สาว26 แชร์ประสบการณ์เส้นเลือดในสมองแตก เพราะโรค AVM เกิดเพียง10ในแสนคนเท่านั้น!





17 มิ.ย. 2566 น.ส.นันท์นภัส มณฑา หรืออิคคิว อายุ 26 ปี เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ หลังจากออกมาแชร์ประสบการณ์เส้นเลือดในสมองแตก และเป็นโรคหายากที่มีโอกาสเกิดกับคนเพียง 10 ใน 100,000 คน

น.ส.นันท์นภัส กล่าวว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นตนอายุ 23 ปี ขณะที่ออกกำลังกายอยู่ที่ห้อง จังหวะที่กำลังออกแรงยกเวท ก็รู้สึกเหมือนเส้นอะไรบางอย่างในสมองขาดออกจากกัน และไม่นานก็เริ่มปวดหัวหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนพยุงตัวเองไม่อยู่ทรุดตัวลงกับพื้น ตนตะเกียกตะกายคว้าโทรศัพท์มือถือโทรหาแฟนและพี่สาว แต่ไม่มีใครรับสายเลยเนื่องจากเป็นช่วงเวลาเช้า

ในขณะนั้นตนทนไม่ไหวแล้ว จึงได้พยายามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ เพราะคิดว่าน่าจะเป็นเสียงสุดท้าย โชคดีที่แม่บ้านของหอพักได้ยินจึงรีบเปิดประตูเข้ามาช่วยเหลือ ภาพที่ตนเห็นนั้นมีคนยืนมามุงดู ที่หน้าประตูห้องเยอะมาก จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ใส่ชุดพีพีอีมาช่วยเหลือพาส่งโรงพยาบาล ตนจำอะไรไม่ได้เลยเพราะปวดหัวมาก มารู้ภายหลังว่าเราตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือเสียงดังมาก

เจ้าหน้าที่พาตนมาส่งโรงพยาบาลในเครือประกันสังคม เพราะอยู่ใกล้กับหอพักมากที่สุด เมื่อมาถึงโรงพยาบาลครอบครัวก็รีบมาหา และทางทีมแพทย์ก็ไม่ยอมพาตนไปเอกซเรย์สมองเลย ทำให้ตนปวดหัวและร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่ตลอดทั้งวัน แพทย์ได้วินิจฉัยว่าตนน่าจะเป็นโรคทางจิตเวช เพราะว่ากรีดร้องเสียงดังและหลับบ่อย พอตื่นมาก็ร้องอีก

ตอนนั้นตนจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้เพียงแค่ว่าปวดหัวมาก พี่สาวเห็นท่าไม่ดี จึงขอให้แพทย์เอกซเรย์สมองให้ ผลเอกซเรย์ปรากฏว่ามีความผิดปกติบางอย่างในสมอง ซึ่งที่โรงพยาบาลนั้นไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองเลย พี่สาวจึงรีบติดต่อขอคำแนะนำจากญาติที่เป็นหมอทันที

ญาติของตนได้รับเรื่องเอาไว้ แล้วโทรประสานกับโรงพยาบาลที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง จากนั้นก็รีบส่งตัวไปรักษาภายในคืนนั้นเลย จากการตรวจพบว่าเส้นเลือดในสมองแตก มีเลือดออกในสมอง และเป็นโรคเอวีเอ็ม (avm) หรือเส้นเลือดในสมองผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิด เส้นเลือดดำและเส้นเลือดแดงต่อกันแบบผิดปกติ จึงทำให้การไหลเวียนของเลือดไม่ดีเท่าที่ควร พบได้สิบในแสนคน

หลังจากผ่าตัดตนก็หลับไปประมาณ 2 วัน ตื่นขึ้นมาจำอะไรไม่ได้เลย กลายเป็นอัมพาตซีกขวาทั้งซีก ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง จำไม่ได้ว่าถือช้อนอย่างไร หรือเดินอย่างไร ช่วงเวลานั้นใช้เวลากายภาพบำบัดนานกว่า 6 เดือน ก็ทำให้กลับมาเดินได้ตามปกติจนถึงปัจจุบัน แต่ก็ยังต้องไปหาหมอตามนัด และทานยากันชักตลอดชีวิต

“ที่ผ่านมาไม่รู้มาก่อนว่าตัวเองเป็นโรค avm เพราะโรคนี้เป็นเหมือนระเบิดเวลาที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ บางคนที่เป็นโรคนี้ก็ไม่มีอาการเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่เรานอนน้อยและเครียดมาก จึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น อยากเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังเป็นโรคนี้อยู่ว่า ให้ขยันกายภาพบำบัดและเข้มแข็ง เพราะโรคนี้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติได้” น.ส.นันท์นภัส กล่าว

 

ข่าวจาก : ข่าวสด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: