K PLUS พลิกโฉม เปิดบัญชีเงินฝากธุรกิจ สมัครครั้งเดียวได้ 5 บัญชี

Advertisement

11 พฤศจิกายน 2565 ดร.พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้าและสนับสนุนให้การดำเนินธุรกิจของลูกค้าสะดวกคล่องตัวมากขึ้น ตระหนักว่าการทำธุรกิจทุกเวลาทุกนาทีของลูกค้ามีความสำคัญ จึงได้พัฒนาบริการบัญชีเงินฝากสำหรับลูกค้าธุรกิจ ยกระดับและพัฒนากระบวนการให้ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล ลดเอกสารและขั้นตอนการสมัคร

สมัครครั้งเดียวเปิดบัญชีได้พร้อมกันสูงสุด 5 บัญชี และ 5 บริการเสริม ล้ำไปอีกขั้นกับระบบยืนยันตัวตนผ่าน K PLUS ของผู้มีอำนาจหรือเจ้าของธุรกิจที่ยืนยันตัวตนที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องไปสาขา ช่วยสร้างความสะดวกคล่องตัวให้กับลูกค้าธุรกิจ และสร้างมาตรฐานใหม่ของการให้บริการเปิดบัญชีบริษัท เพื่อรองรับธุรกิจที่จดทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566

สำหรับการเปิดบัญชีบริษัทกับธนาคารกสิกรไทย สามารถทำได้ง่าย ๆ ใน 3 ขั้นตอน ดังนี้

1.ยื่นเอกสารการสมัครที่สาขาของธนาคารกสิกรไทย ให้ตัวแทนของบริษัทไปแจ้งขอเปิดบัญชีได้ โดยไม่ต้องมอบอำนาจ กรอกข้อมูลและลงนามครั้งเดียว สามารถเปิดบัญชีได้สูงสุด 5 บัญชี ไม่ว่าจะเป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ บัญชีเงินฝากประจำ บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน และยังสมัครใช้บริการเสริมสำหรับธุรกิจได้พร้อมกันถึง 5 บริการ เพื่อตอบทุกโจทย์การทำธุรกิจ

ได้แก่ บริการโอนเงินอัตโนมัติ (Account Link) บริการธนาคารออนไลน์ K-BIZ บริการพร้อมเพย์ธุรกิจ (K-BiZ PrompPay) บริการรับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (K-eDocument) และบริการสมุดเช็ค (Cheque Book)

2.ผู้มีอำนาจยืนยันตัวตนผ่าน K PLUS หรือ สาขาที่สะดวก ภายใน 15 วัน โดยผู้มีอำนาจไม่ต้องไปสาขาพร้อมกัน

3.ได้รับ SMS ยืนยันจากธนาคาร ใช้งานบัญชีและบริการที่สมัครได้ทันที ไม่ต้องรอนาน เพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจ

ดร.พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารให้ความสำคัญกับการเปิดบัญชีเงินฝากสำหรับลูกค้าธุรกิจ เพราะเป็นบัญชีรับจ่ายเงินเพื่อการหมุนเวียนและเพิ่มความคล่องตัวให้กับธุรกิจ ที่ไม่เพียงให้ธุรกิจตรวจสอบสถานภาพทางการเงิน แต่บัญชีธุรกิจยังใช้เป็นหลักประกันในการขอเงินกู้จากธนาคาร เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตให้แก่ธุรกิจได้อีกด้วย โดยธนาคารตั้งเป้าหมายลูกค้าธุรกิจเปิดบัญชีบริษัทเพิ่มเป็น 31,500 บัญชี ภายในเดือนมีนาคม 2566

ข่าวจาก : ประชาชาติธุรกิจ

• Facebook
• Twitter
• Line