คุ้ยซากไฟไหม้ โชคดีเจอทอง30บาท ส่วนเงิน3ล้านวอดหมด เยียวยาเบื้องต้นได้แค่19,500บาท





กรณีไฟไหม้ตึกแถวอายุกว่า 50 ปี จำนวน 6 คูหา บริเวณถนนธำรงประสิทธิ์ เขตเทศบาลเมืองนครพนม ได้รับความเสียหายทั้งหมด เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ทรัพย์สินของยายวัย 86 ปี เจ้าของร้านชำ ทั้งทองคำ 30 บ้าน เงินสด 3 ล้าน ที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิต สูญไปกับกองไฟโชคดีที่เพื่อนบ้านช่วยพาหนีตายออกมาได้ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 29 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ห้องแถวทั้ง 6 คูหา เป็นห้องเช่า ทำการค้าขาย มีผู้เสียหายทั้งหมด 8 ราย ประกอบด้วยผู้เช่า 3 ราย และเจ้าของห้องแถว อีก 5 ราย ทรัพย์สินเสียหายทั้งหมด

หนักสุด คือนางเถาะ เหงียนถิ อายุ 86 ปี ซึ่งเป็นบ้านต้นเพลิง นอกจากทรัพย์สิน เครื่องใช้ในบ้านแล้วยังมีทองคำรูปพรรณ น้ำหนักรวมประมาณ 30 บาท และเงินสด อีกจำนวน 3 ล้านบาท ที่สูญหายไปกับกองเพลิง เนื่องจากยายผู้เสียหาย เป็นชาวไทยเชื้อสายญวน ที่มีความขยันทำอาชีพค้าขายมาตลอดชีวิต

จนกระทั่งปัจจุบันเช่าห้องแถวดังกล่าว เปิดเป็นร้านขายของชำ ค้าขาย ด้วยความขยัน ทั้งที่ลูกหลาน ครอบครัวพอมีฐานะ อีกทั้งเป็นคนประหยัด อดออม ทำให้มีเงินเก็บจากการค้าขาย และลูกหลานให้เป็นของขวัญ จึงนำเงินไปซื้อทองคำรูปพรรณสะสมไว้จำนวนมาก ในส่วนของสาเหตุทางตำรวจสันนิษฐานว่าไฟฟ้าลัดวงจร แต่ต้องรอผลการตรวจสอบยืนยันโดยละเอียดของกองพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง

ขณะเดียวกันหลังเกิดเหตุ กลุ่มจิตอาสา รวมถึงเพื่อนบ้าน ต่างเข้าไปช่วยเหลือให้กำลังใจ รวมถึงระดมจิตอาสา เข้าไปช่วยขุดคุ้ยค้นหาทรัพย์สิน ทองคำรูปพรรณ ของยายผู้เสียหายเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าบนชั้น 2 ของตึกแถวดังกล่าว

จนกระทั่งพบทองคำรูปพรรณ เป็นสร้อยคอ แหวน กำไลแขน ถูกทับถมในซากเพลิงไหม้ โชคดียังไม่หลอมละลาย แต่ยังไม่ทราบน้ำหนักที่เหลือ คาดว่ายังเหลือเกือบครบทั้งหมด เพราะช่วงขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ระดมรถน้ำดับเพลิงมาฉีดควบคุมเพลิง ทำให้ทองคำไม่เสียหาย เพราะอุณหภูมิไม่ถึงจุดหลอมละลาย แต่อาจได้รับความเสียหายบางส่วน โดยทางกลุ่มจิตอาสาคุ้ยค้นหาต่อเนื่อง จนมั่นใจว่าจะพบทองคำรูปพรรณที่เหลือทั้งหมด

ด้าน นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย นำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ผู้ใจบุญ นำสิ่งของเครื่องใช้ ถุงยังชีพ รวมถึงเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบให้ผู้เสียหาย ทั้งหมด 8 ราย ประกอบด้วย ผู้เช่า จำนวน 3 ราย และเจ้าของบ้าน จำนวน 5 ราย โดยชดเชยเยียวยาเบื้องต้นตามสภาพความเสียหาย รายละประมาณ 20,000-60,000 บาท

ส่วนนางเถาะ เหงียนถิ อายุ 86 ปี เป็นบ้านต้นเพลิง ตรวจสอบแล้วเป็นผู้เช่า ไม่ใช่เจ้าของ โดยทำร้านขายของชำได้รับเงินเยียวยาเบื้องต้น จำนวน 19,500 บาท ตามระเบียบทางราชการ ถึงแม้ยายผู้เสียหายจะมีทรัพย์สินทองคำรูปพรรณและเงินสด ที่สูญหายจำนวนมาก แต่ทางราชการไม่สามารถที่จะชดเชยเยียวยาได้ทั้งหมด

สำหรับสาเหตุอยู่ระหว่างทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานนำหลักฐานไปตรวจสอบ ตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อสรุปสาเหตุชัดเจน ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : มติชนออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: