จากกรณีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. สนธิกำลังกับ บก.ปปป.และ ป.ป.ท. เข้าจับกุม ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ขณะเรียกรับเงินจากคู่สัญญาโครงการจ้างเหมาประกอบอาหาร (ปรุงสำเร็จ) สำหรับนักเรียน ภาคเรียนที่ 2/2565 ได้ที่ห้องที่ทำงาน พร้อมหลักฐานเป็นเงินสดจำนวน 329,000 บาท
ต่อมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายศรชัย ชูวิชัย ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.ร่วมแถลงจับกุม ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเพิ่งจะย้ายมาใหม่ จึงมองเห็นช่องว่างว่าผู้ประกอบการได้กำไรจากอาหารมื้อเช้า ที่เด็กนักเรียนมักไม่ค่อยมากิน จึงเริ่มมีการเรียกเงินมาตั้งแต่เดือน พ.ย.เป็นต้นมา ทางผู้ประกอบการที่ได้กำไรน้อยอยู่แล้ว จึงต้องไปหยิบยืมเงินมาจ่ายใต้โต๊ะให้ เนื่องจากถูกขู่ว่าจะยกเลิกสัญญา ประกอบกับต้องทนแบกรับภาวะขาดทุนและพฤติกรรมของ ผอ.ไม่ไหว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมดังกล่าว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาอ้างว่า จะนำเงินไปซื้ออุปกรณ์โต๊ะเก้าอี้นั้นถือว่าเป็นงบคนละส่วน เงินที่เรียกรับจากผู้ประกอบการนั้นเป็นเงินค่าอาหารกลางวันเด็ก ที่ต้องได้รับอาหารดีมีประโยชน์ที่รัฐจัดสรรมาให้ การจับกุมครั้งนี้จึงเป็นการช่วยปรามไม่ให้ที่อื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่างอีกด้วย
ส่วน นายนิวัติไชย กล่าวว่า จากการตรวจสอบจนถึงขณะนี้ พบมีผู้ต้องหารายนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อขยายผลว่ายังมีใครมาเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ ซึ่งนอกจากคดีนี้แล้วทางก็ยังรับแจ้งเบาะแสคดีลักษณะเดียวกันที่โรงเรียนอื่นอีกหลายแห่งด้วย คดีอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ถึงแม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เรียกรับเงิน รวมถึงไม่รู้ด้วยว่าภายในซองนั้นเป็นเงินสด ไม่รู้ว่ามีใครมาลืมวางไว้ เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้หนักใจอะไร เพราะมั่นใจพยานหลักฐานที่มีอยู่ว่าจะสามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้ โดยเฉพาะภาพหลักฐานขณะพยานนำซองเงินไปมอบให้กับผู้ต้องหาในห้องทำงานตามข้อเรียกร้อง เป็นภาพขณะที่ผู้ต้องหากำลังแกะซองสีน้ำตาล เพื่อตรวจนับเงินของกลางในซองอย่างชัดเจน ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การของผู้ต้องหา
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ