น้ำปลาหวาน ถือเป็นของโปรดของหลายๆคน ยิ่งถ้าได้กินคู่กับมะม่วงเปรี้ยวๆด้วยแล้ว มีเท่าไรก็ไม่เคยพอจริงๆ ใครคนไหนที่ชอบรับประทานน้ำปลาหวานเป็นชีวิตจิตใจ วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีทำน้ำปลาหวานแบบบ้านๆแต่อร่อยระดับภัตราคารกัน พร้อมแล้วไปชิมไปชมพร้อมๆกันเลยค่ะ
วัตถุดิบที่ต้องมี
1. น้ำตาลปีบอย่างดี 2 ขีด
2. กะปิอย่างดี 1 ช้อนชา (ส่วนนี้เลือกใส่ได้ตามความชอบ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่)
3. น้ำปลาอย่างดี 3-4 ช้อนโต๊ะ (อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับความเค็มของกุ้งแห้ง)
4. กุ้งแห้งป่นหยาบ 1/4 ถ้วย
5. กุ้งแห้งป่นละเอียด 1/4 ถ้วย
6. หัวหอมแดง 5 หัว
7. พริกขี้หนูสวน (มากน้อยตามความชอบ)
ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ
1. เริ่มต้นเตรียมวัตถุดิบด้วยการปอกเปลือกหัวหอมแดง ล้างน้ำให้สะอาด พักสะเด็ดน้ำ แล้วซอยบาง ๆ ตามยาว
2. เด็ดพริกขี้หนูสวนสัก 5-6 เม็ด ล้างน้ำให้สะอาด พักสะเด็ดน้ำ แล้วซอยบาง ๆ ไว้
3. ชิมรสชาติกุ้งแห้งที่ซื้อมาว่าเค็มน้อยหรือเค็มมากแค่ไหน
4. นำกุ้งแห้งตัว ๆ ที่ไม่ติดเปลือกใส่โถปั่นแห้ง แล้วปั่นให้พอหยาบ ให้ได้1/4 ถ้วย
5. ปั่นกุ้งแห้งที่เหลือให้ละเอียดกว่าส่วนแรก ให้ได้ 1/4 ถ้วย
[ads]
วิธีทำน้ำปลาหวาน
1. นำน้ำตาลปีบ กะปิ และน้ำปลา ใส่ไว้ในหม้อใบย่อม ๆ เติมน้ำลงไปสัก 1-2 ช้อนโต๊ะ เพื่อช่วยให้น้ำตาลปีบละลายง่ายขึ้น (ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำปริมาณมาก เพราะสุดท้ายก็ต้องเคี่ยวให้ข้นขึ้นอยู่ดี)
2. ใช้ทัพพีบี้ให้กะปิและน้ำตาลปีบกระจายตัวและเข้ากันดี
3. นำหม้อขึ้นตั้งไฟกลางค่อนมาทางไฟอ่อน กวนสักพักให้น้ำตาลละลายจนหมด น้ำตาลจะเหลวมากขึ้น
4. ลดไฟลง เคี่ยวต่อไปเรื่อย ๆ โดยใช้ทัพพีคนเป็นระยะๆ ระวังอย่าให้ไฟแรงเกินไป เพราะจะล้นและไหม้ได้ง่าย ๆ
5. เคี่ยวจนเดือด และได้ความข้นประมาณนมข้นหวาน ชิมรสชาติความอร่อย โดยอย่าให้มีรสเค็มนำเพราะเมื่อใส่กุ้งแห้งลงไป น้ำปลาหวานจะเค็มมากขึ้น
6. ใส่กุ้งแห้งป่น หัวหอมซอย พริกขี้หนูซอย คนให้ทั่ว
7. เคี่ยวต่อไปอีกนิด น้ำปลาหวานจะใสขึ้นเล็กน้อยเพราะน้ำออกจากหัวหอมจะซึมออกมา ชิมรสชาติและปรับจนพอใจ โดยถ้ารสอ่อนเค็มก็ให้เติมน้ำปลาเพิ่ม แต่ถ้ารสเค็มเกินไปก็ให้เติมน้ำตาลปีบลงไปแทน
8. เคี่ยวให้ข้นขึ้นอีกเล็กน้อยก่อนปิดเตา น้ำปลาหวานจะมีฟองขึ้น ให้ตั้งทิ้งไว้สักพักฟองจะหายไปเอง
9. ตักใส่ถ้วย โรยด้วยหัวหอมซอยและพริกขี้หนูซอยเล็กน้อยก่อนเสิร์ฟ
เสร็จเรียบร้อยแล้วกับเมนูแสนอร่อยอย่าง ‘น้ำปลาหวาน’ ใครอยากทานก็ลองเอาไปทำกันดูได้เลย และถ้าได้รับประทานกับมะม่วงเปรี้ยว ๆ หรือแอปเปิ้ลเขียวด้วยแล้วละก็ อร่อยจนหยุดไม่อยู่แน่ๆ
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก maesalim.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย ThaiJobsGov.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ