(5 สิงหาคม 2565) ผู้ใช้ TikTok @voucherclubhotdeal ลงคลิประบุข้อความว่าเตือนใจผู้รักการกินอาหารแนวกะทิหรือของมัน ต้องไม่กินในปริมาณเยอะเกินไป เพราะอาหารเหล่านี้มีพิษภัยกับสุขภาพไม่น้อยเลย
ในคลิปเป็นภาพที่เธอนั้นต้องผ่าตัดเล็ก ๆ บริเวณท้องที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการป่วยดังกล่าว โดยมีภาพก้อนนิ่วที่อยู่ในถุงน้ำดี จำนวน 5 ก้อน พร้อมระบุเตือนภัยสายกะทิ ชอบกินของมัน ๆ ระวังด้วย หากมีอาการจุกแน่นท้อง ท้องอืดบ่อย ๆ จุกร้าวชายโครงขวาร้าวไปหลัง ให้รีบไปตรวจ ปล่อยไว้นานท่อน้ำดีอุดตัน และอันตรายถึงชีวิต
ทั้งนี้หลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีคนเข้าชมกว่า 5 แสนครั้ง พบว่าหลายคนมีอาการดังกล่าวเช่นกัน บางส่วนที่เคยป่วยนิ่วในถุงน้ำดีก็เผยว่า บางทีแม้ไม่ได้กินของมันมากนักแต่ก็มีโอกาสป่วยได้เช่นกัน
เกี่ยวกับอาการ นิ่วในถุงน้ำดี
กลุ่มเสี่ยงประกอบด้วย
– กลุ่มคนอ้วน หรือมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน
– กลุ่มคนอายุ 40 ปีขึ้นไป
– เพศหญิง (พบมากกว่าในเพศชาย)
– กลุ่มวัยเจริญพันธุ์
อาการที่สังเกตได้
– จุก อืด แน่นท้อง บริเวณใต้ลิ้นปี่หลังอาหาร โดยเฉพาะอาหารมัน, อาหารมื้อใหญ่ หรือกินไม่ตรงเวลา
– หากมีถุงน้ำดีอักเสบ จะมีไข้ ปวดท้องบริเวณชายโครงขวา
– ปวดท้องบริเวณชายโครงด้านขวาร้าวไปหลัง หรือสะบัก
– เรอบ่อย อาหารไม่ย่อย อึดอัดท้อง
– หากมีนิ่วตกลงท่อน้ำดี จะมีอาการปวดบีบท้องรุนแรงเป็นพัก ๆ และมีตัวเหลืองตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม
การวินิจฉัย
– นิ่วถุงน้ำดีสามารถตรวจได้ด้วยการอัลตราซาวด์ช่องท้อง
การรักษา
– แนะนำผ่าตัดถุงน้ำดีด้วยการส่องกล้อง (Laparoscopic Cholecystectomy) หากมีนิ่วในท่อน้ำตีต้องได้รับการส่องกล้องคล้องนิ่วออก
วิธีการป้องกันโรคนิ่วในถุงน้ำดี
– รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
– ควบคุมน้ำหนัก และระดับน้ำตาลในเลือด และระดับคอเลสเตอรอล
– ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งเป็นอย่างน้อย ครั้งละ 20-30 นาที
ข่าวจาก : kapook
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ