จากใจแอร์โฮสเตสและมาตรฐานการบิน นี่คือเหตุผลที่ ผดส. ไม่ควรอุ้มลูกเทพไปนั่งด้วย!!





จากกระแสลูกเทพที่ทำให้สายการบินบางแห่ง ร้านค้าบางร้านผุดไอเดียเอาใจคนบูชาลูกเทพ ดูแล้วอาจเป็นเรื่องดีที่องค์กรธุรกิจใส่ใจลูกค้า แต่อย่าลืมว่าอย่างไรก็ตาม ผู้รับบริการส่วนใหญ่ในบ้านเราก็ต้องอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยต่อชีวิตเป็นสำคัญ

 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 ม.ค. พนักงานสายการบินแห่งหนึ่งได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวPanprapa Tantivithayapitak ถึงกระแสลูกเทพและมาตรฐานของสายการบินไว้ดังนี้

 

เรามาถึงจุด (เสื่อม) นี้ได้ยังไงเนี่ย???
Child Angel(ลูกเทพ) เป็นประเด็น hot hit of the month(กระแสฮอตของเดือนนี้) เมื่อสายการบินหนึ่งประกาศขายตั๋ว และออก procedure extra seat (ที่นั่งพิเศษ)ให้ลูกเทพ ถึงกับต้องเขียน definition(ระบุ) ว่าลูกเทพคือสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ (Stupideotorus..อ่านว่า สติว-ปิด-ดี-โอ้-ทอ-รัส) เพิ่งค้นพบโดยเหล่าเทพที่หลุดออกมาจากศรีธัญญา และรับรองโดยสายการบินบางแห่ง แล้วมันคืออะไรถึงต้องเรียกว่าลูกเทพ???

 

ยังโชคดีที่กรมการบินพลเรือนไหวตัวทัน ไม่บ้าจี้ตาม รีบประกาศก่อนที่ ICAO จะปักธงแดงรัวๆ อีกรอบ ออกมาชี้ชัดเจนว่าลูกเทพคือสัมภาระติดตัว หรือ carry on baggage

 

เรื่องเสื่อม เรื่องบ้า มีกระแสกดดันมากมายแล้ว
ประเด็นที่concern(เกี่ยวข้อง)เรามากในฐานะลูกเรือที่ต้องรับผิดชอบและดูแลความปลอดภัยให้ผู้โดยสารทุกท่านตั้งแต่ขึ้นเครื่อง จนเดินทางถึงจุดหมายปลายทางคือ carry on baggage

 

สายการบินเขียนระบุไว้ชัดเจนว่า ผู้โดยสารสามารถถือกระเป๋าขึ้นเครื่องได้ 1ใบ ขนาด 56x36x23 cm น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโล และกระเป๋าถือ หรือ กระเป๋าใส่ notebook

 

แต่ในทางปฏิบัติทุกวันนี้ ท่านผู้โดยสารบางคนขนของราวกับย้ายบ้านขึ้นเครื่อง หรือแข่งขันกันช้อปปิ้ง last minute ที่สนามบินญี่ปุ่นราวกับจะลงแข่ง Shop Champ รายการทีวีแชมเปี้ยน จนสงสัยว่าเค้าแจกฟรีหรือเปล่า?? ใครซื้อมาก หิ้วถุงมาเป็นพวง ต้องรีบแย่งกันขึ้นเครื่องก่อนจะได้มีที่เก็บของ

 

บางคนกระเป๋าหนักราวกับมีครกอ่างศิลามา 10 ลูก จนในที่สุดเราต้องตัดสินใจส่งกระเป๋าลงไปนอนสวยๆ อยู่ใน compartment ใต้ท้องเครื่อง เพราะหนักเกือบ 20 โล ท่านผู้โดยสารและลูกเรือยังยกไม่ขึ้น จะยกได้คงต้องพึ่งนักกีฬายกน้ำหนักเหรียญทองท่า clean and jerk only

 

แต่ที่สำคัญที่สุดคือเพื่อความปลอดภัย carry on baggage มากมายที่ขนขึ้นมาเครื่องแบบผิดกฏกติกา กระเป๋าทุกใบ ของทุกชิ้น ก่อนเครื่องบินจะ take off และ landing ต้องเก็บใน overhead locker หรือใต้ที่นั่งด้านหน้าเท่านั้น

 

คำถามที่ถูกถามบ่อยมากคือ
ทำไมต้องเก็บกระเป๋า?? 
จะวางสวยๆไว้บนตัก หนีบไว้ที่ขา วางไว้ข้างๆตัว??
หรือ รัดเข็มขัดไว้ที่ seat ข้างๆที่ว่างอยู่ได้หรือไม่??

 

กฎนิรภัยการบินที่เป็นข้อบังคับจาก ICAO ระบุไว้ชัดเจนเรื่องความปลอดภัยในขณะที่เครื่องบิน take off and landing ผู้โดยสารต้องเก็บสัมภาระเข้าที่ให้เรียบร้อย
 

นี่คือมาตรฐานที่ผู้เขียนไม่ได้มโนหรือละเมอมาเข้มตามเก็บเอง

 

เรื่อง Safety ต้องมองแบบ 100% หรือเกิน 100% เราไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย แต่เราใช้หลักคิดว่าสมมติวันนี้จะเกิดเหตุฉุกเฉินจนต้องอพยพผู้โดยสารต้องเตรียมพร้อมทุกครั้งที่เครื่องขึ้นลง you never knows when things happen!!(คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น) ถ้าเครื่องลงแบบ smooth and happy landing(จอดลงด้วยความราบรื่นดี) ก็เท่ากับกำไรเพราะถือว่าเราได้ทบทวน safety procedure (มาตรฐานความปลอดภัย)

 

แต่ถ้าเกิด emergency landing(การลงจอดแบบฉุกเฉิน)
ลองคิดตามเหมือนดูหนังแบบลุ้นระทึกว่า หลังจากเครื่อง impact ไฟดับทั้งลำ ภายในเครื่องมืดสนิท

 

ลูกเรือสั่ง evacuate ผู้โดยสารจะต้องลุกออกจากที่นั่งอย่างรวดเร็ว ถ้าวางกระเป๋าไว้บนตัก ตั้งแต่แบรนด์ดังไปจนถึงย่ามพระ ไม่ว่าจะถูกจะแพง ของทุกสิ่งอย่างจะตกลงที่พื้น กีดขวางทางออก ทางโกยทันที

 

ท่านอาจจะโกยทัน แต่ถ้าหันกลับมาดูผู้โดยสารข้างๆท่านหรือข้างหลังท่านจะสะดุดกระเป๋าที่ตกจากตัก แล้วล้มลงไปกองกันจนหนีออกจากเครื่องไม่ได้ เพราะของที่ไม่ได้เก็บเข้าที่จะบล๊อคทางวิ่งทั้งหมด

 

แล้วถ้าเราจับกระเป๋าคาดเข็มขัดเหมือนขาย seat ให้ลูกเทพล่ะ ก็น่าจะโอเคใช่มั้ย?

 

คิดผิดคิดใหม่นะ ลองจินตนาการดู
ถ้าเกิดกรณีต้องอพยพผู้โดยสาร ทุกคนต้องรีบลุกจาก seat วิ่งไปออกันหน้า exit พร้อมโดด slide เตรียมสละเรือ แต่ลูกเทพและกระเป๋ายังนั่งชิวๆหน้าสลอนติดอยู่กับ seat

 

หลายคนคิดว่าไม่เป็นไรมั้ง ไม่ได้ทำความเดือดร้อนหรือไปบล๊อคการ evacuate

 

คำตอบคือ..ถ้าเกิดกรณีทางเดินบนเครื่องซึ่งใช้เป็นเส้นทางเผ่นถูกบล๊อคไปแล้ว ถึงตอนนั้นเราคงต้องกระโดดข้าม seat แบบวิ่งข้ามรั้ว ศัพท์เทคนิคเรียกว่า jump over seat หรือแม้กระทั่งต้องเหยียบบนที่นั่ง ถึงตอนนั้นเหล่าลูกเทพและกระเป๋าแบรนด์ดังทั้งหลายก็จะตกเป็นจำเลยทันทีว่า ขัดขวางการอพยพ และถ้าเหยียบลงไปบนกระเป๋าที่อาจจะมีซิปหรือกระดุมแป๊กแหลมคม หรือลูกเทพภาคพิศดารแต่งตัวพร้อมเครื่องประดับโลกแตก ที่จะตำเท้าของผู้โดยสาร หรือสะดุดล้มคะมำได้ ที่สำคัญคืออาจทำให้เข้าใจผิดคิดว่ายังมีผู้โดยสารหลงเหลืออยู่ในเครื่องได้

 

เหตุเกิดบน flight กรุงเทพ-เชียงใหม่
เราเดิน final check (เช็คครั้งสุดท้าย)ก่อนเครื่องขึ้น บอกผู้โดยสารท่านหนึ่งให้ช่วยเก็บกระเป๋าแบรนด์ดังไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้า ท่านยืนยันจะกอดไว้บนตัก บอกว่ากระเป๋าใบนี้ราคาแพง มีของขลังปลุกเสก จะเก็บไว้ที่พื้นข้างใต้ไม่ได้

 

เรา : ถ้ามีของขลังขอให้เก็บไว้บูชาใน overhead locker ค่ะท่าน
ผู้โดยสาร : แต่มีเงินด้วย กลัวหาย
เรา : ขอแค่ตอนเครื่องขึ้นกับลงแป๊บเดียวเองค่ะ ขึ้นไปแล้วเอาลงมาได้ค่ะ
ผู้โดยสาร : ก็แค่ไปเชียงใหม่แป๊บเดียวนี่ละ ถึงไม่ต้องเก็บไง กอดเอาไว้ตั้งแต่ขึ้นจนลงก็ได้

(เอาละ งานช้างมาแล้ว จะ deal ให้จบสวยๆยังไงดีละ???)
เรา : ท่านคะ.. ถ้าเกิดฉุกเฉินขึ้นมา กระเป๋าของท่านจะหล่นจากตัก ลงมาบล๊อคทางออกจนผู้โดยสารท่านข้างในออกไม่ได้นะคะ (ดึงผู้โดยสารข้างในมาเป็นพวกซะอย่างงั้น)
ผู้โดยสาร :ไม่เกิดหรอก มีของปลุกเสกมาด้วย

 

(อ้าวววว.. ขลังยังไม่จบ)
เรา : (หยิบ safety card ที่อยู่หน้าสุดใน seat pocket ออกมา มีรูปกระเป๋าวางบนตักพร้อมตัวกากบาทสีแดง เป็น international sign ชัดเจนว่าห้ามวางกระเป๋าบนตัก ชี้ให้ดูและอธิบายอีกครั้งว่าเป็น safety rules and regulations)

พร้อมทั้งผู้โดยสาร 2 คนที่นั่งติดกันก็กดดันด้วยสายตาว่า เก็บเถอะ ในที่สุดกระเป๋าแบรนด์ดังที่มีของขลังก็ได้ลอยขึ้นไปบน locker โดยพนักงาน

 

ความปลอดภัยบนเครื่องบินเป็นความรับผิดชอบของทุกคนที่เกี่ยวข้อง เรามองให้เป็น loop เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน ฝ่ายช่าง นักบิน ลูกเรือ แม้กระทั่งพนักงานทำความสะอาดบนเครื่องบินที่เรารียกว่า cleaner ยังต้องจัดวาง safety card ไว้หน้าสุดในกระเป๋าหน้าที่นั่งของท่าน ก่อนจะ check in เพื่อ up status FB ลองหยิบขึ้นมาอ่านดูสักนิด

 

Safety มีสีดำ สีขาว ชัดเจน ไม่มีสีเทา และ no compromise (ไม่มีการประนีประนอมผ่อนปรน)ในทุกกรณี ทุกสายการบินมีตัวหนังสือหรือ rules and regulations manual ที่ใช้อ้างอิง มีคำตอบพร้อมเหตุผลชัดเจนทุกเรื่องว่าจะอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้

 

พนักงานทุกคนต้องปฏิบัติตามระเบียบบริษัท โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็น priority 

 

เราขอขอบคุณท่านผู้โดยสารทุกท่านที่เปรียบเสมือนฟันเฟืองสุดท้ายที่ปลาย loop ที่ให้ความร่วมมือทำตามระเบียบ ให้พวกเราที่ดูแลด้านความปลอดภัยและทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์ในทุกเที่ยวบิน

 

สุดท้ายนี้ขอเน้นย้ำ ขีดเส้นใต้ ระบายสีเหลือง highlight และโรยกากเพชร อีกครั้งว่า ลูกเทพ ลูกกรอก กุมารทอง รักยม ขอเชิญขึ้นบูชาไว้บน overhead locker เท่านั้น

 

12592412_10206485075540103_644540380436102854_n

 

12651004_10206485110340973_3229988338955850915_n

 

12321228_10206485110780984_8627523560911505844_n

 


ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊กPanprapa Tantivithayapitak
เรียบเรียงใหม่โดย Thaijobsgov

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: