รร.ยอมปิดหลักสูตรตีกอล์ฟ หลังทัวร์ลงยับ ยายบ้านติด รร แฉโดนลูกหลง





จากกรณีชาวบ้านและผู้ปกครองในพื้นที่อ.เรณูนคร จ.นครพนม ร้องเรียนผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่พลิกโฉมปรับสนามฟุตบอลเป็นสนามไดร์ฟกอล์ฟ ไล่เด็กไปเตะบอลที่อื่น โดยอ้างว่าเป็นหลักสูตรสอนนักเรียน ขณะที่ชาวบ้านและเด็กเล็ก ต่างผวาพากันหลบลูกกอล์ฟ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าวันที่ 12 ก.ย. 2565 ที่โรงเรียนชุมชนบ้านหนองย่างซิ้น ต.หนองย่างซิ้น อ.เรณูนคร จ.นครพนม นายศักดิ์วิวัฒน์ คำป้อง นายกอบต.หนองย่างซิ้น นางอรทัย รัตนวงษา กำนัน ต.หนองย่างซิ้น และนางลัดดาวัลย์ บางศิริ วัย 66 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่เดือดร้อน พร้อมตัวแทนชาวบ้าน

ได้ร่วมหารือกับนายภานุวัฒน์ ธงยศ อายุ 58 ปี ผอ.โรงเรียนชุมชนบ้านหนองย่างซิ้น และคณะครูอาจารย์ ตลอดจนคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อหาทางออกและแก้ไขปัญหา โดยนางลัดดาวัลย์ เปิดเผยว่า ตนสร้างบ้านติดกับโรงเรียนมานานกว่า 50 ปี กระทั่งไม่นานมานี้ทราบว่าทางโรงเรียนได้เปิดหลักสูตรสอนตีกอล์ฟ

โดยไม่มีการสอบถามความคิดเห็นของชาวบ้านและชุมชน จึงหวั่นเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับลูกหลาน ซึ่งมีอยู่วันหนึ่งมีลูกกอล์ฟปริศนาพุ่งเข้ามาในบ้านหลายลูก เฉียดถูกหัวตนและหลานสาว แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ต่อมาจึงนำหลักฐานเป็นลูกกลอฟ์ 4 ลูก ไปแจ้งความที่ สภ.เรณูนคร เพื่อให้ตำรวจมาตรวจสอบ

ตนยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการสอนกีฬาตีกอล์ฟ เพราะเคยเป็นสนามฟุตบอลที่ลูกหลานเคยใช้ออกกำลังกายเล่นกีฬา แต่ท้ายที่สุดแล้วทุกวันจะต้องคอยหลบลูกกอล์ฟแทน เพราะมีเพียงตาข่ายยาวไม่กี่เมตรที่นำมากั้นไม่สามารถป้องกันได้ หากทางโรงเรียนจะยอมยุติตนก็เห็นด้วยเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัว

นายภานุวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับหลักสูตรกอล์ฟเป็นหลักสูตรกีฬาทางเลือก ที่คิดกันภายในผู้บริหารและคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อเป็นทางเลือกส่งเสริมลูกหลานได้มีโอกาสในการเล่นกีฬาเป็นอาชีพในอนาคต แต่เป็นเพียงแค่การนำร่อง ทดลองใช้พื้นที่สนามฟุตบอลของโรงเรียนบางส่วนเป็นสนามไดร์กอล์ฟ

ยอมรับยังไม่ได้สอบถามความคิดเห็นของชุมชน แต่ได้พยายามหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับชาวบ้าน บางส่วนที่เกิดความผิดพลาดตนขอน้อมรับในปัญหาที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะแก้ไขปัญหา หากเป็นมติที่ชุมชนไม่เห็นด้วยและไม่ต้องการ

“จึงขอยุติหลักสูตรนี้และจะเปลี่ยนแปลงหาหลักสูตรเสริมที่สอดคล้องกับชุมชนต่อไป ขอให้ชาวบ้านในพื้นที่อุ่นใจได้ ทางโรงเรียนเอาชุมชนเป็นหลัก หากโครงการไหนที่กระทบต่อชุมชน จะไม่มีการดำเนินการอย่างแน่นอน” นายภานุวัฒน์ กล่าว

ด้านนายอภิชัย ทำมาน ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษานครพนม (สพป.เขต1) กล่าวว่า ทาง สพป.เขต 1 ได้รับทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว จึงได้ส่งนิติกรลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลในรายละเอียดว่ามันเป็นอย่างไร และได้ไปให้คำปรึกษาในเรื่องของการทำงาน ส่วนจะเหมาะสมหรือไม่ต้องรับฟังข้อมูลทั้งสองฝ่าย

เมื่อชาวบ้านร้องเรียนมาก็ต้องสืบข้อเท็จจริงดูว่าเป็นอย่างไร จึงได้สั่งการให้ลงไปดูในรายละเอียดเบื้องต้น หลังจากได้ข้อเท็จจริงแล้ว ก็จะให้ทางผู้อำนวยการทำหนังสือชี้แจงมา เบื้องต้นคงจะไม่มีความผิดอะไร เป็นแค่เพียงไม่เป็นไปตามความต้องการของชุมชนในพื้นที่ หากชาวบ้านไม่ต้องการก็ขอให้ทางโรงเรียนขยับออกมา และให้ไปเปิดสอนในวิชาอื่น ๆ ที่ทางชุมชนเห็นสมควร

 

ข่าวจาก : ข่าวสด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: