เผยเส้นทางการเงิน “แก๊งพี่ศรี”ชัดเจนจ่อแจ้งข้อหาคนใกล้ชิด รับหนักใจหวั่นเหยื่อวงอื่นไม่ให้ข้อมูล





กรณีตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก. ปปป.) จับกุมนายเอกลักษณ์ วารีชล อายุ 47 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินสำหรับตนเองโดยมิชอบฯ หลังพบร่วมกับนายศรีสุวรรณ จรรยา, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และ น.ส.พิมณัฎฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือการ์ตูน ข่มขู่เรียกรับเงินนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว แลกกับการยุติเรื่องร้องเรียนทุจริต นายเอกลักษณ์ถือเป็นคีย์แมนสำคัญระดับสั่งการ

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีว่าวันที่ 12 ก.พ. พนักงานสอบสวนเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับสำนักนายกรัฐมตรีมาให้ข้อมูลจำนวนหลายราย และบุคคลที่เป็นข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ 2 ราย ซึ่งเป็นคนที่นำข้อมูลมาให้กับคนกลุ่มนี้ก็จะเดินทางเข้ามาพบในวันดังกล่าวเช่นเดียวกัน แต่เป็นเพียงการพูดคุยเท่านั้น ยังไม่ได้เป็นการสอบปากคำ ส่วนวันที่ 15 ก.พ.บุคคลใกล้ชิดของนายศรีสุวรรณ ประสานมาเพื่อเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาและจะแจ้งข้อกล่าวหาในวันดังกล่าวรวมถึงนายวีระ สมความคิด ก็จะเข้ามาพบกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้ข้อมูลวันที่ 15 ก.พ.เช่นกันส่วนผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหาตบทรัพย์ก็มีความจำนงจะทยอยเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม

พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวยืนยันว่า เส้นทางการเงินในวงนี้ชัดเจนถึงทุกคน รวมถึงหลักฐานอื่นๆ อีกและที่ประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจะไล่ไปดูทุกวงแต่สิ่งสำคัญคือผู้เสียหายจะให้การหรือไม่นั้นถือเป็นเรื่องหนักใจของชุดสืบสวนและข้อมูลเบื้องต้นผู้ต้องหากลุ่มนี้ทำหลายเคสจึงอยากได้ข้อมูลกับทุกเคสเพราะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีและจะสามารถดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ด้วย

พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า การทำคดีนี้มีผลกระทบ เพราะมีการพูดไปถึงการทำลายพรรคการเมืองด้วย และขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทำไปตามพยานหลักฐาน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆ ทั้งสิ้นและข้อกฎหมายบางอย่างที่มีการพูดถึงมองว่าคนที่พูดอาจจะให้ข้อมูลยังไม่เข้าใจบางเรื่องเพราะสิ่งที่ตำรวจดำเนินการตรงประเด็นและข้อกฎหมายมีการศึกษากันมาเพียงพอแล้วเพราะผู้ที่ให้ข้อมูลเรื่องต่างๆ ตอนนี้มีที่ดูแล้วยังไม่เป็นข้อเท็จจริงด้วย ส่วนการสรุปสำนวนคดีก็จะรีบดำเนินการในวงของอธิบดีกรมการข้าวให้คดีเรียบร้อย และเป็นแนวทางในการสืบสวนวงอื่นๆ ต่อไปซึ่งจะใช้คดีต่างๆ มาเป็นพยานแวดล้อมเพื่อให้สำนวนแน่นหนาขึ้นด้วย รวมถึงจะขยายวงที่กลุ่มนี้ไปกระทำความผิดให้ครบทุกวง

 

ข่าวจาก : มติชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: