ลูกเขียนโน้ตถึงพ่อ หลังโดนดุ เผยคำที่ลูกเสียใจที่สุดที่อยากให้พ่อรู้

Advertisement 6 เม.ย.66 ได้มีสมาชิก TikTok รายหนึ่ง โพสต์ภาพจดหมายน้อยของลูกที่อ่านแล้วมันจุกในหัวอก โดยระบุว่า “วันนี้เฮียอองดื้อมาก โมโหเลยดุไปฉาดใหญ่ สักพัก เดินมาเจอแผ่นนี้บนโต๊ะ น้ำตาคลอเบ้าเลย สงสาร” Advertisement พร้อมกับโพสต์รูปจดหมายของลูกที่เขียนด้วยลายมือไว้ว่า “พ่อครับ หนูรักพ่อนะครับ พ่อดุหนูได้ แต่ว่าช่วยเลิกดุคำว่า ไปไหนก็ไป เพราะหนูเสียใจกับคำนี้” ขณะที่ผู้โพสต์บอกว่า “เห็นกระดาษแผ่นนี้พ่อพูดไม่ออกเลย พ่อขอโทษนะลูกที่ใช้คำพูดแรงไป” Advertisement หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก รู้สึกสะเทือนใจและจุกไปกับข้อความที่เพิ่งได้อ่าน รวมทั้งยังบอกให้คุณพ่อใจเย็นๆ และใช้ความรอบคอบก่อนที่จะดุลูก   ข่าวจาก : ข่าวสด

กลาโหมออกคำสั่ง เลื่อนวันรายงานตัวทหารเกณฑ์ เปิดให้เลือกตั้งก่อนเข้ากรม

6 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีเอกสารราชการ คำสั่งกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 5 เม.ย.66 ออกเผยแพร่ เรื่องการกำหนดวันรายงานตัวเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/2566 โดยมีเนื้อหาระบุว่า ตามที่พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2566 กำหนดให้ คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.2566 นั้น เนื่องด้วยพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 34 กำหนดให้ “ทหารกองเกินที่ถูกเข้ากองประจำการผู้ใด จักต้องเริ่มเข้ารับราชการทหารกองประจำการเมื่อใด ให้นายอำเภอท้องที่ที่รับเข้าตรวจเลือกเป็นผู้กำหนด และให้นายอำเภอออกหมายนัดเพื่อให้ทหารกองเกินผู้นั้นมา ณ ที่อำเภอท้องที่ตามที่ได้กำหนดไว้นั้น เพื่อเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ถ้าทหารกองเกินผู้นั้นไม่มาตามนัดให้ถือว่าหลีกเลี่ยงขัดขืน” ดังนั้นเพื่อสนับสนุนการไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของทหารกองเกินที่จะต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/2566 ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กระทรวงกลาโหมจึงขอให้กระทรวงมหาดไทย แจ้งผู้อำนวยการเขต/นายอำเภอ เพื่อประสานการปฏิบัติกับหน่วยสัสดีเขต/หน่วยสัสดีอำเภอ เพื่อออกหมายนัดเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.40) ให้ทหารกองเกินที่ถูกกำหนดให้เข้ารับราชการทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/2566 มารายงานตัวและแก้ไขวันรายงานตัวของผู้ที่ได้รับหมายนัดฯ ไปแล้ว จากเดิมวันที่ 1 […]

ไลน์ ทบ.หลุด สั่งห้ามก้าวไกลรณรงค์ “ยกเลิกเกณฑ์ทหาร” ในที่จับใบดำ-ใบแดง

จากกรณีผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้เข้าสังเกตการณ์ชวนพูดคุย ทำโพลสำรวจความเห็นต่อข้อเสนอยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร ในหน่วยคัดเลือกจับใบดำ-ใบแดง หลายพื้นที่ทั่วประเทศนั้น ล่าสุด วันที่ 6 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลได้แชร์ภาพข้อความจากไลน์กลุ่มที่หลุดมา โดยมีนายทหารยศ พล.ต. เขียนข้อความแจ้งสมาชิกกลุ่มดังนี้ “ขอประสานประธานคณะกรรมการตวจเลือกทุกคณะ” “มทภ.4 สั่งการ หากกรณีมีพรรคก้าวไกลไปรณรงค์เพื่อไม่ให้มีการเกณฑ์ทหาร บริเวณหน่วยตรวจเลือกฯในพื้นที่ (ตอนนี้ในพื้นที่ภาคกลางเริ่มกระจายไปทั่วแล้ว)” 1.ให้เฝ้าสังเกตและขอความร่วมมือ คุยกับเขาดีๆ อย่าให้เขาถ่ายรูป ขอความร่วมมืออย่าให้มาชูป้ายรณรงค์ยกเลิกเกณฑ์ทหาร 2.ถ้าไม่ยอม ให้บันทึกภาพเก็บไว้ อย่าให้เข้ามาในหน่วยตรวจเลือกฯ ต้องขอเชิญให้ออกไป เพราะเป็นพื้นที่ของราชการ ที่เราจะดำเนินการให้การตรวจเลือกเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามกฎกระทรวง ถ้าเป็นไปได้ขอความร่วมมือ แจ้งไปว่าประชาชนต้องการให้มีความสงบสุข ให้เขาไปอยู่ข้างนอก อย่ามาอยู่ในหน่วยตรวจเลือก เราต้องมีขอบเขตที่ชัดเจน 3.บันทึกภาพทุกอย่าง แล้วรายงานให้ มทภ.4 ทราบโดยตรง บันทึกภาพ สรุป ส่งไลน์มาให้ เพราะต้องส่งรายงานให้ ทบ. ขอเน้นย้ำทุกพื้นที่และรีบรายงานด่วนทันที   ข่าวจาก : มติชน

“ภูมิใจไทย” ชูนโยบาย กู้ฉุกเฉิน5หมื่น ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ ไม่ต้องมีคนค้ำ

5 เมษายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า พรรคภูมิใจไทยเสนอนโยบายให้คนไทยทุกคนที่บรรลุนิติภาวะอายุ 20 ปีขึ้นไป มีวงเงินกู้ฉุกเฉินคนละ 50,000 บาท เพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินของชีวิตตัวเองและครอบครัว หรือใช้เป็นทุนประกอบอาชีพ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ตัวเอง รวมไปถึงใช้เป็นเงินปิดวงจรหนี้นอกระบบของตัวเองได้ “หากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เราจะจัดหาแหล่งเงินมาจัดทำ โครงการเงินกู้ฉุกเฉินให้แก่ประชาชนคนละ 50,000 บาท ผ่อนชำระคืนวันละ 150 บาท เป็นเวลา 365 วัน คิดเป็นเงินต้นรวมดอกเบี้ย 54,750 บาท ซึ่งเป็นอัตราที่เชื่อว่าผู้กู้สามารถผ่อนชำระได้ และทำให้ทุกคนมีเงินทุนประกอบอาชีพเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้ รวมถึงหยุดปัญหาหนี้นอกระบบของตนเองได้อีกทางหนึ่ง” นายอนุทินกล่าว   ข่าวจาก : มติชน

เตือนภัย คาบเข็มหมุดตอนเย็บผ้า หลุดลงไปปักหลอดลม ผ่าตัดช่วยได้ทัน

6 เมษายน โรงพยาบาลนครพิงค์ เปิดเผยเคสคนไข้หญิงรายหนึ่ง สำลักเข็มหมุดหลุดลงคอ เนื่องจากคาบเข็มหมุดไว้ในปากขณะเย็บผ้า โรงพยาบาลระบุว่า ผู้ป่วยหญิง อายุ 49 ปี ให้ประวัติว่า ขณะเย็บผ้าได้คาบเข็มหมุดไว้ในปาก ต่อมามีอาการสำลักเข็มหมุดหลุดลงคอ จึงได้มาตรวจที่ รพ.นครพิงค์ ทำการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์พบว่าเข็มหมุดหลุดลงไปคาอยู่ในหลอดลมปอดข้างซ้าย ทีมห้องส่องกล้องระบบทางเดินหายใจ นำโดย นพ.กาจบัณฑิต สุรสิทธิ์ จึงทำการส่องกล้องคีบเข็มหมุดในหลอดลมออกมาได้อย่างปลอดภัย ขณะนี้ผู้ป่วยอาการปลอดภัย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว นอกจากการสำลักเข็มหมุดในกรณีนี้แล้ว ทีมแพทย์ยังพบการกลืน หรือสำลักสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ ด้วย เช่น ลวดเย็บกระดาษที่ใช้เย็บถุงพลาสติก หรือบรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร ชิ้นส่วนฝาครอบแก้วเครื่องดื่มพลาสติก ชิ้นส่วนฟันปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานตามที่ทางเพจได้เคยนำเสนอไปแล้ว หิน กระดูกไก่ เม็ดมะขาม รวมถึงกรณีเด็กๆ ที่กลืนสิ่งแปลกปลอม เช่น เหรียญ ของเล่น จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังสิ่งแปลกปลอมที่อาจจะปนมาในอาหารและเครื่องดื่ม ไม่พูดคุยขณะรับประทานอาหาร ไม่คาบสิ่งของไว้ในปาก และดูแลไม่ให้เด็กๆ กลืนสิ่งแปลกปลอม ซึ่งสิ่งแปลกปลอมอาจลงไปติดในทางเดินอาหาร หรือทางเดินหายใจ ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บ, การอุดกั้นทางเดินหายใจ ซึ่งมีอันตรายรุนแรงตามมาได้   ข่าวจาก : มติชน

หนุ่มเป็นลม “จับได้ใบแดง” เหตุเพิ่งสอบราชการได้ กำลังรอบรรจุ แผนพังหมด

สืบเนื่องจากผู้ใช้ติ๊กต็อกชื่อ cherryzz5 ได้บันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ สถานที่ตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (เกณฑ์ทหาร) ประจำปี 2566 ประจำอำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ปรากฏว่าได้มีชายรายหนึ่งเป็นลมหลังจับได้ใบแดง (ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยประคอง โดยเธอระบุว่า “#ใบแดง ก็คนไม่อยากเป็นทหาร ทหารเกณฑ์66 อ.บึงโขงหลง ยกเลิกเกณฑ์ทหาร” ภายหลังจากคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้ไม่ถึง 1 วัน ได้มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 8 แสนครั้งและวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ทั้งนี้ได้มีติ๊กต็อกชื่อ Pollawattt เข้ามาตอบกลับ โดยอ้างว่าเป็นบุคคลในคลิป เผยว่า “ผมคือคนในคลิปครับ สาเหตุที่ผมเป็นลมคือ ผมต้องไปทำสัญญาพนักงานราชการ ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขครับ และการสอบทุกอย่างต้องยกเลิกทั้งหมดเลยครับ” ก่อนที่เจ้าตัวจะได้โพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าวในติ๊กต็อกของตัวเองด้วยว่า “เข่าทรุด ร้องไห้ เป็นลม งานที่ได้ เรื่องการสอบที่จะไป = ยกเลิกหมดเลย” โดยมีคนแนะนำให้ไปสอบก่อนแล้วค่อนลามารับราชการทหาร เจ้าตัวบอกว่า “สอบมาแล้วครับ รอทำสัญญาจ้าง แต่ที่ทำงานเขาบอกว่าต้องมีเอกสารทหารเกณฑ์ครับ ถึงจะทำได้ ไม่งั้นต้องให้คนที่สำรองที่ 1 หรือ 2”   […]

ศาลอาญาสั่งปิดเว็บไซต์ 9near.org เผยแพร่ข้อมูลชื่อคนไทย 55 ล้านชื่อ

3 เมษายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเป็นคดีหมายเลขดำ พศ.77/2566 ขอให้ไต่สวนโดยฉุกเฉิน และมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีเนื้อหาอันเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 จำนวน 1 โดเมนเนม ออกจากระบบคอมพิวเตอร์เป็นการด่วน และข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีเนื้อหาซึ่งศาลเคยมีคำสั่งในคดีนี้ให้ระงับการแพร่หลายหรือลบออกจากระบบคอมพิวเตอร์แล้ว แต่มีการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในระบบคอมพิวเตอร์ซ้ำอึก กระทรวง DES ผู้ร้อง จึงขอก็ให้ศาลมีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวด้วย โดยกรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2566 กระทรวงดิจิทัลฯตรวจพบเว็บไซต์ 9near โพสต์คลิปวิดีโอชื่อ “55 ล้านชื่อหลุด” กระทั่งมีการนำเสนอข่าวเป็นวงกว้างถึงการกระทำที่มีลักษณะประกาศขายข้อมูลส่วนตัวคนไทย ศาลอาญา มีคำสั่งรับคำร้องไว้ไต่สวน และได้ไต่สวนพยานผู้ร้องเสร็จสิ้น 1 ปาก โดยศาลมีคำสั่งว่า พิเคราะห์พยานบุคคล พยานเอกสาร และวัตถุพยานที่ผู้ร้องนำสืบในชั้นไต่สวนแล้ว สามารถรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่า กระทรวงดิจิทัลฯตรวจสอบพบว่ามีข้อมูลในอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ มีเนื้อหาเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ จำนวน 1 โดเมนเนม ได้แก่ 9near.org ซึ่งข้อมูลที่ปรากฏในโดเมนเนมดังกล่าวข้างต้นมีเนื้อหาเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา […]

นี่หรือข้าวหน้าเป็ด? ซื้อมา50บาท แกะห่อดู ให้เนื้อน้อยจนน่าเกลียด

2 เมษายน 2566 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค ระบายประสบการณ์ชวนผิดหวังหลังจากไปซื้อข้าวหน้าเป็ดแบบกลับบ้านจากร้านแห่งหนึ่งย่านบางเขน แต่เมื่อเปิดออกมาดูกลับได้ปริมาณน้อยจนน่าตกใจ จากรูปจะเห็นว่ามีเป็ดถูกหั่นมาในแนวเส้นตรง 6 ชิ้น ขนาดไม่หนามาก และมีหนังเป็ดติดมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนทางกับปริมาณข้าวโดยสิ้นเชิง ซึ่งโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “แกะห่อออกมาตกใจมาก ได้เท่าที่เห็นในรูปจริง ๆ 6 ชิ้น ราคา 50 บาท น่าเกลียดมากค่ะ กินครั้งเดียวพอ “ข้าวหน้าเป็ดย่านบางเขน” ส่วนประเด็นที่ว่าอาจถูกคิดราคาเพิ่มเพราะสั่งกลับบ้านหรือไม่ เจ้าของโพสต์ยืนยันว่าเป็นการไปซื้อที่หน้าร้าน ไม่ใช่การเรียกผ่านแอปฯ แต่ว่าไม่ได้เห็นตอนที่ร้านทำให้เพราะไปยืนรอรับอาหารอยู่อีกฝั่งหนึ่ง หลังจากเรื่องราวนี้ถูกโพสต์ออกไป มีชาวเน็ตคอมเมนต์กันเพียบ ส่วนใหญ่ต่างมองว่า แม้เป็ดจะราคาแพง แต่ร้านให้เป็ดมาน้อยจริง ๆ ซึ่งบางส่วนยังยืนยันด้วยภาพที่เคยสั่งข้าวหน้าเป็ดจากที่อื่นในราคา 60 บาท แต่ได้ปริมาณต่างกันราวฟ้ากับเหว   ข่าวจาก : kapook

ฝากเงิน94ล้านไว้5ปี จะถอนอีกทีเหลือไม่ถึง200 สุดอึ้งเงินหายไปไหน?

2 เมษายน 2566 เว็บไซต์ CTWANT รายงานเรื่องราวของชายนามสกุลหลิว ที่ได้ฝากเงินไว้จำนวน 19 ล้านหยวน (ราว 94 ล้านบาท) กับธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศจีน แต่ไม่คาดคิดว่าอีก 5 ปีให้หลัง ตอนที่เขาต้องการจะถอนเงินก้อนนี้ กลับได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าเหลือเงินติดอยู่ในบัญชีเพียง 34 หยวน (ราว 169 บาท) เท่านั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หลิวทั้งโกรธและช็อกมาก เขายืนกรานจะเอาเรื่องกับทางธนาคารให้ถึงที่สุดแม้เจ้าหน้าที่จะยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดอะไรของธนาคาร จนสุดท้ายเมื่อความจริงปรากฏ ก็ทำให้เขายิ่งอึ้งและสัมพันธ์ในบ้านเกือบพังทลาย รายงานจาก Sohu News เผยว่า หลิวได้ฝากเงินจำนวน 19 ล้านหยวนไว้ในบัญชีฝากประจำที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ก่อนจะเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ จนกระทั่ง 5 ปีต่อมาเขาได้กลับมาจีนอีกครั้งและต้องการจะทำเรื่องถอนเงิน แต่ตอนนั้นเจ้าหน้าที่กลับแจ้งว่าเหลือเงินติดอยู่ในบัญชีของเขาเพียง 34 หยวนเท่านั้น และยืนยันว่าเงินที่หายไปไม่เกี่ยวข้องอะไรกับทางธนาคาร หลิวโกรธมากที่ได้ยินแบบนั้น และตั้งใจจะต่อสู้กับทางธนาคารให้ถึงที่สุดเพื่อทวงเงินกลับคืน จนสุดท้ายเขาก็ได้รับเอกสารบันทึกการทำธุรกรรมของบัญชีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และพบว่ามีการโอนเงินฝากของเขาไปซื้อหุ้น ที่มีมูลค่าหุ้นละ 10,000 หยวน อย่างไรก็ตาม จากบันทึกนี้บ่งชี้ว่าทุก ๆ […]

“ศูนย์สอบธรรมศาสตร์” เทียบชัด วินัยจอดรถ-นร.ถอดรองเท้า ใครน่าอายกว่ากัน

เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์สอบธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ภาพเตือนผู้มาใช้บริการศูนย์สอบ เรื่องการจอดรถ โดยระบุข้อความว่า “คิดหลายรอบ จะลงดีไหม แต่เพื่อส่วนรวม เรื่องที่จอดรถ คนมาเช้าได้จอดในลานจอดเป็นเรื่องปกติ ส่วนคนมาทีหลัง ควรต้องไปจอดไกลหน่อย หรือไปจอดอาคารที่เสียเงิน เช่น อาคารจอดรถโรงพยาบาล แต่ไม่ควรมักง่ายมาจอดขวางทาง หรือจอดไหล่ทาง ไหล่ถนนอันนี้ ไม่ดีนะครับ เพราะท่านจอดแล้วก็ไป บางทีท่านล็อกเกียร์ รถออกไม่ได้อีก แอดเห็นนักเรียนวางรองเท้าแล้ว หวังว่าโตขึ้นคงใช้รถใช้ถนนอย่างคนปกติ ลดปัญหาแบบนี้หน่อย” ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นภาพเปรียบเทียบระหว่างผู้ที่ขับรถมาจอด หลังจากลานจอดเต็ม แต่กลับทำการจอดตามไหล่ทาง หรือจอดซ้อนคัน แถมไม่ยอมปลดเกียร์ว่าง บางคันก็ทำการล็อกเบรกมืออีกด้วย ทำให้ผู้ใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน และทำการเปรียบกับภาพของรองเท้านักเรียนจำนวนมากของนักเรียนที่มาเข้าสอบ ที่มีการจัดเรียงไว้อย่างเป็นแถว เป็นระเบียบ ทั้งแบบแถวยาว และแบบเรียงวนเป็นวงกลม อย่างไรก็ตาม ภายหลังเรื่องราวดัวกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปเป็นสาธารณะ ต่างก็มีชาวเน็ตจำนวนมาก เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย อาทิ จริงบางคนมาสายตรงไหนว่างก็ปักเลยไม่สนด้วยว่าขวางใคร, บอกตำรวจจราจรไปล็อกล้อรถที่จอดผิดกฎจราจร, วนๆ เอาด้านในที่จอดยังมีอีกเพียบเลยครับ, เขาล็อกล้อก็ไม่พอใจอีก, เห็นด้วยค่ะ เราตั้งใจไปถึงตั้งแต่ตี 5 เพราะกลัวว่าจะไม่มีที่จอด..   ข่าวจาก : dailynews

1 212 213 214 2,873
error: