บทความทั่วไป

Advertisement 24 กรกฎาคม ที่วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี พระพยอม กัลยาโณเจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เปิดเผยกรณีพระเคร้อยล้าน ได้ใช้หยดน้ำตาเทียนหยดลงหัวถอดจิตร่ายยาวนั้น ว่า เป็นคนแปลกๆ มาตั้งแต่ยังไม่ได้บวช ทำอะไร ไม่เป็นคนปกติเหมือนคนอื่น เสียภาพลักษณ์ เอาเทียนไปหยดหน้าหยดตาจนมองไม่เป็นผู้เป็นคน ภาษาธรรมเขาเรียกว่า อัตตกิลมถานุโยค ชอบทำตนให้ลำบาก ชอบทำตนให้เดือดร้อน กลายเป็นโลกะวัชชะชาวโลกติเตียน ว่าสติปัญญาไปไหน ทำไมไม่เลือกที่ตัวเองทำแล้วสบายสังคมเป็นสุข เรื่องดีๆ ไม่ทำ ไปสาปแช่งคนอื่นทำให้ภาพลักษณ์ของพระอันตรธานหายไป Advertisement Advertisement พระพยอม กล่าวต่อว่า พระมีแต่สอนธรรมะ ให้ศีลให้พร คนอื่น ถ้าปฏิบัติแล้วไม่ดีขอให้เลิกเสียเถอะ กรณีนี้ยังไม่ถือว่าไม่ถึงขั้นอาบัติ อย่างอาตมาก็โดนอยู่ แต่ไม่ถึงกับสาปแช่งแค่ด่า หยาบคาย อาทิ ไปเชียร์พรรคการเมืองไม่ได้เชียร์ก้าวไกลแบบหัวปักหัวปำ อาตมาไม่เห็นด้วยกับพรรคก้าวไกลบางเรื่อง ขอเตือนชาวพุทธอย่าวุ่นวายให้มากนักเลย จะมีพระแบบไหนถือว่าเป็นที่ไม่ดีอย่าไปเหมาเข่ง ถ้าใครมาด่ามาว่ามาแช่ง ถือว่าเราเป็นเจ้าของบ้าน แล้วมีแขกมายืนด่ายืนว่าหรือเอาสิ่งไม่ดีมาให้เราเราเป็นเจ้าของบ้านมีสิทธิที่จะไม่รับเอาไว้ในบ้านแล้วคืนให้เจ้าของเขาไป คำด่าของเขาเราไม่รับ ให้คืนไปเป็นเจ้าของคนด่าให้เป็นสมบัติติดตัวเขาไปทุกภพทุกชาติ ไม่รู้เรื่องจริงก็เอามาด่ากัน อยากอ้อนวอนนักการเมืองให้ช่วยลดคำว่า สัจจาพินิจเวท คือ จะเอาความเห็นตัวเองแบบหัวชนฝา ต้องอย่างนี้เท่านี้ หลักการเป็นอย่างที่ฉันคิดเท่านั้น […]

ตามที่มีการแชร์ข้อมูลในสื่อโซเชียลเรื่องโครงการเราชนะ แจกเงินเพิ่ม 7,000 บาท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากที่มีคลิปวิดีโอส่งต่อข้อมูลว่า โครงการเราชนะ แจกเงินเพิ่ม 7,000 บาท ทั่วประเทศ ทางกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ข้อมูลข้างต้นไม่เป็นความจริง และข้อความดังกล่าวไม่ได้มาจากหน่วยงานรัฐฯ เนื่องจากรัฐบาลไม่มีนโยบายแจกเงินตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกระทรวงการคลัง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.mof.go.th หรือ โทร. 1689 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ข้อมูลข้างต้นไม่เป็นความจริง และข้อความดังกล่าวไม่ได้มาจากหน่วยงานรัฐฯ เนื่องจากรัฐบาลไม่มีนโยบายแจกเงินตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด   ข้อมูลจาก :  Anti-Fake News Center Thailand

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานเรื่องราวของชายชาวสหรัฐคนหนึ่งที่รู้สึกไม่สบาย อาการคล้ายไข้หวัด หลังถูกหมัดกัด ก่อนช็อกจากการติดเชื้อแบคทีเรียอย่างรุนแรง อวัยวะล้มเหลว ส่งผลให้แพทย์ต้องตัดมือและเท้าบางส่วนไปเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น ระบุว่า เมื่อประมาณเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ชายผู้โชคร้ายรายนี้ชื่อว่า นายไมเคิล โคห์ลฮอฟวัย 33 ปีอาศัยอยู่ในเมืองฮูสตัน รัฐเทกซัส สหรัฐ เขาได้เดินทางไปเยี่ยมคุณแม่ที่เมืองซานอันโตนิโอ ก่อนจะเริ่มรู้สึกไม่สบาย มีอาการคล้ายไข้หวัด มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ต่อมาได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล นายโคห์ลฮอฟ ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันที โดยเขาต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และอวัยวะของเขาเริ่มล้มเหลว แพทย์วินิจฉัยว่าเขาเป็นโรคไทฟัส (ไข้รากสาดใหญ่) ชนิดรุนแรง โดยเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่แพร่กระจายมาจากหมัดในสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตาม แพทย์ที่รักษา เผยว่า ภายในไม่กี่ชั่วโมงนายโคห์ลฮอฟ ติดเชื้อในกระแสเลือด วันต่อมาต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู มีอาการช็อกจากการติดเชื้อ ต้องใส่ท่อและใช้เครื่องช่วยหายใจ CRT ต้องฟอกไตตลอด 24 ชั่วโมง ในวันเดียวกันนั้น แพทย์ได้แจ้งให้ครอบครัวเข้ามาร่ำลาเขา เพราะการรักษานั้นทำแทบทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าจะใช้ยาปฏิชีวนะ สเตียรอยด์ และยาขยายหลอดเลือด หลังผ่าน 11 วัน พบว่า […]

20 กรกฎาคม 2566 ผู้ใช้ TikTok @tee_2071 ลงคลิปบรรยากาศที่งานศพแห่งหนึ่ง โดยมีชายคนหนึ่งสภาพผมยาวรุงรัง ใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ คล้ายคนสติไม่ดี เข้ามาจุดธูปเพื่อเคารพศพของผู้ตาย @tee_2071 #ถึงเขาจะสติไม่ดีแต่ก็ไม่เคยลืมเพื่อน🤍😢 #มานอนร้องหน้าศพทุกวัน #เพื่อนแท้ไม่ทิ้งกัน #เขาขาวทุ่งสง👊❤ ♬ เสียงต้นฉบับ – 🖤𝕊ᎯⅅᏟᏞᎥᏢ🖤 – Nomyen.🥃 เจ้าของคลิประบุว่า ถึงเขาจะสติไม่ดีแต่ก็ไม่เคยลืมเพื่อน มานอนร้องหน้าศพทุกวัน เพื่อนแท้ไม่ทิ้งกัน เขาขาวทุ่งสง ภายหลังคลิปนี้ถูกโพสต์ไป ปรากฏว่ามียอดเข้าชมกว่า 7.8 แสนครั้ง โดยมีหลายคนเข้ามาคอมเมนต์เช่น สุดยอดครับทุกวันนี้เจอแต่คนเข้าหามาแต่หวังผลประโยชน์ นี่สินะคำว่า เพื่อน คำว่าเพื่อนมันจะจำจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต   ข่าวจาก : kapook

23 กรกฎาคม ที่วงเวียนอนุสาวรีย์หลัก 60 ปี (วงเวียนหอย) สะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตัวแทนชาวภูเก็ตรวมตัวกันเรียกร้องประชาธิปไตยถือป้ายข้อความ อาทิ ให้ออกมาเลือกตั้งทำไม ถ้าไม่ฟังเสียงประชาชน, พวกเรารักประเทศไทย, อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน, ส.ว.ขัดขวางความเจริญของชาวบ้าน, เคารพผลเลือกตั้ง ฟังเสียงประชาชน ฯลฯ แกนนำเคลื่อนไหวประชาธิปไตยชาวภูเก็ตรายหนึ่ง กล่าวว่า การเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยของชาวภูเก็ตเริ่มตั้งแต่วันที่ 21-27 กรกฎาคม ใช้เวลาจัดกิจกรรมตั้งแต่เวลา 17.30-18.30 น. เหตุผลของการจัดกิจกรรมเนื่องจากที่ผ่านมามีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซึ่งผลการเลือกตั้งเห็นชัดว่าประชาชนต้องการนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย แกนนำระบุว่า เราเรียกร้องประชาธิปไตยเพราะชาวบ้านออกมาใช้สิทธิใช้เสียงแล้วเสียงส่วนใหญ่ไม่เป็นตามที่คาดหวัง เราคิดว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้โดยไม่มีปัญหา แต่กลับติดปัญหาที่ ส.ว.กว่า 200 คน ซึ่งเขาไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่แต่งตั้งเข้ามา กลับให้คนเหล่านี้เข้ามาขัดขวางประชาธิปไตยที่มาจากประชาชน จึงเรียกร้องให้ฟังเสียงประชาชน ให้ฟังเสียงข้างมากตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่เอาคนที่มาจากการลากตั้งมาขวางทำให้เป็นประชาธิปไตยที่บิดเบี้ยว เราไม่ยอมรับตรงนี้ “หากพรรคก้าวไกลต้องไปเป็นฝ่ายค้านก็ไม่เสียใจ เพราะมีพื้นที่ทำงานเพื่อประชาชนเหมือนกัน แต่ประชาชนจะไม่เสียใจเลยหรือว่าสิ่งที่เขาเลือกมามันเป็นแบบนี้ มาเจออะไรแปลกๆ ทำให้คนตั้งใจอยากให้คุณพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีแต่ไม่ได้เป็นนายกฯ เหตุผลที่เกิดขึ้นมาจากคนกลุ่มหนึ่งที่แต่งตั้งโดยเผด็จการกันมาแล้วมาขัดขวาง ซึ่งประชาชนทั่วไปยอมรับไม่ได้” แกนนำระบุ แกนนำระบุด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามรัฐธรรมนูญไทย ตามประชาธิปไตย […]

22 กรกฎาคม ภายหลังจากที่พรรคเพื่อไทยเชิญพรรคการเมืองต่างๆ มาร่วมพูดคุยหาทางออกของประเทศ และจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งในวันนี้ประกอบด้วย 3 พรรค คือ ภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ และชาติพัฒนากล้า ก่อนที่จะมีการรายงานข่าวว่า พรุ่งนี้ (23 ก.ค.) เป็นคิวของ พรรคชาติไทยพัฒนา และจะเป็น “พลังประชารัฐ” ในคิวต่อไปนั้น ล่าสุด เมื่อช่วงกลางดึก เวลา 22.53 น. วันที่ 22 กรกฎาคม นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ทวีตข้อความถึงประเด็นดังกล่าวว่า “การหารือกับพรรคการเมืองต่างๆ โดยหลักการก็เป็นสิ่งที่พึงกระทำ แต่การหารือกับพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐ (ถ้าจะทำ) เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นและไม่อาจมีประโยชน์ได้เลย ยิ่งถ้าจะพัฒนาไปถึงขั้นร่วมรัฐบาลกับสองพรรคนี้ ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรแม้แต่จะคิด เนื่องจากพรรคการเมืองส่วนใหญ่ใน 8 พรรค ต่างก็ได้ประกาศไว้อย่างชัดเจนในระหว่างหาเสียงเลือกตั้งว่าจะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับสองพรรคนี้ มาถึงวันนี้จะอ้างว่าเหตุการณ์เปลี่ยนไปก็ไม่เป็นเหตุเป็นผล สองพรรคนี้คือเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจเผด็จการมาแต่ต้นและยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ประชาชนปฏิเสธสองพรรคนี้อย่างชัดเจนในการเลือกตั้งที่ผ่านมาและประชาชนต้องการให้มีรัฐบาลประชาธิปไตย รัฐบาลอันเป็นที่ยอมรับของประชาชน #จัดตั้งรัฐบาล #เพื่อไทย #ก้าวไกล #รวมไทยสร้างชาติ”   ข่าวจาก […]

23 กรกฎาคม นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า จากการย้อนไปตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ยื่นไว้ตั้งแต่ 24 พฤษภาคม 2562 หลายราย พบว่า มี 6 ราย ที่ควรขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบว่า บัญชีที่ยื่นไว้นั้นเข้าข่ายตามความใน พ.ร.ป.ป.ป.ช. 2561 มาตรา 114 วรรคหนึ่ง หรือไม่ และมีการนำรายได้ที่แจ้งหรือไม่ได้แจ้งต่อ ป.ป.ช. ไปชำระภาษีให้แก่กรมสรรพากรโดยถูกต้อง หรือไม่ โดยทั้ง 6 ราย มีข้อเท็จจริงที่ขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ดังนี้ 1.นายไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน กรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 ในส่วนของคู่สมรสแจ้งว่า มีรายได้ค่าเช่าอาคาร 300,000 บาทต่อปี โดยในบัญชีโรงเรือน มีรายการเดียวที่แจ้งเป็นของคู่สมรส คือ คอนโดมิเนียม ขนาด 50 […]

22 ก.ค. 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ระหว่างร่วมดื่มมินต์ช็อกกับแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ​ว่ากังวลหรือไม่ว่าทัวร์ด้อมส้มจะมาลง​ หลังเชิญพรรคร่วมรัฐบาลเดิมมาหารือในวันนี้​ ว่า​ เราหนีข้อเท็จจริงไม่ได้​ และเราก็นำเรื่องนี้คุยแนวทาง​ 8 พรรคร่วมรัฐบาลแล้ว​ โดยทำงานอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ทุกคนรับรู้พร้อมๆ กัน หวังว่าทุกคนจะพยายามเข้าใจ เมื่อถามต่อว่าอยากจะแนะนำการเมืองพรรรคก้าวไกลอย่างไร​ นพ.ชลน่าน​ กล่าวว่า​ เพื่อไทยคงจะสอนไม่ได้​ เพราะแนวทางการเมืองของแต่ละคนก็มีจุดยืนเป็นของตัวเอง แต่แบบอย่างที่ตนเข้ามาทางการเมือง 20 ปี และนายพีระพันธุ์​ สาลี​รัฐ​วิภาค​ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่การเมืองมา 30 ปี ทุกอย่างจะช่วยกล่อมเกลาเอง​เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์​ เมื่อถามต่อว่าหลักการชาติ​ ศาสนา​ พระมหากษัตริย์ สำคัญในการดูแลบริหารบ้านเมืองอย่างไร นพ.ชลน่าน​ กล่าวว่า มันเป็นหน้าที่ของคนทุกคนอยู่แล้ว​ และรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้ เมื่อถามว่าการแถลงข่าววันนี้เป็นการผลักก้าวไกลออกไปหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เงื่อนไขของการหาเสียงสนับสนุน เราพูดคุยกันแล้ว เสนอ 3 แนวทางชัดเจน ยึด 312 เสียง 8 พรรคเป็นตัวตั้ง ถ้าไม่มี ส.ว. บวก […]