หนุ่ย พงศ์สุข ล่าสุดขอโทษแล้ว ปมแขวน นศ.ฝึกงานในโพสต์สาธารณะ





หนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ เจ้าของแบไต๋ไอที เว็บไซต์ด้านไอทีและพิธีกรด้านไอทีชื่อดัง ได้ออกมาพูดถึงกรณีการรับเด็กฝึกงานเข้ามาทำงาน แต่น้องกลับมองทุกคนเป็นอากาศธาตุ ทั้งที่ทำงานดีมาก จนนำไปสู่การถกเถียงว่า ทำแบบนี้เหมาะสมแล้วหรือไม่

หนุ่ย เผยรับเด็กฝึกงานมา มองทุกคนเป็นอากาศ ไม่ทักทายใคร แม้แต่ผู้บริหารยังเมิน จะว่าขี้อายก็ไม่ใช่

ทั้งนี้ คุณหนุ่ยได้ออกมาพูดว่า ที่บริษัทได้รับเด็กฝึกงานเข้ามา 2 คน และทั้ง 2 คนค่อนข้างทำให้บริษัทรู้สึกบั่นทอนกำลังใจ จนอาจทำให้ทางบริษัทงดรับเด็กฝึกงานชั่วคราว และถ้าเปิดรับอีกครั้ง จะต้องสัมภาษณ์อย่างเคี่ยวกรำ คัดคนที่สนใจทำงานจริง ๆ มาทำงานด้วย

สิ่งที่หนุ่ยเจอนั้น คือการที่เด็กฝึกงานไม่ทักใครเลย ทั้งเพื่อนร่วมงาน แม่บ้าน หัวหน้า ลามไปจนถึงผู้บริหาร เมื่อมาทำงานก็ก้มหน้าก้มตาทำแต่งานของตัวเอง ไม่สนใจใคร เดินสวนกันก็ไม่มอง และไม่ใช่ว่าน้องจะเป็นคนไม่มีความมั่นใจเลยไม่กล้าทัก แต่เวลาให้พรีเซ็นต์ตัวเองใน Town Hall ก็พูดได้ แต่พอลงมาจากเวที ก็มองเห็นคนอื่นเป็นอากาศหมด

อย่างไรก็ตาม หลายคนพยายามปลุกเร้าการมีส่วนร่วมของน้อง เช่น ทักทายกันข้ามโต๊ะ แต่น้องก็ยังไม่ทักใคร หนุ่ยเลยเอาเรื่องนี้ไปพูดคุยใน Town hall ในช่วง 2 เดือนที่มีประชุมใหญ่ นำเสนอถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกัน และระบุว่านักศึกษาในช่วง 2 ปีนี้จะลำบากกว่ารุ่นก่อน ๆ เพราะไม่ได้เจอใคร แม้จะทำงานดีแต่ไม่สนิทใครเลย เจอกันข้างนอกก็คงจะไม่กล้าทัก นับว่าน่าเสียดายเหมือนกันที่ไม่มีโอกาสได้สานสัมพันธ์ ออกสังคม สั่งสมคอนเน็กชั่น

หนุ่ยยืนยันว่า สิ่งที่ต้องการไม่ใช่การขอให้ไหว้ แต่คือการทักทายและมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น

จุดแตกหัก อาจารย์โทร. มาบอก ที่มหาวิทยาลัยน้องก็แบบนี้ ต่อหน้าดี แต่กลับไปว่าอาจารย์ลงเฟซบุ๊ก

อย่างไรก็ตาม จุดแตกหักคืออาจารย์ของน้องฝึกงาน ได้โทร. มาหา COO ของบริษัท และขอบคุณที่บริษัทรับน้องไปฝึกงาน อาจารย์ก็เป็นแฟนคลับของแบไต๋มานาน ทาง COO ก็เลยเล่าปัญหาให้อาจารย์ฟัง และพูดว่าทางเราได้พยายามกันมาจนครบ 3 เดือนที่จะฝึกงานแล้ว ซึ่งอาจารย์ก็บอกเช่นกันว่า น้องฝึกงานตอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยก็เป็นแบบนี้ คืออยู่ในห้องยกมือถาม-ตอบ อาจารย์ตลอด ทำคะแนนดี แต่พอนอกห้องเอาอาจารย์ไปด่าลงเฟซบุ๊ก เอาเรื่องราวต่าง ๆ ไปพูดอย่างสนุกปาก

COO จึงบอกว่าน้องทำงานดี ทางบริษัทก็ไม่ได้ตัดสินใจยุติการฝึกงานน้อง แต่เรื่องมารยาททางสังคมของน้องถือว่า “สอบตก” ซึ่งอาจารย์ก็เจรจาว่าจะช่วยคุยกับน้องให้ แต่อย่าแบล็กลิสต์สถาบัน ขอให้ช่วยรับนักศึกษาฝึกงานรุ่นต่อไปด้วย

หนุ่ยถึงกับอึ้ง เจอเข้ากับตัว ผู้บริหารนั่งเป็นกลุ่ม ทักแล้วยังเดินผ่านเหมือนเป็นอากาศ ให้เหตุผล ไม่แน่ใจว่าใช่ไหม

จนกระทั่งหนุ่ยเองมาประสบด้วยตัวเอง เมื่อหนุ่ยและคุณตุ๊ก ภรรยา นั่งทานอาหารอยู่ เห็นนักศึกษาฝึกงานทั้งสองคนเดินผ่าน หนุ่ยจึงมอง น้องผู้ชายมองและเพ่ง และมอง และหลบตา และเงยหน้ามามองใหม่ จนตัดสินใจไหว้ทักทายหนุ่ย แต่น้องผู้หญิงไม่มองเลย มองทุกคนเป็นอากาศ หนุ่ยเลยกวักมือเรียก น้องผู้ชายยอมหยุดทักทาย แต่น้องผู้หญิงไม่ยอมหยุดและเดินไปเลย “เห็นเราเป็นอากาศซะงั้น”

หนุ่ยเลยพูดว่า “น้องสาว ๆ มาคุยกันก๊อน มาด้วยกันทั้งคู่” และบอกน้องว่าถ้าอยากทักให้ทักเลย ไม่ต้องลังเล แต่น้องตอบว่าที่ไม่ทักเพราะไม่มั่นใจว่าเป็นผู้บริหาร หนุ่ยเลยว่า ตนนั่งท่ามกลางคุณตุ๊ก คุณแตน คุณป๊อป นี่ต้องเป็นพี่หนุ่ยแน่ ๆ แต่น้องบอกว่า “แต่ผมมองเห็นไม่ชัดนี่” จนความใจฟูของหนุ่ยฟีบ และบอกให้น้องไปเถอะ ไม่เป็นไร

“ทั้งหมดนี่คือบทสนทนา 30 วินาทีที่ผมดูออกเลยว่า มันคือการเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันที่แย่มาก จะพูดว่าก็เด็กสมัยนี้ ผมก็สงสารเหมารวมนี่นะ มันคงไม่ใช่ทั้งหมดแน่ ๆ แต่ที่น่ากลัวคือ คนแบบนี้กำลังมีเยอะขึ้น และผมคิดว่าเราควรช่วยแก้ไขพวกเขาก่อนออกสู่สังคมใหญ่”

หนุ่ยรู้ดังนั้นจึงขอเบอร์อาจารย์จาก COO แต่ COO บอกว่า เราไม่น่าไปตัดอนาคตเขา ปล่อยให้เขารู้เอง แต่หนุ่ยมองว่า เราควรสอนก่อนสาย ยอมเหนื่อยพูด เหนื่อยสอน ดีกว่าให้เขาออกไปเฟอะฟะในสังคม แต่เพราะ 2-3 วันนี้มีเหตุการณ์มากระทบหลายอย่าง ทำให้หนุ่ยพอเข้าใจว่า บางทีสอนไปก็ไม่ช่วย เพราะเขามองเจตนาเราไม่ออก

“ผมเลิกเป็นไม้บรรทัด แล้วขอเฝ้ามองคนรุ่นต่อไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ”

คนวิจารณ์สนั่น ทำไมมีอะไรไม่ถามตัวต่อตัว แต่เอามาโพสต์ VS มารยาทพื้นฐานยังไม่มี เจอแบบนี้ไม่ไหวนะ

อย่างไรก็ตาม การที่ หนุ่ย พงศ์สุข โพสต์แบบนี้ ทำให้เกิดข้อถกเถียงตามมาและหลายคนมองว่าเป็นดราม่าใหญ่ หลายคนตำหนิหนุ่ยที่เอาเรื่องแบบนี้มาโพสต์ในเฟซบุ๊ก แทนที่จะขอคุยแบบตัวต่อตัวกับน้องโดยตรง และฟีดแบ็กกันว่าน้องรู้สึกอย่างไร เกิดอะไรขึ้น วิธีคิดแบบให้คนรุ่นใหม่ทักทายคนรุ่นเก่ายังเป็นวิธีคิดแบบเก่า และเอาเรื่องนี้มาพูดในที่สาธารณะไม่ถือว่าช่วยเด็ก แต่ยิ่งผลักเด็กออกไป ในองค์กรต่างชาติ ทุกคนมาทำงานกันจริง ๆ เรื่องบุคลิกส่วนตัวไม่เคยเป็นปัญหาขององค์กร จะเงียบขรึม เฮฮา ทักทายใด ๆ ก็ว่าไป แต่สำคัญคืองานต้องเดินต่อไปได้ หรือบางคนมองว่า มีอะไรที่น้องไม่พอใจในองค์กรหรือเพื่อนร่วมงานเปล่า ทำให้น้องเลือกที่จะทำแต่งานแต่ไม่อยากยุ่งกับคนอื่น และการที่หนุ่ยใช้คำว่า “น้องสาว” เหมือนเป็นการแซวเด็กฝึกงานด้วย

ในขณะเดียวกัน ก็มีคนมองว่า เรื่องการทักทายและสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ถือเป็นเรื่องปกติ จากที่หนุ่ยเล่า น้องไม่ทักทายใครเลย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ และไม่ว่าจะองค์กรไทยหรือองค์กรต่างชาติ การทักทายสวัสดี หรือเซย์ไฮ หรือยิ้มทักทาย ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่จำเป็นต้องพินอบพิเทา การมองข้ามแบบไม่เห็นหัว เห็นทุกคนเป็นอากาศถือเป็นความหยาบคายมาก ซึ่งในความเป็นจริง ต่อให้เป็นคนที่ไม่อยากสุงสิงกับใครก็ทำได้ แต่ต้องทำให้ถูกวิธี ไม่ใช่ตัดรอนไม่เหลือเยื่อใย เผื่ออนาคตจำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่น ขอให้คนอื่นช่วยแก้งาน ลัดคิว อยู่ดึกให้ ก็อาจไม่ได้รับความช่วยเหลือ การทักทายพูดคุยกับคนในที่ทำงานที่ไม่ใช่เรื่องงาน ถือเป็นการสานสัมพันธ์เพื่อความราบรื่นของงานในอนาคต หากโตไปจะรู้ว่า มีงานอีกหลายอย่างที่ต้องใช้การพูดคุย เจรจา และพึ่งพาซึ่งกันและกัน

หนุ่ย พงศ์สุข ออกมาขอโทษ ยอมรับผิดที่เอาน้องมาแขวน – ส่งจดหมายเข้าไลน์บริษัท จากนี้จะรับความแตกต่างให้มากขึ้น

สุดท้าย หนุ่ย พงศ์สุข ยอมรับว่าเรื่องนี้ตนก็มีส่วนผิด ที่เอาเรื่องนี้มาเล่า และเอาน้องมาแขวน แม้จะไม่ระบุชื่อตนก็ผิดอย่างมากที่ทำการสื่อสารเรื่องนี้อย่างไม่สมควร และตลอดเวลา 2 คืนที่ผ่านมา ตนได้อ่านความเห็นของคน Gen X, Gen Y, Gen Z ตนยอมรับความต่างและตกผลึกการเปลี่ยนผ่าน คนแต่ละเจนเติบโตมาในโลกที่ต่างกันไป เราจึงต้องยอมรับในเนื้อหาและบริบทที่ต่างกัน ตราบที่ยังอยู่ใต้ข้อกฎหมาย

ทั้งนี้ ในนามบริษัท ตนได้เข้าพบกับน้องทั้งสองคนเมื่อวาน มีการกล่าวขอโทษตรงหน้ากับการกระทำของตน และเขียนบันทึกส่งในไลน์กลุ่มที่มีพนักงานอยู่ทุกคนเพื่อแสดงความขอโทษ และความผิดพลาดครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ไม่ว่ากับใคร บุคคล หรือสถานะใด

ส่วนตัวผม ผมได้รับการแขวนบนสังคมทวิตเตอร์​ ซึ่งก็ดูเป็นโทษที่เหมาะสมกับความผิดของการกระทำนี้ ผมได้ของแถมที่ดี คือการรับรู้และเข้าใจในความคิดของคนรุ่นใหม่ เพื่อปรับตัวอยู่ต่อในสังคมไทยที่มีการเปลี่ยนแปลงไป

“เวลาที่มีมากกว่า” เป็นของพวกคุณคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง

ผมในฐานะเพื่อนร่วม Gen X ที่มีแรง จะทำหน้าที่เชียร์คนรุ่นใหม่ในแบบที่ผมชื่นชม เพื่อเป็นการเชื่อมโยงความเชื่อมั่นมาสู่คนรุ่นของผมด้วย

 

ข่าวจาก : kapook

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: