รวบตัวแม่ค้าหลอกรับหิ้ว สแตนอะคริลิค-ตุ๊กตาญี่ปุ่น เหยื่อนับพัน มูลค่า2.3ล้าน





สืบ 8 บุกจับสาว หลอกรับหิ้ว สแตนอะคริลิค-ตุ๊กตาญี่ปุ่น ผู้เสียหายกว่า 1,455 ราย ร้องขอความช่วยเหลือ เสียหายรวมกว่า 2.3 ล้านบาท

วันที่ 26 ก.พ.2565 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.และ พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน ผบก.น.8 สั่งการให้ พ.ต.อ.นิภพล สุขนิยม ผกก.กก.สส.บก.น.8 พร้อมด้วย พ.ต.ท.อชิรเวชชน์ สุพรรณเภสัช สว.กก.สส.บก.น.8 และชุดสืบสวนบก.น.8 ร่วมจับกุม น.ส.คณิตา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี โดยจับกุมได้บริเวณแมนชั่นแห่งหนึ่ง ย่านวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.8 ได้รับประสานความช่วยเหลือจากประชาชนผ่านเว็บไซด์ “ฉลาดโอน” ว่ามีผู้เสียหายจำนวนมากที่เข้ามาร้องเรียนว่าถูกหลอกลวง สั่งสินค้าหิ้วจากเพจทวิตเตอร์ ชื่อว่า @Haruhana_Shop แล้วไม่ได้สินค้าจำนวนมาก แล้วนำเรียนผู้บังคับบัญชาผู้บังคับบัญชาจึงได้สั่งการให้ทำการสืบสวนพบว่ามีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ในพื้นที่ สน.ราษฎร์บูรณะ 2 ราย

ผู้เสียหายแจ้งความว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค.65 ผู้เสียหายพบทวิตเตอร์ชื่อ @HaruHana_Shop โพสต์ประกาศรับหิ้วสินค้า(รับฝากซื้อสินค้า)สแตนด์อะคริลิคจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถพบเห็นประกาศดังกล่าวได้ ผู้เสียหายได้ตกลงราคากับน.ส.คณิตาในราคาชิ้นละ 540 บาท รวมเป็นเงิน 1,080 บาท และได้โอนเงินจ่ายค่าสินค้าไปยังบัญชีธนาคารของ น.ส.คณิตา

ซึ่งในวันที่ 22 ม.ค.65 ทวิตเตอร์ @HaruHana_Shop ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพว่า ได้สั่งซื้อสินค้า สแตนด์อะคริลิคแล้ว ที่ต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว แต่สินค้ายังเดินทางมาไม่ถึงไทย จะเดินทางมาถึงประมาณเดือนมี.ค. ทำให้ผู้เสียหายเข้าใจว่าตนเองจะได้รับสินค้า แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 15 ก.พ.65 ทวิตเตอร์ดังกล่าวได้ประกาศปิดร้านและโพสต์ข้อความ จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ น.ส.คณิตา จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ กระทั่งติดตามตัวน.ส.คณิตาได้บริเวณแมนชั่นย่านวังทองหลาง

จากการสอบสวน น.ส.คณิตา รับสารภาพว่า ได้โกหกลูกค้าว่าซื้อของได้แล้ว แต่ข้อเท็จจริงยังไม่ได้ซื้อ และรับว่านำเงินที่ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าไปใช้จ่ายส่วนตัวและเอาเงินไปเติมเล่นเกม ยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายคืนแต่ขอเวลาสักระยะ โดยมูลค่าความเสียหายแต่ละรายนั้นมีจำนวน รายละ 500 ถึง 3,000 บาท แต่ปรากฏว่ามีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากกว่า 1,446 คน ที่เริ่มรวมตัวกันในกลุ่มไลน์เพื่อติดตามทวงถามหาสินค้าที่ยังไม่ได้รับ หรือขอเงินคืน รวมมูลค่าความเสียหายที่ตรวจพบกว่า 2,300,000 บาท

เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ราษฎร์บูรณะ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

ข่าวจาก : ข่าวสด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: