ไม่ยอมจบ! แม่แชมป์หนูน้อยกล้วยไข่ เล่านิทานสอนคนแพ้แล้วพาล





ล่าสุด (5 ต.ค.) กระแสเริ่มจางหายไปแล้ว จนชาวเน็ตนึกว่าจบ แต่กลับไม่จบ เมื่อคุณแม่ของเจ้าของตำแหน่งแชมป์หนูน้อยกล้วยไข่ ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงทางฝั่งตัวเองบ้าง เล่านิทานสอนคนแพ้แล้วพาล ระบุว่า

จากการ ที่มีดราม่ากันเกิดขึ้นของน้อง ในการประกวดหนูน้อยกล้วยไข่เมืองกำแพงเพชร2565 มีข่าวต่างๆมากมายในตอนแรกกับคอมเมนส์ต่างๆ กระแสทางต่างลบของน้อง..ทางแม่ของน้องขอใช้พื้นที่นี้ชี้แจงในส่วนของความรู้สึกที่เราก็อยากปกป้องลูกของเราเหมือนกัน #Saveน้องลูกคือความภูมิใจของฉันและฉันรอคอยเขามาทั้งชีวิต

1 เราเคารพในการตัดสินของท่านคณะกรรมการ ซึ่งทางเราขอยืนยันว่าเราไม่รู้จักท่านคณะกรรมการแต่ละท่าน เราไม่ได้เป็นเด็กเส้นหรือรู้จักคนมีชื่อเสียง และเป็นเพียงแม่ขายขนมจีบแป้งสด ซึ่งเป็นร้านรถเข็นริมทาง

2 เรื่องทรงผมทางเรารู้ว่าน้องทำผมไม่เหมือนเด็กคนอื่น ๆ ในการประชุมเรื่องการแต่งกายกฎข้อบังคับคือเสื้อแขนกระบองผ้าซินพื้นเมือง แต่ทรงผมที่ประชุมได้ให้มีการเสนอทรงผม แต่ไม่มีใครพูดอะไรทางผู้จัดการงานก็สรุปเป็นขอความร่วมมือให้..ทำผมทรงฟาร่า..ให้เป็นในทางเดียวกันและในวันงานทุกคนเห็นว่าน้องทำผมเกล้ามา..ทำไมไม่ประท้วงกันตั้งแต่ตอนนั้นหรือแจ้งคณะกรรมการหรือผู้จัดงานให้น้องเดินแล้วตกรอบแรกไปเลย เพราะถ้าเป็นแบบนั้นทางเราก็เต็มใจเพราะรู้อยู่แล้วว่าทำผมมาไม่เหมือนคนอื่น แค่ลูกได้เดินขึ้นเวทีแค่รอบแรกก็ดีใจแล้ว

3 ลูกเราแค่ 5 ขวบไม่เคยเดินสายประกวด ประสบการณ์ก็ไม่มี ไม่เคยเข้าคอร์สการเดินแบบหรือการปรับบุคคลิกภาพ เพราะเราไม่ได้ตั้งใจมาสายนี้ แต่ที่มาประกวดก็แค่หาประสบการณ์ สร้างความกล้าแสดงออก มีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหา การควบคุมอารมณ์เด็ก 5 ขวบ ทำได้ขนาดนี้ในความคิดเราน้องเก่งมาก เหนื่อยก็อดทน ไม่เคยบ่น แต่ลูกเราก็สู้มาถึงรอบสุดท้าย..คุณคงมั่นใจว่าลูกเราคงไม่ได้ที่ 1 เพราะคุณลงทุนไปเยอะ แต่ผลตอบรับกลับไม่เป็นไปตามคาด..พาลค่ะพาล

4 เราไม่เคยคาดหวังว่าลูกเราต้องได้ที่ 1 แค่เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ก็มาไกลเกินฝันแล้ว แค่รอบ 10 คน ที่มีการตอบคำถามหลังจากลงเวทีเราบอกลูกว่า..กลับบ้านกันลูก พี่ ๆ เขาตอบกันเก่งมากเราไม่คิดว่าจะเข้ารอบ 5 คน ด้วยซ้ำ

5 คุณบอกว่าพอประกาศผลว่าน้องได้ที่ 1 มีแต่คนโห่กันทั้งงาน…เราขอให้คุณฟังดี ๆ ว่าเสียงโห่หรือเสียงปรบมือหรือเสียงยินดีให้กำลังใจน้อง..แต่ท่านผู้ชมให้กำลังเสียงปรบมือดังตั้งแต่รอบตอบคำถามแล้ว..ไม่ทราบว่ามีปัญหาเรื่องประสาทหูหรือเปล่าค่ะ

6 ลูกเราก็มีการซ้อมเดินการตอบคำถามแต่เป็นเพียงการซ้อมกันกันเองไม่ได้เข้าคอร์สเป็นพัน..ทำเท่าที่เราทำได้คำถามก็เป็นไหวพริบล้วน ๆ เป็นการแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าของเด็ก 5 ขวบ ลูกเราไม่ได้ท่องจำเพราะไม่รู้คำถาม..เพราะคำถามที่เราซ้อมก็มีแต่ซองคำถามนั้นเด็กคนอื่น ๆ จับซองได้ไป คำถามนี้เราก็คิดไม่ถึง เราถือว่าลูกเราเก่งมากแล้วในสายตาเรา..เราภูมิใจในตัวลูกเรามาก

สุดท้ายนิทานเรื่องนี้สอนให้อยู่ว่าอย่าคาดหวังอะไรมากเกินไป เพราะถ้าไม่เป็นไปตามที่หวังมันจะรู้สึกเจ็บมากและจงยอมรับในผลของการกระทำที่มันเกิดขึ้นเพราะข้อผิดพลาดย่อมสามารถแก้ไขได้เสมอ..จงให้กำลังไม่ใช่กดดัน ยอมรับข้อผิดพลาดแล้วแก้ไข ยอมรับกับความเป็นจริงแล้วสู้ต่อไป..จงอย่าตัดสินใจคนอื่นเพียงแค่ความคิดของคุณเพียงฝ่ายเดียว เหรียญมันมี 2 ด้าน อย่าตัดสินความข้างเดียวถ้าคุณยังไม่ได้ฟังความอีกฝ่ายหนึ่ง และที่สำคัญเราไม่ใช่จุดศูนย์กลางของโลกใบนี้..”

ซึ่งทันทีที่โพสต์ข้อความร่ายยาวดังกล่าว ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาคอมเมนต์ แต่กลับไม่ใช่ในเชิงเห็นด้วยกับข้อความที่โพสต์ ส่วนใหญ่ล้วนบอกให้คุณแม่อยู่เงียบๆ เสียยังจะดีกว่า อย่าขุดขึ้นมาเป็นประเด็นดราม่าอีกเลย เพราะเรื่องราวมันก็ดูเหมือนจะสงบลงไปมากแล้ว แม่เองก็ควรหยุดสร้างปัญหาให้ลูก น่าสงสารเด็กๆ ที่น่ารักทั้งสองคน

ในขณะที่บางส่วนแสดงความคิดเห็นว่าคุณแม่นั่นแหละที่ “บ้ง” ตั้งใจไม่ทำตามกฎเรื่องทรงผมตั้งแต่แรก ที่โพสต์ออกมาแต่ละข้อดูมีความเข้าใจที่ผิดๆ ไปหมด เหมือนตั้งใจแค่ออกมาแซะฝ่ายตรงข้าม มากกว่าที่จะมาชี้แจงเพื่อปกป้องลูกตามที่บอก จนทำให้นึกถึงประโยคที่ว่า “มีแม่เมื่อพร้อม” ส่วนดราม่าที่น้องได้มงนั้น เด็กไม่ผิด ถ้าจะผิดก็คงเป็นกรรมการผู้ตัดสินเสียมากกว่า

 

ข่าวจาก : sanook

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: