นายอุทัย นพคุณวงศ์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรร่วมกับ จ.จันทบุรี จัดประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาการส่งออกผลไม้ทั้งเปลือกในภาคตะวันออก เกี่ยวกับหลักปฏิบัติที่ดีและถูกต้อง (จีเอ็มพี) สำหรับโรงคัดบรรจุหรือล้ง เพื่อให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรเข้าใจในกฎระเบียบด้านต่างๆ ทั้งของไทยและประเทศคู่ค้าที่สำคัญ โดยปัจจุบันมีโรงคัดบรรจุผลไม้ทั้งเปลือกประมาณ 135 แห่ง ในภาคตะวันออกและภาคใต้ และคาดว่าปีนี้จะมีผู้ยื่นขอรับรองโรงคัดบรรจุรายใหม่อีกประมาณ 30 ราย
สำหรับผู้ประกอบการที่มีความประสงค์จะส่งออกทุเรียนไปยังตลาดต่างประเทศ จะต้องปฏิบัติตามประกาศกรมวิชาการเกษตรอย่างเคร่งครัด รวมทั้งต้องควบคุมการผลิตทุเรียนให้มีคุณภาพและความปลอดภัยเป็นไปตามข้อกำหนด กฎระเบียบของประเทศผู้นำเข้า โดยเฉพาะเรื่องการใช้สารเคมีต่างๆ ในการกำจัดแมลงและสารกันเชื้อราไม่เกินค่าที่กำหนด และห้ามใช้สีผสมอาหาร (สีสังเคราะห์และสีธรรมชาติ) กับผักผลไม้สด ซึ่งประเทศผู้นำเข้า เช่น ฮ่องกงและจีน มีกฎระเบียบห้ามใช้ขมิ้น (Turmeric/Curcumin) ในผลไม้สด เป็นต้น
“เมื่อเร็วๆนี้ได้รับแจ้งจากกงสุลฝ่ายเกษตรว่า ผู้บริโภคชาวจีนได้ร้องเรียน กรณีซื้อทุเรียนจากร้านค้าที่นำเข้าจากไทย เมื่อนำมาปอกเปลือกพบว่า ที่ผิวเปลือกทุเรียนมีสารสีเหลืองเคลือบ ซึมไปถึงเปลือกขาวชั้นในและเนื้อทุเรียนบางส่วน และมีสีเหลืองเปื้อนติดมือ เมื่อนำผลไปวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการพบว่าเป็นสาร Curcumin (ขมิ้น) และ Auramine O ซึ่งก็คือสีย้อมในอุตสาหกรรมผ้าและพลาสติก โดยเหตุการณ์แบบนี้จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกทุเรียนไทยในอนาคตได้ จำเป็นที่กรม จะต้องหามาตรการเข้มงวดในการป้องกันควบคุมไม่ให้เกิดขึ้นอีก”
ปัจจุบันประเทศไทยส่งทุเรียนออกไปยังจีนและฮ่องกง ซึ่งจีนเป็นตลาดใหญ่มีปริมาณการส่งออกทุเรียน ปี 2559 จำนวน 402,600 ตัน มูลค่า 17,469 ล้านบาทและปีนี้คาดว่าผลผลิตทุเรียนจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 30-40%
ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ