ลูกค้าออกรถกับศูนย์ เจอเซลส์เชิดเงินดาวน์ 2 เคส ใน 1 เดือน





27 สิงหาคม 2565 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เล่าว่า ตนได้จองรถในราคา 10,000 บาท ซึ่งพนักงานขายบอกให้โอนเงินผ่านพนักงานขายได้เลย ก่อนจะตกลงราคาดาวน์รถและรายละเอียดอื่น ๆ รวมยอดจองและยอดดาวน์ที่ตนโอนไปนั้นเป็นเงิน 109,000 บาท

หลังจากนั้นก็ยื่นเรื่องขอสินเชื่อซึ่งก็ผ่านเรียบร้อย ทางศูนย์และพนักงานขายได้นัดให้ตนไปรับรถในวันที่ 24 กรกฎาคม 2565 ซึ่งก็มีการส่งภาพอัปเดตการตกแต่งรถ เมื่อเสร็จแล้วก็ส่งให้ดูอีก กระทั่งถึงวันรับรถตนได้เดินทางไปที่ศูนย์ แต่ทางศูนย์แจ้งว่าปล่อยรถให้ตนไม่ได้เนื่อจากพนักงานขายไม่ได้นำเงินดาวน์มาชำระที่ศูนย์ ซึ่งตนไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกระทั่งมารู้ว่าพนักงานขายเอาเงินไปใช้ส่วนตัว

ต่อมาตนได้แจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานขายคนนี้ และได้คุยกับทางเจ้าของศูนย์ แต่กลับไม่มีทางออกให้ตนเลย ให้ตนดำเนินการเองทั้งหมด ปัดความรับผิดชอบ ไม่แจ้งความเอาผิดพนักงานของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่พนักงานคนนี้ (มาทราบภายหลัง)ได้ทำการกระทำแบบนี้กับเคสก่อนหน้ากับลูกค้ารายอื่นมาแล้วหลายราย แต่เคสก่อนนี้บริษัทรับผิดชอบให้รถลูกค้า แต่เคสของตนบริษัทกลับปัดความรับผิดชอบและโยนภาระให้ตนที่เป็นลูกค้า แถมยังถามตนอีกว่าถ้าอยากได้รถให้วางเงินเพิ่มอีกประมาณ 70,000 บาท คนละครึ่งกับบริษัทเพื่อเอารถออก

คุณมาย ระบุอีกว่าตนได้รับความเสียหาย อยากออกมาโพสต์เพื่อเตือนภัยทุกคน และที่ตนไม่โอนเงินให้บริษัทแต่กลับโอนให้พนักงานนั้นเป็นเพราะเพื่อนที่เคยออกรถที่นี่บอกมาซึ่งเพื่อนก็ได้รับรถตามปกติ ที่เจ็บช้ำกว่านั้นคือบริษัทตัวแทนหรือบริษัทสำนักงานใหญ่ต่างไม่รับผิดชอบกับเคสของตนเลย

เคสที่สองพนักงานขายให้โอนเงินดาวน์เข้าบัญชีม้าแล้วเอาเงินไปใช้เอง – ทำใบเสร็จปลอม – ศูนย์ปัดรับผิดชอบ

ขณะที่เคสที่สองเป็นเรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กผู้เสียหายอีกคนหนึ่ง ที่โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2565 ระบุว่าตนออกรถยี่ห้อดังที่ศูนย์บริการแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยติดต่อกับพนักงานขายผ่านทางเฟซบุ๊ก เมื่อได้รับการเสนอราคาก็ตกลงไปซื้อขายที่ศูนย์ฯ

วันที่ซื้อรถก็ทำสัญญาที่ศูนย์ตามปกติเหมือนการซื้อรถทั่วไป ตอนให้โอนเงินดาวน์ทางพนักงานขายให้โอนยอดหนึ่งเข้าศูน์ อีกยอดหนึ่งโอนเข้าไฟแนนซ์ แต่พอตนได้รับสัญญาเช่าซื้อจากทางธนาคารก็พบว่าเงินดาวน์ไม่ตรงกับที่ตนวางเงินไป

“สมมุติว่าเราดาวน์ 50% แต่ในสัญญาระบุเราดาวน์ 15% ซึ่งเงินเราจ่ายไปแล้ว 50%”

เจ้าของเรื่องล่าอีกว่า ตนมาทราบภายหลังว่าบัญชีที่อ้างว่าเป็นไฟแนนซ์นั้นเป็นบัญชีปลอมจากคนรับจ้างเปิดบัญชี และพนักงานขายเอาเงินนั้นไปใช้เอง เมื่อตนรู้ตนก็แจ้งพนักงานขาย อีกฝ่ายก็อ้างว่าระบบขึ้นผิด กระทั่งตนแจ้งไปยังศูนย์ก็รู้ว่าพนักงานขายทำใบเสร็จรับเงินปลอม ซึ่งทางศูนย์ปัดความรับผิดชอบอ้างว่าคนคนนี้ไม่ใช่พนักงานขายของทางศูนย์ ทั้งที่คนนี้มาถ่ายรูปขายรถที่ศูนย์ ทำเอกสารทุกอย่างในห้องรับรองของศูนย์

“แล้วลูกค้าจะทราบมั้ยคะว่าเซลล์ไม่ใช่เซลล์.. ทางศูนย์ปัดความรับผิดชอบทั้งหมด”

หลังจากนั้นตนก็มาทราบที่หลังว่าพนักงานขายคนนี้ถูกออกจดหมายวนไปที่ศูนย์รถยี่ห้อนี้ทุกสาขาว่าพ้นสภาพพนักงานเพราะทำการทุจริตตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 แตจ่สาขาที่ตนไปใช้บริการยังปล่อยให้เขามาออกเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน

“ตอนนี้ผู้เสียหายที่ติดต่อกันมาไม่ต่ำกว่า 20 คนค่ะ รวมกันได้สิบกว่าคนแล้ว มูลค่าความเสียหายกว่าสามล้าน และคาดว่ามีคนที่ไม่รู้ตัว ว่าโดนโกงอีกหลายคน และมีทริคโกงแบบนี้อีกเยอะ เพราะเซลล์ยอมรับเองว่าศูนย์นี้เซลล์ทำแบบนี้กันเยอะหลายคน ผู้จัดการก็ทำไม่รู้ไม่เห็น เพราะทางโชว์รูมก็ได้ยอด อันนี้เซลล์พูดเองเลย เรามีบันทึกเสียงไว้ด้วย”

 

ข่าวจาก : kapook

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: