สอบเข้านักเรียนนายสิบ บช.ภ.9 รุ่น 2 พบทุจริตขบวนการใหญ่ เงินหมุนกว่า33ล้าน





11 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีรายงานกรณี บช.ภ.9 มีคำสั่งที่ 180/2565 ลงวันที่ 28 เม.ย.65 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีทุจริตการสอบคัดเลือกบุคคลภายนอกเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ เมื่อวันที่ 27 มี.ค. มีรายงานว่า คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง ประชุมพิจารณาจากการสอบปากคำผู้ให้ถ้อยคำ พยานหลักฐานที่รวบรวมและจัดทำขึ้นแล้ว สามารถสรุปผลการตรวจสอบตามประเด็นที่กำหนดข้างต้นดังนี้

ประเด็นที่ 1 การรับ-ส่ง ปัญหาข้อสอบของหน่วยสอบ ภ.9 ว่า มีข้อเท็จจริงการปฏิบัติอย่างไร เรื่องนี้คณะทำงานประสานข้อมูลกับ พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน รอง ผบก.อก.ร.ร.นรต.ปรท.กส.บช.ศ. รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทราบว่า วันที่ 27 มี.ค. เวลา 02.00 น. พ.ต.อ.วีรชัย โพธิปัตชา รอง ผบก.กส. ส่งมอบข้อสอบให้ พ.ต.อ.หญิง เฉลียว ผิวแดง ผกก.ฝอ.ศฝร.ก.9 กับพวกรวม 4 คน สิ่งที่รับมาประกอบด้วย 1.กล่องบรรจุข้อสอบจำนวน 86 กล่อง สำรอง 5 กล่อง รวมเป็น 91 กล่อง 2.ซองตัวอย่างลายมือชื่ออนุกรรมการปิดกล่องปัญหาข้อสอบ 3.หนังสือส่งมอบปัญหาข้อสอบ และ 4.ปัญหาข้อสอบถึงกองอำนวยการสอบของหน่วยสอบ ภ.9 เวลา 10.00 น.

พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน ตรวจสอบเส้นทางรถขนส่งปัญหาข้อสอบหมายเลขทะเบียน 99-5590 กรุงเทพมหานครจากระบบจีพีเอส (GPS) พบว่าออกเดินทางออกจากโรงพิมพ์ จ.สมุทรปราการ วันที่ 27 มี.ค. ถึงคลังสินค้าสนามบินสุวรรณภูมิรอส่งขึ้นสายการบินไทยสมายล์ เที่ยวบิน WE 259 (สุวรรณภูมิ-หาดใหญ่) โดยไม่มีการแวะพักระหว่างทาง ไม่พบบุคคลใดยุ่งเกี่ยวกับกล่องปัญหาข้อสอบ กระทั่งกล่องปัญหาข้อสอบถูกจัดส่งไปถึงอาคารคลังสินค้าสนามบินหาดใหญ่ มีเจ้าหน้าที่หน่วยสอบ ภ.9 มาตรวจสอบ รายงานว่า ไม่พบร่องรอยการฉีกขาด ชั้นนี้เชื่อว่าไม่มีการรั่วไหลของปัญหาระหว่างการขนส่ง คณะทำงานตรวจสอบการรับ-ส่งปัญหาข้อสอบทราบว่า มาถึง รร.นวมินทราชูทิศ ทักษิณ และส่งต่อไปยัง กอ.สถานที่สอบย่อยทั้ง 5 หน่วยสอบคือ สนามสอบ รร.วิทยาลัยเทคโนโลยีสงขลา (สนามสอบ 3) รร.พานิชยการหาดใหญ่ (สนามสอบ 5) มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (สนามสอบ 2) รร.นวมินทราชูทิศทักษิณ (สนามสอบ 1) คณะทำงานตรวจสอบขั้นตอนการปฏิบัติการคุมสอบข้อเขียนทั้ง 5 หน่วยสนามสอบไม่พบความผิดปกติ

ประเด็นที่ 2 ข้อมูลทางการเงินของบุคคลต้องสงสัยกับกลุ่มผู้สมัครสอบต้องสงสัยว่าทุจริตสอบ เรื่องนี้คณะทำงานตรวจสอบตามประเด็นข้อ 1 เรียบร้อยแล้ว สามารถพิสูจน์ทราบบุคคลที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องการทุจริตคือ นายณัชธรรมรงค์ และ น.ส.รุ่งทิพย์ สามีภรรยา คณะทำงานขอข้อมูลธุรกรรมทางการเงินทั้งสองไปเทียบกับธุรกรรมทางการเงินของผู้สมัครสอบที่ผ่านการคัดเลือกข้อเขียน รับสารภาพกับ พ.ต.อ.อุเทน ว่า ทุจริตการสอบจริง 35 คน ผลการตรวจสอบพบความเชื่อมโยงธุรกรรมทางการเงินตรงระหว่าง น.ส.รุ่งทิพย์กับผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกข้อเขียน 1 คน ได้แก่ ธุรกรรมทางการเงินระหว่างนายฮานาฬ ผู้เข้าสอบกับ น.ส.รุ่งทิพย์ โอนเงินเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.64 และตรวจสอบพบมีความเชื่อมโยงธุรกรรมทางการเงินระหว่างญาติผู้สมัครสอบกับ น.ส.รุ่งทิพย์อีก 2 คนได้แก่ 1.ธุรกรรมทางการเงินระหว่างนายไชยวัฒน์ โอนไปหา น.ส.รุ่งทิพย์ วันที่ 13 ธ.ค.64 2.ธุรกรรมทางการเงินระหว่างนายอารีย์ ญาติผู้เข้าสอบ กับ น.ส.รุ่งทิพย์ โอนเงินเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. และวันที่ 25 ธ.ค.64 รวม 1,640,000 บาท

คณะทำงานตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน น.ส.รุ่งทิพย์เพิ่มเติมพบว่า เชื่อมโยงธุรกรรมทางการเงินไปยังบุคคลต่อไปนี้ 1.ธุรกรรมทางการเงินระหว่าง น.ส.รุ่งทิพย์ กับ นายณัชธรรมรงค์ (สามี) โอนจากนายณัชธรรมรงค์ ไปหา น.ส.รุ่งทิพย์ 8,000,000 บาท 2.ระหว่าง น.ส.รุ่งทิพย์ กับ พี่สาว น.ส.รุ่งทิพย์ เมื่อเดือน ม.ค.65 จำนวน 17 ครั้ง เป็นเงิน 13,700,000 บาท และวันที่ 30มี.ค.65 จำนวน 500,000 บาท 3.ธุรกรรมทางการเงินระหว่าง น.ส.รุ่งทิพย์ กับ นายวุฒิภัทร สามีของพี่สาว น.ส.รุ่งทิพย์ เงินโอนไปหา นายวุฒิภัทร วันที่ 29 มี.ค.65 เป็นเงิน 3,000,000 บาท นอกจากนี้พบธุรกรรมการเงินระหว่าง นายวุฒิภัทร กับพี่สาว น.ส.รุ่งทิพย์ ห้วงเดือน ม.ค.-มี.ค. 2565 จำนวน 10 ครั้งเป็นเงิน 7,274,580 บาท บัญชีชื่อของพี่สาว น.ส.รุ่งทิพย์ มียอดเงินเคลื่อนไหวตั้งแต่เปิดจนปิดบัญชีรวม 16 ล้านบาทเศษ ส่วนบัญชี น.ส.รุ่งทิพย์ มียอดเงินเคลื่อนไหวตั้งแต่เปิดจนปิดบัญชีรวม 33 ล้านบาทเศษ ปิดบัญชีหลังการสอบคัดเลือกบุคคลภายนอกบรรจุเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ 2564 (รุ่น 2) ไม่นาน

ประเด็นที่ 3 ตรวจสอบข้อมูลไอพีแอดเดรสที่ใช้สมัครสอบในส่วนของ ภ.9 กับกลุ่มบุคคลต้องสงสัย ทุจริตการสอบ 35 คนมาตรวจสอบความเชื่อมโยงมีความผิดปกติ 19 กลุ่ม 365 คน พบว่าไอพีแอดเดรสไม่ได้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ประเด็นที่ 4 เชื่อว่ากลุ่มที่ผ่านการคัดเลือกแยกสมัครสอบคนละสถานที่และเวลา หากทุจริตในรูปแบบส่งคนเข้าสอบแทน (มือปืน) รูปแบบไอพีแอดเดรสน่าจะต้องอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ประเด็นที่ 5 ข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลต้องสงสัยที่เปิดสถาบันกวดวิชา คณะทำงานตรวจสอบข้อมูลกลุ่มผู้ต้องสงสัยกับรายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการจัดให้สอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนนายสิบและคุมสอบ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่เดินทางไปรับส่งปัญหาข้อสอบและกระดาษคำตอบจากโรงพิมพ์นำไปส่งที่กองอำนวยการสอบ ภ.9 เบื้องต้นพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ภ.9 เกี่ยวพันกลุ่มผู้ต้องสงสัย 1 คน ยศ พ.ต.ท. แต่ตรวจสอบเส้นทางการเงินยังไม่เชื่อมโยงกลุ่มผู้ต้องสงสัย

ชั้นนี้สรุปว่ามีการทุจริตการสอบเกิดขึ้นจริง เนื่องจากตรวจสอบพบนายจิรภัทร ผู้เข้าสอบทุจริตการสอบนำกระดาษคำตอบโพยเข้าห้องสอบ ถูกผู้คุมสอบตรวจพบขณะทำข้อสอบ สอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการจัดให้สอบ ผู้ควบคุมการสอบ ผู้รับ และส่งปัญหาข้อสอบ เพื่อตรวจสอบหาการทุจริตในขั้นตอนการสอบข้อเขียน ชั้นนี้ยังไม่ปรากฏพยานหลักฐานใดเป็นที่แน่ชัดยืนยันได้ว่า การทุจริตเกิดขึ้นในชั้นตอนใด

ต่อมาแจกจ่ายปัญหาข้อสอบไปยังสนามสอบย่อย 5 สนามสอบ ปัญหาข้อสอบและกระดาษคำตอบเดินทางถึงหน่วยสอบย่อยสนามแรกเวลา 10.00 น.และสนามสุดท้ายเวลา 11.17 น. การขนส่งปัญหาข้อสอบและกระดาษคำตอบไปยังสนามย่อยมีเจ้าหน้าที่จากสนามสอบย่อยแต่ละสนามจัดเจ้าหน้าที่มารับและตรวจสอบความเรียบร้อย ยกเว้นสนามสอบที่ 5 โรงเรียนพาณิชยการหาดใหญ่ มี พ.ต.ท.หญิงสุพวรรณ กับพวก เป็นผู้นำส่งสถานที่สอบระยะทางไกล มีปัญหาข้อสอบจำนวนมากถึง 36 กล่อง การปฏิบัติขั้นตอนนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนงานอื่นร่วมเดินทางเมื่อปัญหาข้อสอบและกระดาษคำตอบเดินทางถึงสนามสอบแต่ละสนาม เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบร่วมกันตรวจและแกะกล่องปัญหาข้อสอบเพื่อแจกจ่ายไปตามห้องสอบ ชั้นตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสารวัตรถึงรองผู้กำกับการเป็นหัวหน้าชุดควบคุม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวนและนักเรียนนายสิบตำรวจร่วมเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมการปฏิบัติด้วย

ส่วนกระดาษคำตอบเดินทางจากกองอำนวยการสอบภาค 9 ถึงสนามย่อยแต่ละสนาม พิจารณาเวลาร่วมกับคำให้การของนายจิรภัทรยืนยันว่า มีการปริ้นต์โพยคำตอบช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.ของวันสอบ ทำให้สันนิษฐานได้ว่า ห้วงเวลาที่น่าเชื่อว่ามีการรั่วไหลของปัญหาข้อสอบคือ ห้วงเวลาระหว่าง 10.58 น. ห้วงเวลาที่สงสัยว่ามีการทุจริตแต่ไม่สามารถยืนยันสถานที่รั่วไหลของปัญหาข้อสอบได้

จากถ้อยคำรับสารภาพของนายจิรภัทร และนายสุทัศน์ ที่ให้ไว้กับ พ.ต.ท.อเสก สีแก้วเขียว สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสงขลา วันที่มีการทุจริตว่า ก่อนเกิดเหตุนายประวิทย์ ทราบว่า นายจิรภัทรจะสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ นายประวิทย์ แจ้งว่า สามารถช่วยให้เข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจมีค่าใช้จ่ายเป็น 500,000 บาท นายสุทัศน์ตกลงยินยอม จากนั้นจัดให้นายจิรภัทรไปที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง เพื่อแนะนำวิธีการใช้งานเครื่องปรินต์เตอร์ที่ใช้สำหรับปรินต์โพยกระดาษคำตอบผู้เปิดห้องพักคือ นายณัชธรรมรงค์ กับ น.ส.รุ่งทิพย์ ขยายผลเพื่อพิสูจน์ทราบกลุ่มผู้ร่วมกระทำความผิด ตรวจสอบความสัมพันธ์เส้นทางการเงินพบว่ามีนายทรงพล พี่สาว น.ส.รุ่งทิพย์ และนายวุฒิภัทร มีความสัมพันธ์เส้นทางการเงินระหว่างกัน จากการสอบปากคำ พี่สาว น.ส.รุ่งทิพย์ เกี่ยวกับยอดเงินชี้แจงยอดเงินได้เพียง 4 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 11 ล้านบาทไม่สามารถให้ข้อมูลชัดเจนได้ ชั้นนี้น่าเชื่อว่าพี่สาวของน.ส.รุ่งทิพย์ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ทุจริต

คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงมีความเห็นว่า เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงให้แน่ชัด เห็นควรตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องการทุจริตการสอบ และดำเนินการตามระเบียบกฎหมายต่อไป.

 

ข่าวจาก : dailynews

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: