ล็อกขวดนมในตู้เย็นออฟฟิศผิดมั้ย ขี้งกหรือเพื่อความปลอดภัยกันแน่?





มารยาทในตู้เย็นของสำนักงานมักเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันไม่จบไม่สิ้น ไม่ว่าจะไม่ล้างเครื่องชงกาแฟอย่างถุกต้อง, ไม่ทิ้งขวดน้ำ, ทิ้งเศษอาหารลงในอ่างล้างจาน หรือทิ้งอาหารไว้ในตู้เย็นเป็นเวลาหลายสัปดาห์โดยไม่คิดจะนำออกแถมใส่เพิ่ม แต่ที่หนักที่สุด คือ การขโมยอาหารของคนอื่น

ผู้ใช้เรดดิตรายหนึ่งออกมาระบายพร้อมแนบรูปภาพขวดนม 3 ขวดที่มีขวดหนึ่งแปลกประหลาดกว่าขวดอื่น โดยมีการล็อกฝาขวดนมเพื่อป้องกันคนอื่นขโมยทาน กลายเป็นกระแสไวรัลที่มีกลายถกเถียงสนั่น

ระบุว่า “สุดยอดของความตระหนี่หรืออ้างความปลอดภัยที่สมเหตุสมผลในครัวของออฟฟิศ” จุดชนวนการถกเถียงอย่างดุเดือดทางออนไลน์ ชาวเรดดิตหลายคนออกมาปกป้องพนักงานว่า สิ่งที่ทำก็สมเหตุสมผล ถ้ามีในออฟฟิศมีคนชอบแอบกินของคนอื่น

“เห็นด้วยทั้งสองความคิด แต่หากไม่มีใครแอบกินอาหารของคนอื่นก็ไม่จำเป็นต้องล็อกอาหารมั้ย ฉันก็เคยโดน โดยอดอาหารนาน 12 ชั่วโมงเพราะมีคนขโมยกิน นี่ไม่ใช่เรื่องตลก” , “ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหยุดไม่ให้คนขโมยสิ่งของของคุณ” , “ถ้าไม่มีการขโมยก็คงไม่มีความจำเป็นใดๆ”

“มีเหตุผล 100 เปอร์เซ็นต์ ผู้คนจะดื่มน้ำนมของคุณทันที ไม่มีใครเคารพสิ่งของของผู้อื่นในตู้เย็นส่วนรวม ฉันไม่ได้ใช้ตู้เย็นส่วนกลางมา 20 ปีแล้ว เคยเห็นคนคุ้ยถุงอาหารกลางวันของทุกคน” , “ฉันมีความสุขเสมอที่ได้แบ่งปันนมของฉันในที่ทำงาน แต่หลายครั้งที่ฉันพบว่านมของฉันที่ฉันซื้อมาหมดเกลี้ยงโดยไม่มีสิ่งทดแทน”

ในขณะที่ผู้ใช้รายหนึ่งได้เปิดเผยว่าพวกเขาแก้แค้นเพื่อนร่วมงานจอมละโมบที่ขโมยอาหารกลางวันได้อย่างไร “มีคนขโมยอาหารในที่ทำงาน ดังนั้น ฉันเห็นด้วยอย่างยิ่ง ครั้งหนึ่งเคยซื้อสเปรย์พริกเผ็ดมาก จากนั้นฉีดพ่นที่ด้านล่างของอาหารกลางวัน พร้อมม้วนไส้กรอก แม้ไม่รู้ว่าใครจะแอบกินมั้ย แต่ฉันรู้ว่ามีคนเซอร์ไพรส์” ,”ทีหลัง ลองใส่เกลือลงในนมสิ”

 

ข่าวจาก : ข่าวสด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: