ยิงเอง!! แจ้ง ตร.เอง!! นักเลงพอ!! ลูกเขยเจ้าของโรงแรม บุกยิงเจ้าของร้านข้าวต้มตาย3 ศพกลางเมืองปาย เผยปมเครียดสะสมเป็นปี!!





 

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 5 ม.ค. 2561 พลตำรวจตรี ปรีชา วิมลไชยจิต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้รับรายงาน จาก สภ.ปาย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ว่าเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ได้เกิดเหตุยิงกันตาย บริเวณร้านข้าวต้ม 25 น.และโรงแรมเรือนแฝด 2 ติดถนนหลวงหมายเลข 1095 ปาย – เชียงใหม่ หมู่ 8 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีผู้เสียชีวิต 3 ศพ

จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ร.ต.อ.รัชพล นุ้ยป้อม พนักงานสอบสวนเวร สภ.ปาย ได้รับแจ้งเหตุจากนายกิตติ อภัยภักดี ซึ่งเป็นลูกเขยเจ้าของโรงแรมเรือนแฝด 2 แจ้งเหตุว่าตนได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. และ ปืนลูกซองยาว ยิงนายบัณฑิต จิระธนดล เจ้าของร้านข้าวต้ม 25 น. , นางเยาวลักษณ์ มูลมิรัตน์ ภรรยานายบัณฑิต ฯ และ นายธนากร วิทยาบำรุง จนเสียชีวิตคาที่

ก่อนเกิดเหตุ ได้มีการยิงปืนขึ้นฟ้า บริเวณหน้าโรงแรมเรือนแฝด 2 ทำให้นายบัณฑิต จิระธนดล และนายธนากร วิทยาบำรุง ลูกจ้างในร้าน ได้เดินทางไปต่อว่า นายกิตติ อภัยภักดี ซึ่งเป็นบุตรเขย ของเจ้าของโรงแรมเรือนแฝด 2 และมีหน้าที่ดูแลกิจการในโรงแรมดังกล่าว ทำให้นายกิตติ  ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ยิงใส่นายบัณฑิต จิระธนดล และ นายธนากร วิทยาบำรุง ลูกจ้างในร้าน จนเสียชีวิตคาที่ จากนั้น นายกิตติ  ผู้ก่อเหตุ ได้กลับเข้าไปในห้องแล้วนำปืนลูกซองยาว เดินมาที่ร้านข้าวต้ม 25 น.และใช้อาวุธปืนยิงนางเยาวลักษณ์ มูลมิรัตน์ จนเสียชีวิตเป็นรายที่ 3

ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ก่อนหน้านั้น นายกิตติ อภัยภักดี และ นายบัณฑิต ได้มีปากเสียงทะเลาะกันมานานนับปี สาเหตุมาจาก เรื่องเสียงดังในร้านข้าวต้ม ไปรบกวนแขกที่พักโรงแรม จนแขกต้องเช็คเอ้าท์ออกโรงแรมกลางดึก ส่งผลให้โรงแรมขาดรายได้ นอกจากนั้น แขกที่มีทานอาหารที่ร้านข้าวต้ม ส่วนใหญ่จะมีอาการมึนเมากินเหล้าและข้าวต้มส่งเสียงดังมาก รวมไปถึงแขกส่วนหนึ่งนำรถไปจอดในที่จอดรถของโรงแรม ทำให้ผู้เข้าพักเมื่อกลับมาไม่มีที่จอดรถ ทำให้นายกิตติ  เกิดความเครียดสะสม จนกระทั่งก่อเหตุโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นในครั้งนี้

แหล่งข่าวในเมืองปาย ที่เคยร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.ปาย ระบุว่า สาเหตุหนึ่งมาจากการเปิดสถานบันเทิงเกินเวลาและเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมายาวนาน ทั้งนี้ถึงแม้ร้านข้าวต้มจะไม่ใช่สถานบันเทิง แต่แขกที่มาทานข้าวต้น ส่วนใหญ่ร้อยละ 90 เป็นนักเที่ยวที่ไปท่องราตรีจนร้านปิดและพากันมากินเหล้าที่ร้านข้าวต้มต่อ และส่วนใหญ่มีการกินต่อเนื่องไปจนถึงรุ่งเช้า ส่งผลกระทบต่อผู้ที่อาศัยข้างเคียง ที่อยู่ระหว่างการนอนหลับพักผ่อน จนกลายเป็นเหตุสลดขึ้นมาในครั้งนี้

ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์

ภาพจาก : ผู้จัดการออนไลน์

 

 

 

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: