สองแม่ลูกสู้มะเร็ง เปิดร้านขายไข่เจียวริมทางกลางดึก สู้ชีวิตจนพลังโซเชียลแห่ช่วย





จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ณฤชล มีวัฒนะกุล โพสต์เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 เล่าเรื่องราวของร้านขายไข่เจียวริมทาง ใกล้แยกเซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ หลังพบว่าร้านเพิ่งมาขายเป็นวันแรก เมื่อจอดไปอุดหนุนพบว่าแม่ค้านั้นพูดไม่ค่อยชัด เนื่องจากต้องตัดลิ้นจากโรคมะเร็งซึ่งป่วยมา 4 ปี นอกจากนี้ยังพบว่าลูกชายของแม่ค้าก็ป่วยเป็นมะเร็งอีก 1 คน จึงต้องหาเงินมารักษาและตัดสินใจขายข้าวไข่เจียวช่วงดึกตั้งแต่ 22.00 น. – 02.00 น. นั้น

ต่อมา แม่ค้าไข่เจียวดังกล่าว ได้เข้ามาคอมเมนต์ในชื่อ สองแม่ลูกสู้มะเร็ง ไอซ์ โดยขอบคุณลูกค้าท่านนี้ที่เข้ามาอุดหนุน เล่าว่า วันนั้นเป็นวันแรกที่เริ่มทำงานนอกบ้านหลังจากผ่าตัดรักษามาเกือบ 2 ปีเต็ม ๆ สมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ จึงต้องหาอะไรที่พอทำได้ อาการของเธอนั้นปัจจุบันกินได้แค่น้ำกับนม กินปกติไม่ได้แล้ว ส่วนลูกชายที่ป่วยมะเร็งยังคงต้องรักษาตัวอีกยาว ทำอะไรได้เธอก็เต็มใจที่จะทำหมด

แม่ค้าระบุอีกว่า ปกตินั้นอยู่ขายทั้งคืนจนถึง 08.00 น. แต่ช่วงเช้านั้นรถเยอะ รถจอดไม่ได้ บวกกับแม่ค้าป่วยจึงไม่สามารถอยู่ในจุดที่มีรถจอดเยอะ ๆ ได้ ลำพังขับรถเองก็เมารถแล้ว พร้อมยืนยันว่าจะยังขายต่อไปในชื่อร้าน ข้าวไข่เจียวบุฟเฟต์ ฟรีน้ำพริกกะปิ พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจซึ่งทำให้เธอนั้นมีแรงสู้ต่อไป

ปรากฏว่าหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ได้ถูกแชร์ไปเกือบ 9 พันครั้ง ซึ่งหลายคนนั้นรู้สึกชื่นชมในความสู้ชีวิตของคุณแม่ป่วยมะเร็ง และอยากที่จะช่วยเหลือในหลายช่องทาง ทั้งแวะไปอุดหนุนข้าวไข่เจียว หรือโอนเงินบริจาคเพื่อช่วยให้การรักษาแม่ลูกป่วยมะเร็งเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด (2 กันยายน 2565) ข่าวช่อง 3 รายงานว่า ครอบครัวสู้มะเร็งนั้น ประกอบด้วย นายวราวุธ สามี อายุ 45 ปี และ น.ส.ผ่องศรี หรือ ไอซ์ ภรรยา วัย 37 ปี ปัจจุบันมีลูกสองคน น้องพู ลูกชายคนโตวัย 11 ขวบ และน้องพลอยใส ลูกสาวคนเล็กวัย 7 ขวบ หลังเรื่องราวนี้ถูกแชร์ออกไป ปรากฏธารน้ำใจหลั่งไหลมาช่วยเหลือครอบครัวนี้จำนวนมาก โดยในคืนวันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้คนพากันมาอุดหนุนข้าวไข่เจียวกันนับร้อย จนแม่ค้าและครอบครัวยังรู้สึกตกใจ ข้าวที่หุงไป 5 หม้อหมดลงในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง

ก่อนหน้านี้ ครอบครัวมีอาชีพเปิดร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถืออยู่ในห้างดัง แต่เมื่อ 4 ปีก่อนมาพบว่าภรรยาป่วยเป็นโรคมะเร็งในช่องปาก อาการลุกลามจนต้องทำการรักษา และต้องตัดลิ้นส่วนหนึ่งออกไป ส่งผลให้เป็นผู้พิการทางการพูด และต้องพักรักษาตัวต่อเนื่องหลายปี ประกอบกับเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาช่วงวิกฤตโควิด-19 ทำให้ต้องปิดร้าน ครอบครัวสูญเสียรายได้ ผู้เป็นพ่อต้องรับภาระหนัก หันไปเป็นไรเดอร์ส่งสินค้าและอาหาร พร้อมกับเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ที่บ้านขายพวกข้าวผัด พะโล้ ข้าวไข่เจียวเพื่อหารายได้ในช่วงกลางวัน แต่ช่วง 3 ปีก่อน พบข่าวร้ายอีกว่าลูกชายป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเช่นกัน ปัจจุบันต้องได้รับการรักษาต่อเนื่อง โชคดีที่ใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ในการรักษาได้

ส่วนไอซ์ ผู้เป็นแม่ก็ต้องรับการรักษาไปพร้อมกัน จนปัจจุบันอาการเริ่มดีขึ้น สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ยังมีปัญหาเรื่องเรี่ยวแรง เรื่องการพูด และการกินอาหารที่กินได้เพียงเหลวเท่านั้น เช่น นม อาหารเสริม แต่ก็พอช่วยเหลือครอบครัวขายอาหารที่บ้านใน อ.สันทราย พร้อมกับดูแลลูกชายคนโตที่ตอนนี้ต้องหยุดเรียนเพื่อทำการรักษาโรคมะเร็ง แต่ทางโรงเรียนยังช่วยเปิดโอกาสให้เรียนออนไลน์ ปัจจุบันต้องใช้ยาจากต่างประเทศที่มีราคาค่อนข้างสูงซึ่งทางสถาบันมะเร็งช่วยเหลือ อยู่ทำให้อาการดีขึ้นตามลำดับ

หลังจากที่ขายอาหารที่บ้านในช่วงกลางวันแล้ว ไอซ์ ก็ขอช่วยสามีหารายได้เพิ่มด้วยการออกมาขายข้าวไข่เจียว ริมถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย บริเวณแยกศาลเด็ก ขาเข้าเมือง ตั้งแต่ช่วงเวลา 22.00 น. ไปจนถึงช่วงเช้ามืดของทุกวันบางวันก็ขายได้ไม่มาก บางวันก็ต้องเจอฝนตก บางครั้งก็จะพาลูกทั้ง 2 คนออกมาด้วย จนกระทั่งมีลูกค้าคนหนึ่งมาอุดหนุนและแชร์เรื่องราวนี้ออกไป ส่งผลให้มีหลายคนเข้ามาช่วยเหลือทั้งอุดหนุนข้าวไข่เจียว บริจาคข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำมัน รวมทั้งเงินเพื่อช่วยเหลือครอบครัวตลอดช่วง 2 วันที่ผ่านมา

เมื่อคืนวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา บรรยากาศในจุดที่ตั้งร้านขายไข่เจียว พบว่ามีชาวบ้าน และไรเดอร์ เดินทางมารออุดหนุน หลายคนยังเข้าช่วยขนโต๊ะ เก้าอี้ เตาแก๊ส กระทะ มาตั้ง ให้ครอบครัวนี้ได้เปิดร้านขาย โดยมีคนรอคิวซื้อเป็นจำนวนมากจนทำขายกันเองไม่ทัน แม้แต่น้องพลอยใส ลูกสาววัย 7 ขวบ ก็ออกมาช่วยแม่ขาย ยิ่งเป็นภาพชวนประทับใจให้แก่คนที่มาอุดหนุน จนหลายคนที่ตั้งใจมาเป็นลูกค้าก็มาช่วยครอบครัวนี้ขายด้วยเช่นกัน บางรายรวบรวมเงินมาช่วยเหลือ และขณะนี้หลายคนเตรียมช่วยเรื่องอาชีพและช่วยเหลือภาระของครอบครัวหลาย ๆ อย่างให้เบาบางลงอีกด้วย

ด้าน นายวราวุธ ผู้เป็นพ่อ เปิดใจว่า รู้สึกตื้นตันและดีใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่เชื่อว่าพลังโซเชียลจะมากมายขนาดนี้ เพียงไม่กี่วันก็มีคนรู้จักมากมาย และมาช่วยเหลือครอบครัวของตน ที่สำคัญตือได้กำลังใจมหาศาลที่จะสู้ต่อไปเพื่อครอบครัว จะดูแลครอบครัวจนถึงนาทีสุดท้ายของลมหายใจทุกคน เช่นเดียวกันน้องไอซ์ภรรยา ก็ฝากขอบคุณทุกกำลังใจ และความช่วยเหลือที่มีมาให้ครอบครัวมีกำลังใจในการต่อสู้ต่อไปถึงที่สุด

ทั้งนี้ทางครอบครัวก็ยังน้อมรับน้ำใจที่จะช่วยเหลือครอบครัวที่ต้องดูแล ซึ่งยังมีภาระที่อยู่ข้างหน้าอีกมากทั้งการรักษาพยาบาลทั้งสองคนที่ป่วย และค่าเลี้ยงดูและเล่าเรียนของลูก สามารถส่งความช่วยเหลือมาได้ที่ บัญชีธนาคาร กรุงไทย สาขา ศูนย์การค้ากาดสวนแก้ว เลขบัญชี 455-0-30336-0 ชื่อบัญชี น.ส.ผ่องศรี พรมจันทร์ เบอร์โทร 087-788-5535 หรือสามารถอุดหนุนร้านอาหารที่ขายช่วงกลางวัน และส่งผ่านไรเดอร์ หรือมาอุดหนุนร้านไข่เจียว ช่วงกลางคืน แต่ก็อาจจะไม่ได้มาขายทุกวันเพราะบางวันภรรยาก็จะป่วยและไม่ค่อยมีแรงทำงานได้มากเหมือนปกติทั่วไปแล้ว

 

ข่าวจาก : kapook

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: