เมื่ออายุย่างเข้าเลข 3 การลดน้ำหนัก ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อีกต่อไป นั่นเป็นเพราะเมื่อเรามีอายุมากขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานของระบบการเผาผลาญอาหารของร่างกายจะลดน้อยลง ซึ่งระบบดังกล่าวนี้ จะทำงานได้ดี เมื่อเราอยู่ในช่วงวัยรุ่น และช่วงวัย 20 กว่าๆ
1. สร้างกล้ามเนื้อให้เพิ่มขึ้น
สิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับการลดน้ำหนักหลังจากที่คุณมีอายุผ่านเข้าเลข 3 ไปแล้ว ก็คือ “การสร้างกล้ามเนื้อ” เพราะยิ่งเรามีกล้ามเนื้อมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะช่วยในการเผาผลาญพลังงานมากขึ้น เรียกว่าถ้าคุณมีกล้ามเนื้อเยอะ แม้จะออกกำลังกายเหนื่อยเท่ากันแต่ก็เผาผลาญไขมันได้มากกว่า
นอกจากนี้ การสร้างกล้ามเนื้อยังทำให้ร่างกายกระชับ ดูดี แข็งแรง และดูฟิตปึ๋งปั๋งมากขึ้นด้วย
2. ดื่มน้ำให้มากขึ้น
การขาดน้ำทำให้ร่างกายหมดพลังและทำให้คุณรู้สึกหิวเอาได้ง่ายๆ ดังนั้น แค่ดื่มน้ำระหว่างวันให้มากขึ้น เท่านี้ก็ช่วยได้แล้ว
3. ฝึกท่าทางที่เหมาะสม
การนั่ง การยืน หรือการเดินของคุณมีผลกระทบต่อระดับพลังงานในร่างกายทั้งนั้น ลองฝึกท่าออกกำลังกายในตอนเช้าและเพิ่มการออกกำลังกายระหว่างวันเข้าไปเป็นประจำทุกวัน ก็จะเป็นการช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้
4. ลดคาเฟอีนลงหน่อย
การบริโภคคาเฟอีน เป็นตัวช่วยกระตุ้นพลังงานอย่างเร่งด่วน เหมาะมากๆเวลาที่รู้สึกหมดพลัง อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณบริโภคคาเฟอีนมากเกินไป ก็จะทำให้ร่างกายขาดน้ำ และรู้สึกอ่อนเพลียได้เช่นกัน ส่วนใครที่ชอบดื่มคาเฟอีนในตอนกลางคืน ก็จะทำให้การนอนแปรปรวนไปได้
ดังนั้น จึงควรจำกัดปริมาณคาเฟอีนไม่ให้เกินวันละ 1-2 แก้ว
5. ไม่ควรรับประทานอาหารเช้าหนักเกินไป
การรับประทานอาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญอาหาร แต่ถ้าหากเรารับประทานมากเกินไป จะไปมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงปริมาณแคลอรี่ในร่างกาย ทำให้รู้สึกขี้เกียจ อืดอาด อยากนอนมากกว่าทำสิ่งที่มีประโยชน์
6. ใช้อุปกรณ์นับการก้าวเดิน
เป็นเรื่องง่ายๆในการกำหนดให้ตัวเองออกกำลัง และทำให้เรารู้ว่าในแต่ละวันเราเดินไปแล้วกี่ก้าว เผาผลาญพลังงานไปแล้วกี่แคลอรี่ เพื่อนำมาวางแผนการเคลื่อนไหวร่างกายได้
โดยเริ่มต้นอาจจะกำหนดเป้าหมายที่ไม่ยากเกินไปก่อน แล้วจึงค่อยๆ ขยับให้สูงขึ้นเพื่อท้าทายตัวเอง
[ads]
7. ทำงานไป เผาผลาญไป
หลายๆ คนเลือกที่จะนั่งทำงานในออฟฟิสทั้งวัน ไม่ขยับร่างกายไปไหนเลย จนทำให้เกิดความขี้เกียจจนติดเป็นนิสัย วิธีแก้ง่ายๆคือ พยายามขยับร่างกายในระหว่างที่ต้องทำงานในออฟฟิสให้มากขึ้น เช่น เดินไปทิ้งขยะ เดินไปคุยกับเพื่อนร่วมงาน เดินออกไปรับประทานอาหารเที่ยง ใช้บันไดแทนลิฟต์ เท่านี้ก็ดีต่อสุขภาพคุณแล้ว
8. ยืดเส้นยืดสายในตอนเช้า
ตื่นขึ้นมาแล้วอย่าเพิ่งรีบลุกไปอาบน้ำ แต่ให้เพิ่มเวลาให้กับการยืดเส้นยืดสายสัก 10-15 นาทีเสียก่อน เพราะการทำเช่นนี้เป็นประจำทุกวัน จะส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย และจิตใจดีขึ้น รู้สึกปลอดโปร่งได้ตลอดทั้งวัน
9. ต้องออกกำลังกายให้เป็นประจำ
การออกกำลังกายมีความสำคัญต่อการเผาผลาญอาหารอย่างมาก แต่ทั้งนี้ ก็ไม่จำเป็นจะต้องออกกำลังกายอย่างหนักทุกวัน เพราะการออกกำลังกายที่มากเกินไปในบางครั้งก็อาจจะทำร้ายระบบอวัยวะต่างๆได้เช่นกัน ดังนั้น ควรออกกำลังกายระดับปานกลาง แต่ทำให้ได้เป็นประจำจะดีมากที่สุด
10. วางแผนออกกำลังกายทีละเล็กทีละน้อย
ในกรณีที่ไม่มีเวลาพอที่จะเข้ายิม ก็ให้วางแผนการออกกำลังกายเล็กๆ น้อย เช่น ใช้การเดินหรือขี่จักรยานแทนการนั่งรถ เป็นต้น
หากคุณพยายามปรับตัวเองเพื่อทำสิ่งเหล่านี้ให้ได้ รับรองว่าชีวิตในวัย 30 + จะมีความสุขมากขึ้นได้กว่าเดิม เพราะสิ่งเหล่านี้ถือเป็นทางลัดในการทำให้อายุยืนยาวและไม่ต้องมีโรคภัยมาเบียดเบียนอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก gethealthyu.com/ และwomen.sanook.com
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ