บทความทั่วไป

Advertisement 12 มีนาคม ที่ผ่านมา สมาชิกพันทิปหมายเลขหนึ่งได้ตั้งกระทู้ถึงปัญหาการเลี้ยงลูกของคนไทย โดยระบุว่า สมัยเรียนเขาเคยเจอเด็กคนหนึ่ง อายุประมาณ 10 ขวบ แม่ให้เงินใช้วันละ 1,000 บาท เขาอยากรู้มากว่าพ่อแม่ของเด็กคิดอะไรอยู่ เด็กในสังคมชนชั้นกลางก็มีเงินหลักหมื่น มีของเล่นราคาแพงและไม่น่าจะหามาได้เอง Advertisement เขามองว่าการให้เงินใช้จำนวนมากเหมือนเป็นการสปอยล์เด็กอย่างหนึ่ง พร้อมตั้งคำถามว่านี่เป็นการเลี้ยงลูกแบบถูกทาง หรือ ผิดทาง และการสปอยล์เรื่องเงินก็อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เด็กไทยส่วนใหญ่คิดอะไรเองไม่เป็นและเจ้าอารมณ์ Advertisement เรียกได้ว่ากระทู้ได้รับการพูดถึงมากมาย ทั้งทางเฟซบุ๊กและในเว็บไซต์พันทิปเอง ส่วนใหญ่มองว่า หากผู้ปกครองอยู่ในฐานะที่พร้อมจะจ่ายให้ลูกได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะไปใส่ใจ เด็กจะถูกสปอยล์หรือไม่ ต้องดูพฤติกรรมการเข้าสังคมและการอบรมสั่งสอนของพ่อแม่ การให้เงินลูกมากหรือน้อยไม่เกี่ยวกันเท่าไหร่นัก   ข่าวจาก : ข่าวสด

15 มี.ค. 2566 – จากกรณีกระแสข่าวในโลกออนไลน์ ที่มีการพูดถึงประเทศเกาหลีใต้ ขึ้นบัญชีดำนักท่องเที่ยวไทยจาก 4 จังหวัดอีสาน ได้แก่ ขอนแก่น ศรีสะเกษ อุดรธานี และ ยโสธร ให้เป็นพื้นที่สีแดงนั้น ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย ได้ออกจดหมายแจ้งข่าว ในเว็บไซต์ของสถานทูต ให้ระวังเกี่ยวกับข่าวปลอม โดยระบุข้อความดังนี้ “เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีการแพร่กระจายข่าวลงสื่อในบางช่องทาง เกี่ยวกับการขึ้นบัญชีดำคนไทยที่มีภูมิลำเนาจากบางภูมิภาค โดยรัฐบาลเกาหลีใต้นั้น” “เราขอแจ้งว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นจริง จึงขอความร่วมมือทุกท่านให้ระมัดระวังการรับข่าวปลอม เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายใด ๆ” ขณะที่ กรมสารนิเทศ กระทรวงต่างประเทศ ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่า ข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอมโดยเกาหลีใต้ ไม่มีมาตรการดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ ฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี แจ้งว่า นับตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2565 กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสาธารณรัฐเกาหลี ได้เริ่มกวาดล้างผู้ที่พำนักแบบผิดกฎหมายในสาธารณรัฐเกาหลี ทำให้มีผู้พำนักแบบผิดกฎหมายเดินทางออกนอกประเทศโดยสมัครใจมากขึ้น กระทรวงยุติธรรมของสาธารณรัฐเกาหลีจึงได้ดำเนินโครงการการเดินทางออกนอกประเทศโดยสมัครใจแบบพิเศษ (Special […]

ความคืบหน้าเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 “แคมโบเดีย 2023” ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ช่วงระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคมนี้ ซึ่งในส่วนของประเทศไทยนั้น การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กำลังเตรียมเจรจากับเจ้าภาพกัมพูชา ให้ลดค่าลิขสิขสิทธิ์ที่ตั้งไว้สูงถึง 800,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 27.6 ล้านบาท ขณะเดียวกันทางด้านของ Beatvn สื่อของประเทศเวียดนาม รายงานข่าวว่า สำหรับกรณีที่ ประเทศกัมพูชา เจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 ซึ่งเตรียมขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดให้ประเทศไทย โดยถือว่าสูงกว่าครั้งก่อน 80 เท่า เปรียบเสมือนชุบทองมาขาย Beatvn รายงานผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า กัมพูชา เพิ่งขายลิขสิทธิ์กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 32 ให้กับหน่วยงานกีฬาไทย (กกท.) ในราคา 800,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 28 ล้านบาท) ซึ่งสูงกว่าคราวก่อนในซีเกมส์ 2021 ที่ประเทศเวียดนาม ถึง 80 เท่า และไม่รู้ว่ามีความพิเศษเหนือกว่าซีเกมส์ครั้งก่อนหรือไม่ แต่ตัวแทนของ กกท. […]

เกือบ 28 ชั่วโมง ใช้เวลาปฏิบัติการสยบ “สารวัตรคลั่ง” พ.ต.ท.กิตติกานต์ สารวัตรฝ่ายปกครอง ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ก่อเหตุยิงปืนกว่าครึ่งร้อยนัด ตั้งแต่เวลา 09.00น.วันที่ 14 มีนาคม ต่อมาได้ระดมหน่วยอรินทราช 26 เข้าปฏิบัติการโดยมีพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบ.ตร. และพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ผบช.น.เข้าร่วมปฏิบัติการ พ.ต.ท.กิตติกานต์ หรือ สารวัตรกานต์เป็นคน อ.ป่าซาง จังหวัดลำพูน เมื่อปี 2541 เข้ารับราชการตำรวจในตำแหน่ง ผบ.หมู่ สังกัดฝ่ายอำนวยการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ทำหน้าที่พลขับและขนส่ง แต่ด้วยความมุมานะก็ได้ศึกษาต่อระดับปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งควบคู่ไประหว่างทำงาน กระทั่งจบการศึกษาได้สอบเป็นนายตำรวจระดับรองสารวัตร จนได้รับการบรรจุที่กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 2 ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และเจริญเติบโตในหน้าที่การงานเรื่อยมาจนได้รับการแต่งตั้งเป็น พ.ต.ต.ระดับสารวัตร ในกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 2 ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรสยบไพรี […]

13 มีนาคม 2566 หลังโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปจากผู้ใช้ TikTok @teemiatam ช่วงที่เจ้าตัวเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม ระหว่างนั้นได้แวะเข้าห้องน้ำในปั๊มน้ำมันที่นั่น และทำให้รู้ว่า สาวเวียดนามเป็นคนเปิดเผยจริง ๆ คลิปดังกล่าวเผยให้เห็นสภาพห้องน้ำปั๊มน้ำมันเวียดนามสะอาดมาก มีสายชำระ ถังขยะ กระดาษทิชชูครบทุกอย่าง หากจะปลดทุกข์แค่เดินเข้าไปนั่งแล้วก็ทำธุระได้เลย แต่ความพีคมันอยู่ที่ ห้องน้ำของที่นี่ไม่มีประตู มีเพียงฉากกั้นแบ่งคั่นห้องเอาไว้เท่านั้น จนเจ้าของคลิปถึงกับอุทานออกมาว่า “โห…ห้องน้ำ แล้วจะนั่งยังไงเนี่ย ตายแล้ว ๆ” ด้านชาวเน็ตอึ้งไปตาม ๆ กัน บอก ถ้าจะเปิดขนาดนี้ ยกที่กั้นข้าง ๆ ออกเถอะ แบบนี้ก็นั่งใจลอยไม่ได้แล้วสิ เพราะคนรอคิวจะยืนจ้องหน้าคุณอยู่ เรียกว่ามิจฉาชีพไม่ต้องเสียเวลาซ่อนกล้อง แต่ยืนจ้องกันไปเลย   ข่าวจาก : kapook

4 มีนาคม 2566 เว็บไซต์ CTWANT มีรายงานเรื่องราวของหญิงสาวนามสกุลหวัง ในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ที่อยู่ระหว่างช่วงทดลองงานกับบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง แต่หลังทำงานได้เพียง 3 วัน เธอกลับถูกไล่ออกเพราะเลิกงานตรงเวลาทุกวัน โดยทางบริษัทให้เหตุผลว่าไม่เห็นแก่ประโยชน์ของบริษัท รายงานเผยว่า หญิงสาวเริ่มทำงานที่บริษัทดังกล่าวเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยมีชั่วโมงทำงานคือ 09.30-18.30 น. ซึ่งเมื่อถึงเวลา 18.34 น. เธอก็ส่งข้อความไปถามเจ้านายว่า “มีงานอะไรเหลืออีกไหม ถ้าไม่มี ฉันจะเลิกงานแล้วนะคะ” แต่ทางหัวหน้าไม่ได้ตอบอะไร เธอจึงเก็บข้าวของออกจากบริษัทไป ในวันที่ 2 ของการทำงานก็เช่นกัน หญิงสาวส่งข้อความไปหาเจ้านายตอนเวลา 18.33 น. ว่า “มีอะไรที่ต้องทำอีกไหมคะ ถ้าไม่มี ฉันขอตัวเลิกงานก่อนนะคะ” และเช่นเคย เธอไม่ได้รับข้อความตอบกลับจากเจ้านาย หญิงสาวจึงเลิกงานกลับบ้านไป โดยไม่คิดว่าในเช้าวันต่อมา อยู่ ๆ ก็ถูกเจ้านายเรียกไปตำหนิเรื่องที่เธอละทิ้งงานไป โดยเขาถามว่า “คุณส่งข้อความแบบนี้มา หมายความว่ายังไง” และชี้ว่าตอนที่เขาต้องการจะมอบหมายงานให้ เธอกลับออกไปจากบริษัทแล้ว หญิงสาวคิดว่าตัวเองทำไม่ผิด อธิบายว่า […]

14 มี.ค.66 ที่ทำเนียบรัฐบาล รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ (L6 N3) หรือ หวย 6 หลัก 3 หลัก แบ่งออกเป็น สลาก L6 ออกรางวัล เดือนละ 2 ครั้ง คือ วันที่ 1 และวันที่ 16 ของทุกเดือน จัดให้มีสลาก 2 แบบ แบบใบ จำหน่ายโดยใช้วิธีการพิมพ์จำหน่าย และแบบดิจิทัล จำหน่ายโดยใช้ข้อมูลในระบบ จัดสรรเงินรางวัลร้อยละ 60 ของยอดการจำหน่ายรวมในแต่ละชุด แบ่งสัดส่วนเงินรางวัลตามประเภทรางวัล 9 ประเภท ดังนี้ รางวัลที่ 1 จำนวน 1 รางวัล รางวัลละ 6 ล้านบาท โอกาสถูก 1/1,000,000 รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 จำนวน […]

14 มี.ค.2566 มีคลิปไวรัลที่แชร์กันเป็นจำนวนมากในโซเชียล เป็นภาพบรรยากาศงานเลี้ยงฉลองงานแต่งงาน แต่สังเกตได้ว่าแขกในงาน 2 กลุ่ม ต่างกำลังเต้นกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง โดยแขกคนสำคัญนี้คือพ่อกับแม่ของเจ้าสาวที่เลิกรากันไปกว่า 10 ปี และไม่เคยพูดคุยกันจนมาเจอกันในงานแต่งงานลูกสาว ภาพในคลิปจะเห็นว่า พ่อกับแม่เจ้าสาวต่างนั่งกันคนละโต๊ะ คนละโซน แต่ที่ทั้งคู่ต่างเหมือนกันก็คือความสนุกสนาน ที่พร้อมใจกันเต้นฉลองอย่างสนุกสนาน ส่วนลูกสาวอยู่บนเวทีฝั่งตรงข้าม คลิปดังกล่าวผู้โพสต์ ยังแคปชั่นระบุไว้อีกว่า พ่อคือคนที่ถอดเสื้อห้อยพระ ส่วนแม่คือคนใส่เสื้อขาว กางเกงชมพู ทั้งคู่เลิกรากันไป 10 ปี ไม่คุยกันเลย แต่วันนี้กลับมาเจอกันอีกครั้งในงานแต่งลูกสาว เลยลดทิฐิ ลดความโกรธ ลดปัญหา และหันมาแดนซ์แบบไม่มีใครยอมใคร 555555 โดยหลังคลิปนี้ถูกโพสต์ไป ก็กลายเป็นไวรัลจนมียอดวิวหลายล้านวิวเลยทีเดียว @teedtang_tid พ่อคือคนที่อ้วนๆถอดเสื้อห้อยพระ ส่วนแม่เสื้อขาวกางเกงชมพู เกลียดกันไม่คุยกันมาเกือบ10ปี เรื่องนี้ยอมกันไม่ได้จริงๆ555555555 🤣 ♬ เสียงต้นฉบับ – Natchaya Toumsri – Natchaya Toumsri ข่าวจาก : ข่าวสด