เรือยักษ์ขวางคลองสุเอซ เริ่มมีหวัง ขยับบ้างแล้ว หลังเสียหาย ชม.ละหมื่นล้านบาท





คลองสุเอซเริ่มมีหวัง หลังเรือยักษ์ขวาง เจ้าหน้าที่เร่งกู้วิกฤตแข่งเวลา ค่าเสียหายมหาศาลชั่วโมงละมากกว่าหมื่นล้าน เรือติดค้างไม่ต่ำกว่า 300 ลำ

เป็นประเด็นที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจและวิตกกังวลมาก กรณีเรือ บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์สินค้า Ever Given ขนาดยาว 400 เมตร หนักกว่า 200,000 ตัน ติดขวางคลองสุเอซ ประเทศอียิปต์ ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้หนึ่งในเส้นทางขนส่งทางน้ำที่พลุกพล่านและสำคัญที่สุดในโลก ต้องกลายเป็นอัมพาต เจ้าหน้าที่ต้องเจอกับงานช้างครั้งใหญ่ วิกฤตกู้เรือแข่งกับเวลา ที่มีมูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลทุกชั่วโมง

เริ่มเห็นแสงของความหวัง.. แม้มันยังคงติดอยู่

วันที่ 28 มีนาคม 2564 เว็บไซต์บีบีซี รายงานความคืบหน้าจากแถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่คลองสุเอซ เผยว่า ได้ดำเนินการขุดทรายปริมาณกว่า 20,000 ตัน และใช้เรือลากจูง 14 ลำ ช่วยดึงและผลักดันท่ามกลางกระแสน้ำและลมแรง ทำให้สามารถเคลื่อนเรือใหญ่ได้แล้วประมาณ 30 องศาในทั้ง 2 ทิศทางทั้งส่งหัวเรือและท้ายเรือ หางเสือและใบพัดเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง


นายพลโอซามา ราบี ประธานหน่วยงานคลองสุเอซก เผยว่าน้ำเริ่มไหลผ่านใต้ท้องเรือได้แล้ว เชื่อว่าในไม่ช้าเรือจะสามารถไถลและเคลื่อนตัวออกจากจุดที่มันอยู่ได้ แต่หากยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ จำเป็นต้องใช้แผนสำรอง ทีมกู้ภัยอาจต้องขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ที่มีอยู่บนเรือ 18,300 ตู้ ออกบางส่วน เพื่อแบ่งเบาภาระเรือ แต่ด้วยความสูงของเรือ วิธีนี้ต้องใช้ระยะเวลานานหลายสัปดาห์

นอกจากนี้ จะมีเรือลากจูงอีก 2 ลำจากอิตาลีและเนเธอร์แลนด์ รวมทั้งกองทัพเรือสหรัฐฯ ยังเตรียมพร้อมที่จะเข้าร่วมและช่วยขุดลอกนำเรือออกจากทางน้ำของอียิปต์

สาเหตุที่แท้จริงของวิกฤตคลองสุเอซ

นายพลโอซามา กล่าวถึงสาเหตุของวิกฤตการณ์ครั้งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเกิดจากลมแรงและพายุทรายที่ส่งผลต่อทัศนวิสัย แต่นั่นอาจจะไม่ใช่สาเหตุหลัก

“อาจมีข้อผิดพลาดทางเทคนิคหรือจากฝีมือมนุษย์ ปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมดจะปรากฏชัดเจนในการสืบสวน” นายพลโอซามา กล่าว

ขณะที่ผู้จัดการด้านเทคนิคของเรือ Ever Given เผยว่า ลูกเรือทั้ง 25 คนยังคงอยู่บนเรือโดยมีสุขภาพดีและสภาพจิตใจที่ดี  

ทำไมคลองสุเอซจึงมีบทบาทสำคัญมาก

เรือขนส่งสินค้าทั่วโลกมากถึง 12 เปอร์เซ็นต์ ต้องผ่านเส้นทางคลองสุเอซ ความยาว 193 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับทะเลแดง ซึ่งเป็นเส้นทางทางทะเลที่สั้นที่สุดระหว่างเอเชียและยุโรป คลองสุเอซถือเป็นช่องทางขนส่งการค้าที่สำคัญ โดยเฉพาะสำหรับเรือจากเอเชียและยุโรปเกือบทั้งหมดใช้ช่องทางนี้

จนถึงขณะนี้มีเรือสินค้าจากทั่วโลกติดค้าเพื่อรอผ่านเส้นทางนี้กว่า 300 ลำ ขณะที่เรือบางลำเริ่มเปลี่ยนเส้นทางไปอ้อมแหลมกู๊ดโฮป ปลายสุดของทวีปแอฟริกา ที่ต้องใช้ระยะเวลามากกว่าเส้นทางนี้กว่า  2 สัปดาห์ และมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก

มูลค่าความเสียหายที่กำลังเผชิญ

ข้อมูลจาก Lloyd’s List การชะงักของเส้นทางนี้มีมูลค่าความเสียหายของสินค้าในแต่ละวันอยู่ที่ประมาณ 9,600 ล้านดอลลาร์ สินค้าประมาณ 9.6 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 3 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 400 ล้านดอลลาร์ (ราว 12,500 ล้านบาท) ต่อชั่วโมง

ขณะที่ในส่วนของประเทศอียิปต์ นายพลโอซามา เผยการประเมินว่า อียิปต์สูญเสียรายได้มากถึงวันละ 14 ล้านดอลลาร์ (ราว 430 ล้านบาท) นับตั้งแต่วันที่คลองถูกปิด


ขอบคุณข้อมูลจาก bbc.comnypost.com

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: