เชื่อว่าคนที่สายตาสั้นทุกคนต้องมีโมเม้นต์อยากโยนแว่นสายตาออก เพราะความรำคาญหรือเพราะอยากจะใส่แว่นกันแดดเท่ห์ๆบ้างละ แต่ถ้าจะให้โยนแว่นออกแล้วหันไปใส่คอนแทกเลนส์แทน ก็คงจะต้องเพิ่มความใส่ใจในการดูแลความสะอาดกันให้มากสักหน่อย ส่วนใครที่คิดอยากจะทำให้สายตาเป็นปกติไปโดยตลอด ก็ต้องลงทุนไปทำเลสิก ซึ่งก็ต้องอาศัยเงินจำนวนไม่น้อยเพื่อแก้ไขปัญหาทางสายตาเช่นกัน วันนี้แอดมินจึงขอแนะนำวิธีการดีๆ ซึ่งเป็นการบำบัดทางธรรมชาติที่จะช่วยให้สายตาของคุณสั้นน้อยลง หรือบางคนอาจจะหายสายตาสั้นไปตลอดชีวิตเลยก็เป็นได้ จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูเลยค่ะ
ก่อนอื่นต้องเรียนรู้ก่อนว่า การที่คนเรามีสายตาที่ผิดปกติไปมีสาเหตุมาจากการที่รูปร่างของ eyeballs เกิดการเปลี่ยนรูปร่างไป ทำให้จุดเกิดภาพในตาตกลงในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม การมองเห็นภาพจึงไม่ชัดเหมือนกับตอนแรก ทีนี้ การที่เราสวมแว่น ใส่คอนแทกเลนส์ หรือการทำเลสิก ก็เป็นการทำให้ภาพที่เคยตกเลยจุดรับภาพกลับมาตกที่จุดเดิมอีกครั้ง ตาของเราจึงสามารถมองเห็นภาพได้ชัดขึ้น แต่วิธีนี้ไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุที่แท้จริง การแก้ไขปัญหาที่แท้จริง คือ การพยายามทำให้ eyeballs เปลี่ยนรูปร่างกลับมาให้เป็นรูปร่างที่ใกล้เคียงของเดิม ซึ่งวิธีการแบบธรรมชาติบำบัดนี้ถูกตีพิมพ์ลงในบทความแห่งหนึ่งของนิตยสารเกี่ยวกับสุขภาพของประเทศสหรัฐอเมริกา จะมีวิธีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย
[ads]
1. ลองถอดแว่นบ้าง
การสวมแว่นเป็นประจำจะทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายเกินไป ลองถอดแว่นแล้วอ่านหนังสือโดยเอาหนังสือออกห่างจากดวงตาให้มากที่สุดเท่าที่จะมองเห็นได้ ฝึกทำบ่อยๆจะช่วยให้กล้ามเนื้อสายตาปรับตัว และทำให้มองเห็นในระยะไกลเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น แต่ต้องพยายามอย่าเพ่งสายตาให้มากเกินไป เพราะนั้นจะทำให้สายตาของคุณสั้นมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน แต่ถ้าคนไหนที่สายตาสั้นไม่เท่ากัน แนะนำให้ลองปิดตาข้างใดข้างหนึ่งก่อน แล้วจึงค่อยอ่านตามวิธีข้างบน ทำเช่นนี้สลับไปมาสองข้าง ก็จะช่วยให้สายตาดีขึ้นได้
2. กระพริบตาบ่อยๆ
โดยปกติร่างกายของเราจะกระพริบตาเองแบบอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่ถ้าหากเมื่อใดที่เราจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากจนเกินไป ร่างกายอาจจะลืมกระพริบตาได้ ซึ่งนั่นจะทำให้อาการสายตาสั้นของคุณเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หากเป็นไปได้ให้พยายามกระพริบตาให้บ่อยขึ้นอย่างน้อย 1 ครั้งต่อ 10 วินาที เพราะถึงแม้อาจจะไม่เห็นผลว่าสายตาของคุณจะสั้นน้อยลง แต่ก็เป็นวิธีการที่ช่วยป้องกันไม่ให้สายตาสั้นมากขึ้นได้ เนื่องจากการกระพริบตาจะช่วยให้กล้ามเนื้อตาผ่อนคลาย และไม่ตึงเครียดจนเกินไป
3. บริหารกล้ามเนื้อตา
วิธีนี้เป็นวิธีสำคัญที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อตาได้เป็นอย่างดี ขอเพียงคุณเจียดเวลาสักเล็กน้อยระหว่างการทำงานมาฝึกการบริหารกล้ามเนื้อตา โดยวิธีฝึกให้มองชำเลืองตาขึ้นข้างบนสัก 5 วินาที ต่อด้วยลงล่างอีกสัก 5 วินาที จากนั้นซ้าย 5 วินาที และขวาอีก 5 วินาที เสร็จแล้วพักตาสักแปบแล้วเริ่มใหม่อีกครั้ง ทำเช่นนี้เป็นประจำวันละอย่างน้อย 10 นาที ก็จะช่วยให้คุณมีสายตาที่สดใสมากขึ้นได้
4. บำบัดด้วยน้ำเย็น
ใครจะไปรู้ว่าการใช้น้ำเย็นก็ช่วยบำบัดอาการสายตาสั้นได้เช่นกัน วิธีการง่ายๆเพียงแค่ก่อนอาบน้ำให้คุณเตรียมน้ำเย็นๆสักหนึ่งกาละมัง จากนั้นทำมือเป็นรูปถ้วยเพื่อช้อนน้ำขึ้นมาแตะๆที่ตา แช่ทิ้งไว้สักพัก และทำเป็นประจำวันละ 2 ครั้ง ความเย็นจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา และช่วยให้คุณไม่สายตาสั้นขึ้นไปกว่าเดิมได้
5. บำบัดด้วยมโนภาพ
ขณะที่กำลังอ่านหนังสือ ให้คุณเลือกคำมา 1 คำแล้วจำเอาไว้ให้ขึ้นใจ จากนั้นให้ยื่นหนังสือออกไปให้ไกลสุดจนมองเห็นแบบเบลอๆแล้วหลับตาลง นึกภาพในใจเอาไว้แล้วลืมตาแล้วเพ่งไปที่คำนั้น กล้ามเนื้อตาจะค่อยๆปรับโฟกัสให้ดีขึ้นอย่างอัตโนมัติ ลองทำทุกวันวันละประมาณ 10 นาที จะช่วยให้สายตาปรับตัวและมองเห็นดีขึ้นได้
6. บำบัดด้วยอุ้งมือ
วิธีนี้แนะนำให้ทำตอนก่อนนอนค่ะ ลองเอนกายสบายๆลงบนเตียงนอนนุ่มๆ แล้วใช้อุ้งมือปิดตาทั้งสองข้างเอาไว้ไม่ให้มีแสงใดๆเล็ดลอดเข้ามาสู่ตาได้เลย การทำเช่นนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อดวงตารู้สึกสบายและผ่อนคลายมากขึ้น หากทำต่อเนื่องกันหลายๆวันจะมีผลให้สายตาของคุณสั้นน้อยลงได้
วิธีการทั้งหมดนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างแท้จริงว่าจะช่วยให้สายตาของคุณดีขึ้นได้ทุกคน และจำเป็นต้องอาศัยเวลา ความอดทน และความต่อเนื่อง ถึงจะช่วยให้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางสายตาได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณจะลองดูก็คงไม่เสียหายอะไร เพราะถึงแม้ว่าวิธีการเหล่านี้จะไม่ทำให้สายตาของคุณสั้นน้อยลง แต่ก็คงไม่ทำให้สายตาคุณสั้นมากขึ้นไปกว่าเดิม และยังเป็นวิธีการที่ช่วยผ่อนความความเครียดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ข้อมูลจาก Dek-D.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย ThaiJobsGov.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ