สั่งตั้งกก.สอบความประพฤติ ฝรั่งทำร้ายหมอ หากผิด จ่อเพิกถอนวีซ่า





สำหรับในเช้าวันนี้ พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต มอบหมายสั่งการให้ พ.ต.อ.ภาสกร สนธิกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เข้ามาดูแลคดีนี้อย่างใกล้ชิดเนื่องจากพิจารณาเห็นว่าเป็นคดีที่เกี่ยวข้อง มีคู่กรณีระหว่างชาวไทยและชาวต่างประเทศประกอบกับกำลังเป็นที่สนใจของสาธารณชน หลังจากที่มีการเผยแพร่ข้อมูล ภาพและคลิปทางสังคมออนไลน์ และสื่อมวลชนทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมกันนี้ พ.ต.ท.อนุกูล หนูเกตุ รองผู้กำกับการ สอบสวน และนายทรงศักดิ์ สวนอักษร ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล เขต 3 จังหวัดภูเก็ตและคณะ มาร่วมด้วย

พ.ต.อ.ภาสกร สนธิกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในคดีที่เกิดขึ้น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้ทราบเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นและตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว เชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นตามที่แพทย์หญิงมาแจ้งความจริงจึงเป็นห่วงใยในกระบวนการยุติธรรมจึงมอบหมายให้เข้ามาดูแลคดีนี้ด้วยตนเอง สำหรับคดีที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีความกดดันหรือไม่นั้นเนื่องจากถูกพาดพิง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน สำหรับในคดี จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และในวันนี้ก็อยากจะพบแพทย์หญิงผู้เสียหาย ที่จะต้องมาให้รายละเอียดข้อเท็จจริงเป็นอย่างใด เข้าสู่กระบวนการสอบสวน

“พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ห่วงใยในการทำงานของเจ้าหน้าที่สายตรวจที่ไปยังสถานที่เกิดเหตุและการทำงานแบบนี้จะต้องมี SOP หรือเปล่า ที่อาจจะทำให้หมอเข้าใจผิด ว่าตำรวจไปอยู่กับฝั่งหนึ่งฝั่งใดแล้วจริงๆ แล้วการทำงานของสายตรวจเมื่อได้รับแจ้งเหตุแล้วต้องเข้าไประงับเหตุพร้อมกับแนะนำผู้เสียหายมาที่สถานีตำรวจภูธรถลางเพื่อพบพนักงานสอบสวนและแจ้งความตามขั้นตอน” พ.ต.อ.ภาสกร สนธิกุลกล่าว

พ.ต.อ.ภาสกร กล่าวต่อว่า จากกรณีที่ชาวต่างประเทศอ้างว่า เป็นที่ส่วนบุคคลนั้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าพื้นที่เกิดเหตุเป็นที่สาธารณะไม่น่าจะมีเหตุบุกรุกตามที่มีการกล่าวอ้างถึง แล้วการบุกรุกนั้น ต้องมีเจตนา ได้ในขณะที่การกล่าวอ้างว่ามีวีดีโอบันทึกเอาไว้ฝ่ายชาวต่างประเทศ ในเรื่องนี้ หากนำมาให้เจ้าหน้าที่ได้ดูตรวจสอบ จะได้เป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ใจในส่วนของชาวต่างประเทศให้เอามาแสดงได้กับพนักงานสอบสวน

คดีที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีความหนักใจแต่อย่างใดเพราะพิจารณาถึงข้อเท็จจริง ที่ข้อเท็จจริงมีเพียงหนึ่งเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความหนักเบา ของใบชันสูตรบาดแผล ของแพทย์หญิงที่แพทย์เป็นผู้ตรวจ เอามาให้พนักงานสอบสวน พิจารณาประกอบคดี จากการตรวจสอบแพทย์ระบุว่ามี ลักษณะของฟกช้ำบริเวณไหล่ การรักษาพยาบาลได้ภายใน 7 วัน

พ.ต.อ.ภาสกร กล่าวต่อว่า ภายหลังที่ แพทย์หญิงธารดาว จันทร์ดำ บิดา และคณะ ที่นำเอกสารการชันสูตรบาดแผลของแพทย์โรงพยาบาลดิบุกมามอบให้พนักงานสอบสวน และให้ปากคำเพิ่มเติม ว่าหลังจากที่พนักงานสอบสวนสอบปากคำและได้พยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้วและมีข้อมูลที่ชัดเจนว่าสมควรที่จะเสนอขอหมายศาลออกหมายเรียกให้ชาวสวิตเซอร์แลนด์ มาพบพนักงานสอบสวนและ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็จะดำเนินการต่อไป และในเรื่องของคดีนั้นพนักงานสอบสวนไม่มีความห่วงกังวลใดใดเพราะในวันนี้แพทย์หญิงได้นำเอกสารหลักฐานในการชันสูตรบาดแผล ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลดีบุกมาให้พนักงานสอบสวนแล้ว ส่วนความหนักเบาของคดี ที่ขึ้นอยู่กับขนาดของบาดแผลด้วย

นอกจากนี้ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง จะต้องไปตรวจสอบ ข้อมูล ของชาวต่างประเทศรายนี้ ทั้งการทำธุรกิจส่วนตัวต่างๆและปางช้างในท้องที่ตำบลเชิงทะเลอำเภอถลางด้วย

พ.ต.อ.ภาสกร กล่าวต่อว่า จากคดีที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ ที่มีชาวต่างประเทศเป็นคู่กรณีกับชาวไทย ทำให้นึกถึงข้อดำริ ข้อหารือ ในที่ประชุมระดับจังหวัด ที่จะมีการ มอบหมายสั่งการของ นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ภูเก็ต และพลตำรวจตรีสินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ที่มีข้อห่วงใย ในอนาคตต่อไป โดยในขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด มีแนวคิดในการ จัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบชอบความประพฤติของชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตผ่านคณะกรรมการโดยมีด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ตเป็นเลขานุการ ซึ่งกระบวนการต่างๆในช่วงที่ผ่านมาเริ่มมีชาวต่างชาติบางคนประพฤติตนไม่เหมาะสมต้องนำกรณี หรือคดีต่างๆเข้าสู่คณะกรรมการชุดนี้ ถ้าเกิดว่าเข้าข่ายในการเพิกถอนวีซ่าก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด โดยเห็นว่ามีชาวต่างประเทศใน 2-3 กรณีกรณีแรกนั้นดำเนินการไปแล้วคือชาวฝรั่งเศสและ ที่เป็นกลุ่มชาวฝรั่งเศส ที่ขับขี่จักรยานยนต์ ป่วนเมืองในท้องที่ตำบลป่าตอง ส่วนกรณีล่าสุดนี้อาจจะเป็นกรณีศึกษาอีกเรื่องหนึ่ง

ในส่วนของการปฎิบัติงานของเจ้าที่ตำรวจนั้นขอให้ทุกท่านเชื่อมั่นในกระบวนการที่ตำรวจทำการสอบสวนที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายแน่นอนและปัจจุบันผู้เสียหายมักจะไม่ทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีที่เกี่ยวข้อง เป็นเหตุต้องไปร้องกับสื่อหรืออินฟลูเอนเซอร์ต่างๆ ปัจจุบัน ทางตำรวจภูเก็ตกำลังเขียนแพลตฟอร์มขึ้นมาแพลตฟอร์มหนึ่งผู้เสียหายเมื่อแจ้งความแล้วจะได้รหัสผ่านจากพนักงานสอบสวนแนะนำ รหัสผ่านนั้นไปตรวจสอบในระบบ เพื่อติดตามเกี่ยวกับคดีของตนเองในอนาคตนอกจากนี้ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดหรือCCTVผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้ร่วมกันทำโครงการนี้เสนอขอรับจัดสรรงบประมาณผ่านไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปแล้วมีทั้งหมดจำนวน 1,404 ตัวและยังเป็นระบบที่มี AIควบคุม แล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 เป็นต้นไป เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะมีการติดตั้งกล้อง ซึ่งจะมีระบบควบคุมความประพฤติของคนมากขึ้น

ทางด้าน พ.ต.ท.อนุกูล หนูเกตุ รองผู้กำกับการสอบสวนกล่าวว่า ในส่วนของพนักงานสอบสวนมีเพียงประเด็นเดียวเท่านั้นคือประเด็นการทำร้ายร่างกายพยานหลักฐานสำคัญในการทำร้ายร่างกายคือบาดแผลการเกิดบาดเจ็บขนาดไหน เป็นกรณีธรรมดาหรืออันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ เป็นหลักฐานสำคัญในการที่จะแจ้งข้อกล่าวหาชาวต่างประเทศแต่ขั้นตอนยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนโดยสอบสวนผู้เสียหายเพิ่มเติมในวันนี้

รวมทั้งการพิสูจน์บาดแผลเพื่อจะได้นำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาชาวต่างประเทศ ตำรวจต้องให้ข้อเท็จจริงชัดก่อนจึงจะกล่าวหา

ส่วนความหนักใจอะไรนั้นตามที่เป็นข่าวเป็นประเด็นที่แต่ละคนก็อาจจะคิดไปเองบางส่วนไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พนักงานสอบสวนจะทำให้ถูกต้องที่สุดมีอะไรที่ดำเนินการเพื่อนำเสนอต่ออัยการและศาลส่วนเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ากับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือไม่เรื่องนี้ การที่มีการกล่าวอ้าง แต่ยืนยันได้ ว่าพนักงานสอบสวน ดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายแน่นอน

 

ข่าวจาก : มติชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: