18คนไทยในยูเครน “เกือบไม่รอด” เบียดขึ้นรถไฟ หลังหลบภัย สถานทูตเร่งช่วยแล้ว

Advertisement

18 คนไทยในยูเครนเผย ‘เกือบไม่รอด’ เบียดขึ้นรถไฟหลังหลบภัยสถานีใต้ดิน สถานทูตเร่งช่วย

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ‘มติชน’ รายงานว่าคนไทยกลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่ในประเทศยูเครนรวมตัวหลบภัยภายในสถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งในกรุงเคียฟ หลังประธานาธิบดีปูติน ของรัสเซีย ประกาศเปิดปฏิบัติการทางทหารทางตะวันออกของประเทศยูเครน ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นมีจำนวน 16 ราย ต่อมาแยกตัวไป 7 รายเพื่อขึ้นรถไฟไปยังเมืองลวิฟทางตะวันตกของยูเครน แต่ยังมีการโทรศัพท์พูดคุยกัน

คนไทยกลุ่มดังกล่าวระบุด้วยว่าอยู่ระหว่างรอการช่วยเหลือของทางการไทย โดยรายหนึ่งแจ้งว่าอากาศหนาวมาก และน้ำดื่มที่ซื้อเตรียมไว้หมดลงแล้ว ขณะที่อีกรายเผยแพร่คลิปบรรยากาศภายในสถานีรถใต้ดินซึ่งมีผู้คนจำนวนมากนอนหลับพักผ่อนบนพื้น ขณะที่บางส่วนหอบหิ้วกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ มุ่งหน้าไปในจุดต่างๆ มีเสียงเด็กเล็กร้องไห้แทรกเข้ามาเป็นระยะๆ โดยหญิงไทยเจ้าของคลิปกล่าวว่า อยากกลับบ้าน แต่ต้องรออย่างเดียว

“คิดถึงลูก คิดถึงพ่อกับแม่ คิดถึงทุกๆ คน อยากกลับบ้านแล้ว” หญิงไทยในยูเครนกล่าว

ทั้งนี้ กลุ่มคนไทยที่หลบอยู่ในสถานีรถใต้ดินมีการตั้งกลุ่มพูดคุยผ่านช่องทางข้อความทางเฟซบุ๊กเพื่อสื่อสารกัน โดยมีการเชิญเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอเข้าร่วมด้วย เจ้าหน้าที่สถานทูตได้สอบถามข้อมูล และสถานการณ์ล่าสุด รวมถึงให้คำแนะนำต่างๆ

นอกจากนี้ ชายไทยรายหนึ่งซึ่งเดินทางออกจากยูเครนก่อนเกิดเหตุ อ้างอิงคำบอกเล่าของครอบครัวภรรยาซึ่งยังอาศัยอยู่ในกรุงเคียฟว่า เครือข่ายโทรศัพท์บางส่วนถูกบล็อก ธนาคารบางแห่งไม่สามารถเบิกถอนเงินสดจากตู้กดเงินสดอัตโนมัติได้ และชาวยูเครนทำการระเบิดสะพานบางแห่งในกรุงเคียฟเพื่อป้องกันไม่ให้รถถังของรัสเซียเข้าถึงตัวเมืองได้

ต่อมา เมื่อเวลาราว 23.55 น. ตามเวลาท้องถิ่น กลุ่มคนไทยแจ้งข่าวว่าได้พากันขึ้นรถไฟมุ่งหน้าเมืองลวิฟ โดยไปสมทบกับกลุ่มที่เดินทางไปก่อนหน้า รวมทั้งสิ้น 18 ราย กระจายอยู่ในขบวนรถเดียวกัน

คนไทยรายหนึ่งกล่าวว่า เกือบเอาชีวิตไม่รอด ต้องเบียดเสียดกันเข้าประตู และต้องช่วยกันดึงขึ้นมาจากชานชาลาเพื่อขึ้นสู่ขบวนรถ แม้สามารถออกจากกรุงเคียฟได้แล้ว แต่ยังรอความช่วยเหลือ อยากกลับประเทศไทยให้เร็วที่สุด

ด้าน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ได้เผยแพร่ประกาศ เรื่อง การดูแลคนไทยในยูเครนในสถานการณ์ฉุกเฉิน ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ระบุว่า สถานเอกอัครราชทูต ได้ประชุมกับกระทรวงการต่างประเทศไทย และกลุ่มนายจ้างคนไทยในยูเครน เพื่อประเมินสถานการณ์และดำเนินมาตรการที่เหมาะสมในการดูแลความปลอดภัยของคนไทยในยูเครนจำนวน 253 คน ส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างในร้านนวด/สปาไทย โดยกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สถานเอกอัครราชทูต ตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน (เมืองลวิฟ)” (โรงแรม Цісар หรือ Tsisar ที่อยู่ Horodotska St, 65, Lviv, Lviv Oblast, Ukraine, 79000) ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูต ไปประจำ เพื่อใช้เป็นที่พักชั่วคราวของคนไทยในยูเครนที่จะเดินทางออกมาจากเมืองต่างๆ ที่มีเสี่ยงต่อความปลอดภัย และเป็นศูนย์ประสานงานกับฝ่ายยูเครนในการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน

ทั้งนี้ เมืองลวิฟจะเป็นฐานในการรวบรวมคนไทยในยูเครนจากพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นการชั่วคราว เพื่อเดินทางกลับประเทศไทยโดยเครื่องบิน จากเมืองลวิฟหรือเข้าโปแลนด์ หรือเดินทางกลับที่อยู่อาศัย ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความปลอดภัยในยูเครน

นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูต ได้ติดต่อนายจ้างในเมืองต่างๆ โดยตรงเพื่อประเมินสถานการณ์และพัฒนาการความปลอดภัยในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดเตรียมยานพาหนะสำหรับการเดินทางไปยังเมืองลวิฟเพื่อให้มั่นใจว่าคนไทยที่ต้องการจะเดินทางมาเมืองลวิฟสามารถเดินทางมาได้ พร้อมย้ำด้วยว่า สถานเอกอัครราชทูต กำลังดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้มีรถบัสไปรับคนไทยในเมืองหลักต่างๆ โดยทันทีเมื่อสถานการณ์อำนวย โดยในระหว่างนี้ ได้ขอให้นายจ้างดูแลความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของลูกจ้างคนไทยอย่างเต็มที่ เช่น เตรียมอาหาร สิ่งของจำเป็น เตรียมเอกสารเดินทาง ฯลฯ รวมทั้งหายานพาหนะที่สามารถหาได้ในพื้นที่ในกรณีที่จำเป็นต้องนำลูกจ้างคนไทยออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยได้

ข่าวจาก : มติชน

• Facebook
• Twitter
• Line