พ่อขึ้นป้ายแห่รอบหมู่บ้าน ขอบคุณที่สั่งจำคุก 2 ลูกชายที่จะฆ่าตนฮุบที่ดิน





27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่บ้านนิคมหนองตาล ต.โพนงาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พ่อรายหนึ่งได้ขึ้นป้ายขนาดใหญ่ติดรถกระบะจอดหน้าบ้าน มีข้อความว่า “ขอขอบคุณตำรวจหนองหาน อัยการ ศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ตัดสินจำคุกลูกทรพีเป็นเวลา 33 ปี และ 25 ปี ข้อหาทรพี เนรคุณ กรรมติดจรวด ไม่ต้องรอชาติหน้า ลงชื่อนายอ้วย” สร้างความประหลาดใจให้กับชาวบ้านที่ผ่านมาพบเห็น

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบกับ นายอ้วย อายุ 80 ปี และ นายปรีดา อายุ 53 ปี ลูกชายคนที่ 2 ของนายอ้วย โดยนายอ้วยเปิดเผยว่า ศาลจังหวัดอุดรธานีได้ตัดสินจำคุกลูกชาย 2 คน ในข้อหาพยายามฆ่าบุพการีทั้ง 2 คน จำคุก 33 ปี และ 25 ปี ศาลตัดสินเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยสาเหตุที่จำคุกเนื่องจากทั้ง 2 คนบุกเข้ามาในบ้าน และพยายามฆ่าพ่อตัวเอง เนื่องจากพ่อยังไม่แบ่งที่นาให้ 20 ไร่ ทำให้ลูกทั้ง 2 คน แค้นพ่อเป็นอย่างมาก แม้ลูกจะถูกจำคุกแต่ฝั่งพ่อยังไม่พอใจ เมื่อรู้ว่าลูกสะใภ้กำลังถมที่เพิ่มทั้งๆ ที่ตนยังไม่แบ่งให้

นายอ้วยเล่าว่า ขณะเตรียมจะหุงข้าวลูกชายคนเล็กเข้ามาทำร้ายตน โดยใช้หนังสติ๊กยิงใส่ จากนั้นได้ถือมีดและขวานเข้ามาเพื่อทำร้าย โดยแทงเข้าที่รักแร้ ตีที่ศีรษะจนแตกเลือดอาบ ตนใช้ไม้เท้าของภรรยาตีแขนลูกชายจนมีดร่วง จากนั้นลูกชายคนที่ 2 เข้ามาช่วยก่อนจะถูกลูกคนเล็กทำร้ายร่างกาย ถูกแทงเข้าที่หลังได้รับบาดเจ็บ และตนก็ได้แจ้งตำรวจ

นายอ้วยเล่าอีกว่า พื้นที่ที่มีปัญหาเป็นที่ จำนวน 20 ไร่ เป็นที่ ภ.บ.ท.5 ยังไม่ได้แบ่งให้ลูกคนไหนเลย เพราะตนยังไม่พร้อม ซึ่งลูกคนเล็กมีการมาแบ่งที่และมาปลูกบ้านอยู่ ตนได้บอกกับลูกชายคนเล็กว่าให้รอก่อน แต่ลูกชายไม่ฟัง นำไปใช้ประโยชน์เลย ลูกคนเล็กอ้างว่าเป็นสมบัติของแม่ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ ยังเป็นชื่อตนอยู่ เมื่อ 57 ปีที่แล้วได้ซื้อที่ดินผืนนี้มาในราคา 8,000 บาท เพราะขายปอได้ อธิบายให้ฟังแล้วเขาก็ไม่สนใจ โดยมีพี่น้องทางแม่มายุแนะนำว่าถ้าพ่อตายก็จะแบ่งให้ได้ทุกคน แต่ลูกก็มาทำร้ายตน 2-3 ครั้งแล้ว ส่วนแม่ก็ป่วยติดเตียงเพราะโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

“หลังจากนั้นก็มีเรื่องกันมาตลอดเป็นเวลา 6 ปีแล้ว ผมถูกลูกแทง จึงนำหลักฐานการถูกทำร้ายไปแจ้งความ นอกจากนั้นก็มีลูกชายคนที่ 2 ถูกแทงและทำร้ายด้วย ซึ่งผมมีลูกชายคนที่ 2 ที่คอยดูแลอยู่ ลูกๆ ที่เหลือติดคุกแล้ว คนเล็กก็ถูกตัดสินจำคุก ส่วนคนโตก็ไปอยู่ที่อื่น หลังจากเกิดเรื่อง ผม ภรรยา และลูกชายก็อยู่กันแบบชาวบ้าน ไม่ได้ไปทำอะไร

“ศาลชั้นต้นตัดสินเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พิพากษาให้ลูกชายคนเล็กจำคุก 33 ปี หลังจากเรื่องเสร็จสิ้นแล้วผมจะฟ้องขับไล่ลูกสะใภ้ออกจากที่ดินแปลงนั้น ไม่ให้อยู่เพราะเป็นคนเนรคุณ และเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ลูกสะใภ้ก็มาด่าผมอีกว่าพ่อนั่นแหละที่เนรคุณลูก ผมก็ไม่โต้ตอบปล่อยไปตามเวรกรรม ทั้งนี้ เตรียมป้ายติดรถไว้เพื่อแห่ไปรอบหมู่บ้าน ขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรมกับตน จำคุกลูกชายทั้ง 2 คน” นายอ้วยระบุ

ด้านนายปรีดาเปิดเผยว่า พ่อมีลูกทั้งหมด 4 คน คนโตชื่อ นายสำรวย ตนเป็นคนที่ 2 และมีน้องอีก 2 คือ นายบรรเลง และ นายบุญจันทร์ เรื่องของเรื่องคือพี่น้อง 3 คนนั้นอยากได้ที่ดินของพ่อ อยากให้พ่อแบ่งให้ 20 ไร่ แต่พ่อยังไม่แบ่งให้ พ่อบอกว่ายังไม่ตาย และยังไม่ถึงเวลา แต่ทั้ง 3 คนก็ยังอยากจะได้อยู่ ทำให้มีปัญหาศึกสายเลือดเรื้อรังมาตั้งแต่ปี 2560 มีญาติฝั่งแม่มาหาพ่อเพื่อให้แบ่งที่นาให้ลูกๆ ทุกคน แต่พ่อไม่ยอม ญาติฝั่งแม่เลยมาขู่ว่าถ้าแม่ตายจะแบ่งที่นาให้หลาน จากนั้นก็มีปัญหาเรื้อรังมาตลอด แต่หนักสุดคือเย็นวันที่ 8 กันยายน 2564 ประมาณ 1 ทุ่ม นายบรรเลงและนายบุญจันทร์ได้มาขู่ฆ่าพ่อ บอกว่าจะฆ่าพ่อ ด่าพ่อสารพัด ออกมาดวลกับกูเลย แต่พ่อก็ไม่ได้ออกไป กระทั่งเช้าวันที่ 9 กันยายน 2564 ประมาณ 7 โมงเช้า พ่อกำลังหุงข้าวอยู่ปรากฏว่านายบรรเลงใช้หนังสติ๊กยิงใส่หน้าอกของพ่อ และยิงใส่ตนอีก 2 ครั้ง

นายปรีดาเล่าว่า หลังจากนั้นน้องทั้ง 2 คนก็ถือมีดและขวานวิ่งเข้ามาจะทำร้ายพ่อ พ่อจึงวิ่งหนี ตนเข้าไปช่วยพ่อจนเกิดการตะลุมบอนขึ้น ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ฝ่ายน้องชายหัวแตกเลือดอาบ ตนและพ่อก็เจ็บเหมือนกัน สาเหตุที่เขาอยากจะฆ่าพ่อเพราะอยากได้ที่ดินแต่พ่อไม่ให้ พ่อได้ไปแจ้งความที่ สภ.หนองหาน ข้อหาพยายามฆ่าบุพการี ศาลตัดสินให้นายบุญจันทร์จำคุก 33 ปี ส่วนนายบรรเลงจำคุก 25 ปี

 

ข่าวจาก : มติชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: