26 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ “บ้านดุงอัพเดต Bandung Update” โพสต์เรื่องราวสุดหดหู่ แม่พาลูกสาววัย 4 ขวบขี่รถจยย.จาก อ.สังคม จ.หนองคาย จะไปบ้านเกิดที่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยบอกว่าแม่ลูกหนีตายจาก อ.สังคม ข้ามจังหวัดมาที่ ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง จ.อุดรฯ มาขอความช่วยเหลือจากกู้ชีพบ้านจันทน์ จึงประสานมาหาแอดมินให้เข้าไปตรวจสอบช่วยเหลือ
จากการสอบถามแม่ลูก ทราบว่าบ้านอยู่ ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย แต่โดนสามีขู่จะฆ่า จึงรีบหอบลูกและเสื้อผ้าขับรถหนี ไม่มีเงินติดตัว เบื้องต้นบ้านดุงอัพเดทพามาพักที่รีสอร์ตก่อน 1 คืน พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากันว่าจะดำเนินการไปอย่างไร ให้เด็กเด็กนอนพักก่อน เสร็จภารกิจตี 2 โดยห่างวัดระยะทางจากบ้านห้วยไซงัว ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ไปจุดหมายที่ ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ 2 แม่ลูกต้องเดินทางด้วยรถจยย.ไกลเกือบ 500 กม.เลยทีเดียว
ต่อมาวันนี้ เวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.บ้านดุง โดย นายวีระพล เตรียมไปส่งถึงบ้านที่ จ.สุรินทร์ ในวันพรุ่งนี้ โดยพบกับ น.ส.รัชนีกร (ขอสงวนนามสกุล) หรือแป้ง อายุ 34 ปี อยู่กับลูกสาววัย 4 ขวบ ชื่อเล่น น้ำอิน โดยมีสัมภาระเป็นกระเป๋าใส่เสื้อผ้าของลูก และของใช้บางส่วนในกระเป๋าอีก 2 ใบ และยังมีรถจยย.จอดอยู่ 1 คัน ที่หน้ารีสอร์ต โดยทราบว่า มีเงินติดตัวมา 200 บาท แต่ตอนนี้เหลือเงิน 90 บาท ค่อยๆ เติมน้ำมันทีละ 30-40 บาท
น.ส.แป้ง เปิดเผยว่า ตนเดินทางจากบ้านพักที่บ้านห้วยไซงัว ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย เมื่อช่วงบ่ายสามวานนี้ โดยตั้งใจจะกลับบ้านที่ ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ บ้านเกิด แต่ได้พาลูกสาววัย 4 ขวบ แวะมาหาป้า ซึ่งเป็นพี่สาวของพ่อ ที่บ้านทรายมูล ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง แต่ป้าไม่อยู่บ้าน ชาวบ้านในหมู่บ้านเห็นแล้วสงสาร จึงแจ้งหน่วยกู้ชีพ อบต.บ้านจันทน์มาช่วยเหลือ ยอมรับว่ามันไกล แต่ก็ต้องไป
ส่วนสาเหตุที่ต้องหนีจากสามีคือ นายแอน ชาญวิทย์ อายุ 37 ปี เพราะอยู่ด้วยกัน 5 ปี เขาดื่มเหล้าแทบทุกวัน พอกินแล้วก็หาเรื่องทะเลาะกันตน และแถมยังขู่ฆ่า ตนกลัวจะทำจริงๆ จึงพาลูกสาวหนีตาย เพื่อจะกลับบ้านเกิดที่ จ.สุรินทร์ เขาไม่เล่นยาเสพติด แต่เนื่องจากหลายปีก่อนเขาถูกรถชนแต่รอดตายกลับมาได้ จากนั้นก็เปลี่ยนไป จากคนไม่กินเหล้าก็กินเหล้าบ่อย ตนอยู่ไม่ได้ เพราะหากอยู่อาจถูกฆ่าจริงๆ จึงต้องไปตายเอาดาบหน้า
น.ส.แป้ง กล่าวต่อว่า สำหรับตนเมื่อปี 61 เคยไปประกวดร้องเพลงในรายการไมค์ปลดหนี้ แต่แพ้รอบคัดเลือกสู้แชมป์ไม่ได้ ได้เงินกลับมา 5,000 บาท แต่ได้เงินสงสารจากผู้ใจบุญได้มา 1,600,000 บาท ก็มาซื้อที่ดิน สร้างบ้าน ตอนนี้เงินไม่เหลือสักบาท รับจ้างกรีดยางพารากับสามีหาเลี้ยงชีพ ยอมรับเงินล้านกว่าบาทหมดไปแล้ว แต่ก็ได้ซื้อที่ดิน สร้างบ้าน และซื้อรถยนต์เก่าๆ เอาไว้ใช้บ้านที่ อ.สังคม ตอนนี้ไม่อยากได้ทรัพย์สินทั้งหมดแล้ว จะขอไปตายเอาดาบหน้าที่บ้านเกิดสุรินทร์แล้วกัน เพราะหากอยู่ต่อไปสามีคนนี้ฆ่าตายแน่ๆ
ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามอีกว่า เคยไปประกวดร้องเพลงในรายการไมค์ปลดหนี้ ตอนนั้นเป็นหนี้เท่าไร น.ส.แป้งบอกว่า เป็นหนี้ค่าอ้อยอยู่ประมาณ 5,000 บาท มีคนรู้จักในหมู่บ้านแนะนำให้ไปร้องเพลงเพื่อปลดหนี้ เพราะเห็นว่าตนพอร้องเพลงได้ แต่ไม่เข้ารอบเมื่อได้เงินมาจากผู้สงสารก็มาซื้อทรัพย์สินเอาไว้ แต่ชีวิตไม่เหมือนฝัน มีปัญหากับสามีตลอด พอเมาเหล้าก็หาเรื่องทะเลาะว่าจากมีเงินเป็นล้านตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว ต้องไปรับจ้างกรีดยางพาราแต่เงินมาเป็นรายวัน ถึงตอนนี้ตนตัดสินใจดีแล้ว ไม่เอาทรัพย์สินอะไรที่หนองคาย จะขอไปอยู่บ้านเกิดแล้วกัน
โดยวันพรุ่งนี้ นายวีระพล รักเสมอวงศ์ รองประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านดุง และแอดมินเพจบ้านดุงอัพเดต จะเดินทางไปส่ง น.ส.แป้ง และลูกสาววัย 4 ขวบถึงที่หมาย ต.บะ จ.สุรินทร์ ต่อไป เนื่องจากสงสารครอบครัวสองแม่ลูกนี้ที่ต้องขับรถจยย.กลับบ้านไกลโดยลำพัง
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ