แล้ววิ่งไปที่รถยนต์ที่กำลังมีกลุ่มควันและเริ่มไฟไหม้ น้องคนที่เฝ้ารถมอเตอร์ไซต์บอกว่า ยังมีคนอยู่ที่รถ เพื่อนผมกำลังเข้าไปช่วย พอไปยืนใกล้ๆ ลุง เห็นชัดเลยว่าลุงตัวสั่นเลยค่ะ ขอชื่นชมน้องๆ กลุ่มนี้มากๆ เลยค่ะ" [ads] [ads=center] แชร์กันไปให้ทราบโดยทั่ว คนทำดี แบบนี้โลกต้องเห็น! 

นักวิชาการชี้ อยากมีชีวิตดีๆ หลังวัย60 ต้องมีเงินเก็บ 2 ล้านบาท

ผู้ร่วมรายการเวทีสาธารณะ ตอน "สูงวัยไปด้วยกัน" เรียกร้องรัฐบาลให้ความสำคัญกับการสร้างระบบการออมเงินที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ เผยกระทรวงการคลังประเมินว่าหากอยากมีชีวิตที่เป็นปกติในช่วงอายุ 60-80 ปี ควรมีเงินเก็บ 2 ล้านบาท ภาพประกอบจาก thumbsup.in.th ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในรายการเวทีสาธารณะตอน "สูงวัยไปด้วยกัน" ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสวันนี้ (30 ก.ย.2559) ว่า ระบบการออมเงินเป็นหลักประกันทางเศรษฐกิจที่สำคัญมากสำหรับผู้สูงอายุ "ทุกคนต้องมีเงินเก็บ ไม่อย่างนั้นหยุดงานไม่ได้ หมายความว่าคุณต้องทำงานไปเรื่อยๆ ไม่มีเวลาหยุด เพราะฉะนั้น เงินเก็บจึงมีความจำเป็น แต่เก็บเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับแผนการวางอนาคตของตนเอง" ดร.ประกาศิตกล่าว ดร.ประกาศิตอ้างข้อมูลจากกระทรวงการคลังที่ระบุว่า เพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้อย่างปกติในช่วงอายุระหว่าง 60 – 80 ปี ต้องมีเงินเก็บประมาณ 2 ล้านบาท โดยตัวเลขนี้มาจากการคำนวณเปรียบเทียบกับรายได้จากค่าแรงขั้นต่ำในปัจจุบัน คือ เดือนละ 9,000 บาท ซึ่งหากเริ่มเก็บเงินในช่วงอายุ 40 ปี ไปจนถึงอายุ 60 ปี ก็ต้องเก็บให้ได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 9,000 บาท […]

1 2,859 2,860 2,861 2,891
error: