เช็กสิทธิเงินเยียวยาเกษตรกร 2565 ประกันรายได้ปี 66/65





เช็คอัปเดต “เงินเยียวยาเกษตรกร 2565” เงินช่วยเหลือชาวนา “ประกันรายได้ข้าว 65/66” รวมทั้งสิ้น 33 งวด โดยจะโอนเงินผ่านบัญชีของธนาคากรเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และกรอบวงเงิน เพื่อใช้สำหรับจ่ายชดเชยและเป็นค่าบริหารจัดการโครงการ และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ดังนี้

โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ปี4) ฤดูกาลผลิต 2565/66 พร้อมมาตรการเสริม ดังนี้

  1. โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี4 ซึ่งจะมีเกษตรกรได้รับประโยชน์ 4.68 ล้านครัวเรือน ใช้เงินงบประมาณ 86,740.31 ล้านบาท
  2. มาตรการคู่ขนาน 3 โครงการย่อย ใช้งบประมาณรวมกัน 8,022.69 ล้านบาท ประกอบด้วย
  • โครงการส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวชะลอการขายข้าวในช่วงระยะเวลาที่ข้าวประดังกันออกสู่ตลาดจำนวนมาก เพื่อป้องกันข้าวเปลือกราคาตก โดยจะมีเงินช่วยเหลือเกษตรกรไร่ละ 1,500 บาทต่อรายต่อข้าว 1 ตัน
  • โครงการช่วยเหลือดอกเบี้ย 3% ให้กับสหกรณ์ที่ชะลอการขายข้าว หรือเก็บสต็อกข้าวไว้ เพื่อไม่ให้ข้าวที่ออกมามากจนล้นตลาด จนทำให้ข้าวราคาตก และ
  • โครงการช่วยเหลือดอกเบี้ย 3% ให้กับโรงสีที่เก็บสต็อกข้าวไว้เช่นเดียวกัน

3. โครงการไร่ละ 1,000 บาท เป็นการสนับสนุนค่าบริหารจัดการ และพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไม่เกินครอบครัวละ 20 ไร่ เป็นเงินรวมกันทั้งสิ้น 55,364.75 ล้านบาท

  • รวมทั้งสิ้น 150,127.75 ล้านบาท

ประกันรายได้ข้าว 65/66 เงินเข้าวันไหน

  • เริ่มเช็คสิทธิประกันรายได้ข้าว 65/66 ได้ตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป

เงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท

โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 หรือเงินช่วยเหลือชาวนา 2565  ไร่ละ 1,000 บาท ชาวนารับเงินสูงสุด 2 หมื่นบาท กรอบวงเงิน 5.5 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างการเข้าสู่ที่ประชุม ครม. รอการพิจารณา คาดว่าจะเป็นวันที่ 18 ตุลาคม 2565 เนื่องจาก ธ.ก.ส. นัดโอนเงิน วันที่ 19 ต.ค. สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 15 ตุลาคม 65 ในงวดแรก เช็คที่นี่

เงินเยียวยาน้ำท่วม สูงสุดไร่ละ 11,780 บาท

กรณีไม่สามารถดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ให้ยื่นขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ก่อนระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินสิ้นสุดลงไม่น้อยกว่า 15 วัน และขอให้มีการบูรณาการหน่วยงานในระดับพื้นที่ เพื่อเร่งรัดดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร

กรณีพื้นที่ทำการเพาะปลูก มีพืชตายหรือเสียหายจนไม่สามารถฟื้นฟู หรือเยียวยาให้กลับสู่สภาพเดิมได้อีก ให้ช่วยเหลือตามจำนวนพื้นที่เพาะปลูกที่เสียหายจริง ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ในอัตรา ดังนี้

  • ข้าว ไร่ละ 1,340 บาท
  • พืชไร่และพืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท
  • ไม้ผลไม้ยืนต้น และอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท

การประมง ให้ดำเนินการช่วยเหลือผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ประสบภัยพิบัติที่สัตว์ตายหรือสูญหาย ให้ดำเนินการช่วยเหลือเป็นเงิน ดังนี้

  1. กุ้งก้ามกราม กุ้งทะเล หรือหอยทะเล ไร่ละ 11,780 บาท ไม่เกินรายละ 5 ไร่
  2. ปลาหรือสัตว์น้ำอื่น ๆ ที่เลี้ยงในบ่อดิน นาข้าวหรือร่องสวน (คิดเฉพาะพื้นที่เลี้ยง)ไร่ละ 4,682 บาท ไม่เกินรายละ 5 ไร่
  3. สัตว์น้ำที่เลี้ยงในกระชัง บ่อซีเมนต์ หรือที่เลี้ยงในลักษณะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ตารางเมตรละ 368 บาท ไม่เกินรายละ 80 ตารางเมตร

หากคิดคำนวณพื้นที่เลี้ยงแล้ว ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ประสบภัยพิบัติรายใดจะได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 368 บาท ให้ช่วยเหลือในอัตรารายละ 368 บาท

สามารถตรวจสอบสถานะขั้นตอน-ช่องทางตรวจสอบเงิน ดังนี้

  1. เข้าสู่เว็บไซต์ chongkho.inbaac.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  2. กรอกเลขประจำตัวประชาชน เพื่อใช้ในการเช็ค “เงินเยียวยาเกษตรกร” หลังจากกรอกเลขบัตรประชาชน โดยจะมีรายละเอียดของบัญชี จำนวนเงิน และโครงการของเงินช่วยเหลือที่ได้รับ
  3. ตรวจสอบข้อมูลในแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile หลังจากตรวจสอบในเว็บไซต์แล้วเรียบร้อย หากมีข้อมูลขึ้นว่าได้รับเงินโอน สามารถเข้าไปตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยตัวเอง

 

ข่าวจาก : คมชัดลึก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: