รบ.สหรัฐฯเปิดปฏิบัติการที่ลำปาง ค้นหานักบิน-เครื่องบิน สูญหายสมัยสงครามโลก77ปีก่อน





รัฐบาลสหรัฐฯส่งคณะผู้เชี่ยวชาญการค้นหาเชลยศึก-ผู้สูญหาย เริ่มปฎิบัติการค้นหานักบินอเมริกันขับเครื่องบิน P-38 ตกลำปางสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หวังนำทหารกล้าที่สูญหายไปกว่า 70 ปีกลับมาตุภูมิ

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. สถานเอกอัคราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ U.S. Embassy Bangkok เล่าว่าได้เริ่มปฎิบัติการณ์ค้นหานักบินและเครื่องบินสูญหายในจังหวัดลำปางเมื่อ 77 ปีก่อน โดย ระบุว่า

เราทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับชาติของเรา เมื่อวันที่ 3 มีนาคม อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ไมเคิล ฮีธ ลงพื้นที่ปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินและนักบินของสหรัฐฯ ที่สูญหายระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ในจ.ลำปาง โดยสำนักงานค้นหาเชลยศึกและผู้สูญหายของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DPAA) มุ่งค้นหาอย่างเต็มความสามารถ และแจ้งข้อมูลที่พบเกี่ยวกับบุคคลสูญหายให้แก่ครอบครัวของพวกเขาและชาติของเรา ขอขอบคุณเจ้าภาพชาวไทยที่ช่วยเราปฏิบัติหน้าที่ที่สำคัญและทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับชาติของเรา

ทั้งนี้ มีรายงานว่า คณะผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานค้นหาเชลยศึกและผู้สูญหาย (DPAA) สำนักงานใหญ่ในฮาวาย กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา จำนวน 9 คน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ไทย เดินทางลงพื้นที่บ้านแม่กัวะ อ.สบปราบ จ.ลำปาง เริ่มปฏิบัติการค้นหานักบินอเมริกันที่สูญหายมากว่า 77 ปี ระหว่างการทำสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเชื่อว่านักบินคนดังกล่าวพร้อมด้วยเครื่องบิน P-38 ตกใกล้กับ ม.บ้านแม่กัวะ อ.สบปราบ

โดยอุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ไมเคิล ฮีธ , กงสุลใหญ่สหรัฐฯ เชียงใหม่ ฌอน โอนีลล์ และ พ.อ.อลงกต ดอนมูล ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้ลงพื้นที่พบกับคณะค้นหา พร้อมนำชาวบ้านจากชุมชนบ้านแม่กัวะ ให้การสนับสนุนการปฏิบัติการด้วย

อุปทูตฮีธ กล่าวว่า แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 70 ปีแล้ว แต่สหรัฐฯ ยังคงดำเนินการเพื่อนำทหารทุกนายของเรากลับบ้าน ซึ่งภารกิจด้านมนุษยธรรมนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือและมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ระหว่างสหรัฐฯกับไทย ในนามของสหรัฐฯ และประชาชนอเมริกัน ขอขอบคุณสมาชิกชุมชนและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ตลอดจนรัฐบาลไทยที่ช่วยเราปฏิบัติหน้าที่ที่สำคัญและทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับชาติของเรา

ด้าน พ.ต.ไบรอัน ดับเบิลยู. สมิท หัวหน้าคณะค้นหาฯ กล่าวว่า เป้าหมายของเราที่นี่คือการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้มากที่สุด และสื่อสารกับครอบครัวของผู้สูญหายอย่างเปิดเผย ซึ่งตนขอขอบคุณเจ้าภาพชาวไทยที่ช่วยเรานำทหารของเรากลับสู่มาตุภูมิ

ทั้งนี้ ยังมีทหารอเมริกันประมาณ 81,600 คน ที่ยังคงสูญหายจากเหตุการณ์ความขัดแย้งในอดีต ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ มุ่งมั่นในการหาข้อมูลของผู้สูญหายอย่างเต็มความสามารถเพื่อจะนำพวกเขาเหล่านั้นกลับสู่มาตุภูมิและครอบครัว ภารกิจนี้เป็นปฏิบัติการนำตัวผู้สูญหายกลับสู่มาตุภูมิที่สำคัญครั้งแรกในประเทศไทยนับตั้งแต่ปี 2550

ซึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 สำนักงาน DPAA ได้รับข้อมูลชุดใหม่เกี่ยวกับการพบเครื่องบินของสหรัฐฯ ที่สูญหายระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ในพื้นที่ภาคเหนือของไทยจำนวน 3 ลำ นำไปสู่การตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานเครื่องบินที่สูญหาย

“ความสูญเสียดังกล่าวเกี่ยวข้องกับทหารอเมริกันที่ยังคงสูญหายอยู่ โดยภารกิจนี้เกิดขึ้นได้จากการค้นคว้าโดยละเอียดของนักประวัติศาสตร์และอาสาสมัครทั้งจากไทยและสหรัฐฯ ตลอดจนข้อมูลที่ได้จากบันทึกของผู้เห็นเหตุการณ์ทำให้เกิดปฎิบัติการนี้ขึ้น”

 

ข่าวจาก : มติชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: