ทุกวันนี้ปัญหารถติดเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติที่จำเป็นต้องแก้ไขโดยด่วน แต่ก็ต้องยอมรับว่าปัญหานี้แก้ไขได้ยากมาก เพราะทุกวันนี้คนเรานิยมใช้รถยนต์ส่วนตัวกันมากมายกว่าแต่ก่อน เมื่อรถมากขึ้น แต่ถนนเท่าเดิม จึงทำให้เกิดปัญหารถติดตามมาอย่างเสียไม่ได้
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จึงคิดวิธีการใหม่ที่จะช่วยให้ปัญหารถติดลดน้อยลง จะด้วยวิธีไหนนั้น ตามมาดูเลยค่ะ
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ ที่พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้นโยบายกระทรวงคมนาคมตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการว่า
“ปัญหารถติดในกรุงเทพฯที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะช่วงเร่งด่วนเช้า-เย็นเท่านั้น ไม่ใช่รถติดทั้งวันทั้งคืน อย่างไรก็ตามสนข. ได้วางกรอบการแก้ปัญหาไว้ 3 ระยะ คือ
1.ระยะสั้น ทำได้ทันที
– เข้มงวดผู้ใช้รถใช้ถนน ให้เคารพกฎจราจรมากขึ้น เช่น ห้ามจอดรถบนถนน ห้ามฝ่าฝืนสัญญาณจราจร ห้ามเลี้ยวซ้าย โดยตำรวจต้องทำกฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ หรือเพิ่มโทษให้หนักขึ้น เช่น การยึดหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ต่อกรณีทำผิดในข้อหาหนักเพิ่มเติมจากการเสียค่าปรับตามปกติ หรือการรณรงค์ให้ประชาชนเคารพกฎจราจร
2.ระยะกลาง ใช้เวลา1-2 ปี
– มาตรการจัดการจราจรบนถนนสายหลักตามปริมาณรถ เช่น จัดรีเวิสซิเบิ้ลเลนหรือให้รถสวนกระแส ยกตัวอย่างถนน 6 ช่องจราจร ช่วงเช้ารถเข้าเมืองมีปริมาณสูงให้ เปิด 4 ช่อง เดินรถสวนช่องขาออกเมือง 1 ช่อง เป็นต้น โดยจะต้องพิจารณารายละเอียดของถนนและต้องหารือกับตำรวจจราจรถึงความเหมาะสม
– การเพิ่มช่องบัสเลน (ช่องรถเมล์) บนถนนสายหลักให้มากขึ้น เพื่อให้รถเมล์ไปได้เร็ว และเพื่อเป็นการส่งเสริมระบบขนส่งมวลชน หากรถส่วนตัวคันใดขับเข้าไปใช้ช่องบัสเลนก็จะต้องถูกจับปรับ
[ads]
3.ระยะยาว 5-6 ปี
– เพิ่มทางเลือกในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
– ใช้มาตรการควบคุมปริมาณรถส่วนตัว โดยอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบของมาตรการไว้ 2 วิธี ได้แก่
1. การกำหนดโซนนิ่งเก็บเงินรถเข้าเมือง ในถนนที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่น ไม่ให้รถยนต์ส่วนตัวเข้าไปเติม หากจะเข้าต้องเสียเงินในอัตราสูง และมีด่านเก็บเงินคล้ายๆ กับการขึ้นทางด่วน
2. การกำหนดวันใช้รถด้วยเลขทะเบียนรถวันคู่หรือวันคี่ หากตรงกับวันคี่ให้รถยนต์ที่มีเลขทะเบียนวันคี่ใช้ ส่วนรถเลขคู่ห้ามใช้ ต้องจอดไว้บ้านเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม วันคู่จะอนุญาตให้รถที่มีเลขทะเบียนคู่ใช้ได้ เลขทะเบียนวันคี่ต้องจอดอยู่บ้าน
ดังนั้น ใน1เดือนจะสามารถใช้รถได้เพียงแค่ 15 วันเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะทำให้รถหายไปจากท้องถนนถึง 50%
อย่างไรก็ตาม จะมีแนวทางลดผลกระทบหรือผ่อนปรนกับประชาชนบางกลุ่มที่จำเป็นต้องใช้รถส่วนตัว เช่น ผู้ป่วยที่ต้องไปพบแพทย์ ผู้สูงอายุ หรือกลุ่มคนพิการ ควบคู่กับการพิจารณามาตรการอื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้ มาตรการทั้ง 3 ระยะจะนำเสนอกระทรวงคมนาคมในเร็วๆ นี้ มึความคืบหน้าอย่างไรจะมานำเสนอท่านผู้อ่านอีกครั้งค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก dailynews.co.th
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ