ในร่างกายของเรามันช่างมหัศจรรย์ เพราะในหนึ่งคนสามารถกักเก็บอาหารที่อยู่ภายในร่างกายได้อย่างมากมาย โดยอาหารหรือของเสียจะถูกเก็บอยู่ในลำไส้ที่มีความยาวประมาณ 8-10 เมตร ขดพับไปพับมา และถึงแม้ว่าเราจะขับถ่ายออกมาในทุกวัน แต่ก็ยังมีส่วนที่เป็นของเสียตกค้างอยู่ในร่างกายอยู่ดี
เศษอาหารที่เรากินเข้าไปมักจะไปตกค้างอยู่ตามซอกรอยหยักของลำไส้อยู่เสมอ และแบคทีเรียที่ติดอยู่ในผนังลำไส้ก็จะแห้งเกรอะกรังและหมักหมมกลายเป็นของเสียที่ก่อตัวหนา 5-7 มิลลิเมตร พอกพูนอยู่ในหนังลำไส้
น้ำหนักของเสียที่สะสมอาจมากถึง 5-6 กิโลกรัม ทั้งส่งกลิ่นเหม็น และมีสารพิษ กลายเป็นอุจจาระเน่าเสียที่ติดแน่นอยู่ในลำไส้ของเรา และยากที่จะเอาออก
มากไปกว่านั้น อุจจาระเน่าเสียที่สะสมอยู่ในลำไส้อาจจะก่อให้เกิดสารพิษขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ และยังถูกลำไส้ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ลำเลียงไปยังเซลล์ต่างๆทั่วร่างกาย ทำให้สภาวะในลำไส้ย่ำแย่ ระบบทางเดินอาหารเกิดความผิดปกติ ต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ ระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติ จนในที่สุดก่อให้เกิดโรคร้ายต่างๆตามมา
สารพิษหรือท็อกซินนี้ เมื่อสะสมในร่างกายแล้วจะก่อให้เกิดผลร้ายต่อสุขภาพ ซึ่งมีท็อกซินทั้งที่เกิดขึ้นเองภายในร่างกายและท็อกซินจากภายนอก เช่น เซลล์ที่ตายทุกวัน ของเสียที่เกิดจากกระบวนการย่อยและเผาผลาญอาหารหรือกระบวนการชีวเคมีอื่นๆ ของเสียที่เกิดจากการสะสมของกากอาหาร ของเสียที่เกิดจากอาหารไม่ย่อย เกิดการหมักหมมและบูดเน่าในลำไส้ ฝุ่นควันในสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษสารพิษที่ปนเปื้อนมากับอาหาร ฯลฯ
แหล่งที่มาของสารพิษ
1.อาหารที่รับประทานล้นเกินและไม่ได้สัดส่วน เช่น กินเนื้อสัตว์มาก ไขมันล้นเกิน อาหารฟอกขาว (โดยเฉพาะแป้งและน้ำตาล)อาหารกลุ่มนี้จะถูกย่อยเป็นโมเลกุลละเอียดเหนียวหนึบ ยิ่งถ้ารับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย ไม่ชอบรับประทานผักและผลไม้ เมื่อผ่านจากลำไส้เล็กสู่ลำไส้ใหญ่ กากอาหารจะผ่านไปได้ลำบาก เชื้อแบคทีเรียบางจำพวกในลำไส้จะถือโอกาสย่อยสลาย ทำให้บูดเน่า ก่อเป็นสารพิษขึ้นและสารพิษนี้อาจถูกดูดซึมผ่านเข้าสู่กระแสเลือดก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บมากมาย เช่น ภูมิแพ้ มะเร็ง ฯลฯ
2.อาหารปิ้ง ย่าง ทอด จนเกรียมจัดซึ่งมีอนุมูลอิสระมาก อนุมูลอิสระเหล่านี้เป็นพิษภายในร่างกายและเป็นสารก่อโรคร้ายอย่างมะเร็งด้วย
3.สารปรุงแต่งในอาหาร เช่น ผงชูรสสี กลิ่นสังเคราะห์ สารฟอกสี สารกันบูด สารทำให้กรอบ ฯลฯ
4.ฝุ่น ควัน และสารพิษที่เป็นไอระเหย ปนเปื้อนมากับอากาศ
5.สารเคมีที่แปรปรวนภายในร่างกายอันเนื่องมาจากความเครียด
แต่ยังไม่สายเกินไปที่จะแก้ไข…เพราะแพทย์แผนจีนโบราณมีสูตรการขับอุจจาระเน่าเสียที่เรียกว่า "สูตรล้างลำไส้ด้วยน้ำแบบหยินหยาง" จะต้องทำอย่างไร เตรียมตัวอย่างไร ตามมาดูเลยค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. น้ำ 2 ลิตร ที่ทิ้งไว้ 1 คืน ให้เย็นตามอุณหภูมิห้อง
2. น้ำร้อนต้มเดือด 2 ลิตร
3. เกลือ
วิธีการ
1. ใช้น้ำ 2 ลิตร ที่ทิ้งไว้ 1 คืน ให้เย็นตามอุณหภูมิห้อง ผสมกับน้ำร้อนที่เพิ่งต้มเดือด 2 ลิตร
2. เหยาะเกลือลงไปเล็กน้อย
3. ดื่มให้ถูกวิธี คือ ดื่มน้ำสูตรหยินหยาง 4-6 แก้ว ภายใน 1 ชั่วโมง และดื่ม 2-3 อึกให้หมดแก้ว
4. ดื่มให้เป็นเวลาตอนช่วงตี 5 ถึง 7 โมง
5. เมื่อดื่มน้ำสูตรนี้เข้าไปแล้วให้ยืนตัวตรงเป็นธรรมชาติ แล้วใช้เข่าเป็นจุดศูนย์กลางขยับร่างกายขึ้นลงเร็วๆ เพื่อเร่งการขับอุจจาระออกมาจากลำไส้ใหญ่โดยเร็ว
6. ทำเช่นนี้ติดต่อกัน 3 วัน จะสามารถขับอุจจาระเน่าเสียที่ตกค้างในลำไส้ได้
ที่ต้องมีวิธีการดื่มเช่นนี้ ก็เพราะ การดื่มน้ำแบบอึกใหญ่ๆจะทำให้น้ำไหลลงสู่ภายในร่างกายอย่างรวดเร็วและเข้าถึงลำไส้ได้โดยตรง วิธีนี้จึงสามารถชำระล้างอุจจาระที่เน่าเสียภายในลำไส้ได้ดีมากกว่า
[ads]
ลองใช้วิธีนี้ขับของเสียในร่างกายเป็นประจำเดือนละ 1 ครั้ง รับรองว่าคุณจะเห็นผลที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งดีๆที่จะเกิดขึ้น ได้แก่
1. พุงเล็กลง เห็นเอวได้ชัดเจนขึ้น
2. สิวและริ้วรอยจุดด่างดำตามใบหน้าจะดีขึ้น
3. กลิ่นปากและกลิ่นตัวจะหายไป
ทั้งนี้ ก็เพราะคุณได้ขับของเสียที่ตกค้างอยู่ในร่างกายออกไปแล้วไงละ ถ้าอยากสุขภาพดีอยู่เสมออย่าลืมทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จะได้ผลดีมากๆเลย
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก liekr
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ