ขึ้นชื่อว่าความเชื่อใจยังไงก็เป็นเรื่องสําคัญ แต่เราอาจคิดว่าความเชื่อใจสําคัญที่สุดในความสัมพันธ์แบบเพื่อน แบบแฟน หรือคนรู้จัก ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วความเชื่อใจในธุรกิจเป็นเรื่องที่สําคัญมากที่สุดอีกอย่างหนึ่งเช่นกัน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราไม่เชื่อใจเพื่อนร่วมงาน พนักงานไม่เชื่อใจเจ้านาย ลูกค้าไม่เชื่อใจบริษัท หรือบริษัทที่ทําธุรกิจร่วมกัน ไม่เชื่อใจกัน ความเชื่อใจจึงไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ที่เราคิดว่าควรมีแค่ในความสัมพันธ์ระหว่างคนใกล้ชิดเท่านั้น แต่ยิ่งความสัมพันธ์เชิง ธุรกิจหน้าที่การงาน ความเชื่อใจก็เป็นกุญแจสําคัญสู่ความสําเร็จอย่างหนึ่งเช่นกัน แต่ความเชื่อใจก็ใช่ว่าจะลอยลงมาจากท้องฟ้า ถ้าอยากให้คนอื่นเชื่อใจก็ต้องลงแรงสร้างกันหน่อย นี่คือ 5 วิธีก่อร่าง สร้างความเชื่อใจในที่ทํางาน (หรือจะนําไปใช้กับที่อื่นก็ได้เหมือนกัน)
อยากให้เขาเชื่อใจเรา เราเชื่อใจเขาเเล้วหรือยัง?
เราต่างเคยต้องเจ็บปวดและผิดหวังจากมนุษย์กันมาแล้วทั้งนั้น โดยเฉพาะการที่เราเชื่อใจเขา แต่เขาไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด ความเชื่อใจจึงไม่ต่างอะไรกับการบริหารจัดการความเชื่อความศรัทธาระหว่างมนุษย์ 2 คน ที่จําเป็นต้องมีปริมาณที่ไปด้วยกันได้ เราไม่จําเป็นต้องมีเครื่องชั่งตวงวัดความเชื่อใจที่ตรงเป๊ะขนาดนั้น การแสดงออกว่าเรากําลังเชื่อใจเขา จะยิ่งง่ายต่อการที่เขาจะเชื่อใจเรากลับ อย่างไรก็ตามความเชื่อใจในระดับแน่นแฟ้นก็จําเป็นต้องอาศัยเวลา ดังนั้นเราก็ควรค่อย ๆ แสดงออกไปอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความรู้สึกปลอดภัยให้อีกฝ่าย แล้วอีกฝ่ายก็จะเชื่อใจเราเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
สร้างพลังบวกให้กับบรรยากาศรอบตัวคุณ
ไม่มีอะไรเเย่ไปกว่าการต้องอยู่ใกล้ ๆ กับคนที่เต็มไปด้วยพลังงานลบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นในที่ทํางาน หรือในชีวิตจริง การมีทัศนคติที่ไม่ดีสามารถทําให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราและเพื่อนร่วมงานพังลงได้ง่าย ๆ ดังนั้นถ้าอยากเริ่มสร้างความเชื่อใจ ก็ควรทําให้คนที่อยู่รอบตัวเรารู้สึกโอเคที่จะทํางานร่วมกับเราก่อน การทําให้คนอื่นหัวเราะได้ มีคําแนะนําที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ดูพึ่งพาได้ และมีพลังบวก ยิ่งทําให้ทุกคนมองว่าเราเป็นคนที่ทําให้ทุกอย่างรอบตัวดีขึ้นมากกว่าแย่ลง จากนั้นเราจะได้รับความเชื่อใจตามมา
ใช้ภาษากายให้เป็นประโยชน์
คําพูดและการกระทําไม่ใช่วิธีเดียวที่เราใช้สื่อสารว่าตัวตนเราเป็นอย่างไร ดังนั้นภาษากายจึงเป็นสิ่งสําคัญอีกอย่างหนึ่งในการบอกว่าคุณเป็นคนจริงใจ เปิดเผย หรือน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นที่มาของความเชื่อใจ ถ้าไม่อยากบังเอิญใช้ภาษากายที่ขับไล่ผู้คนให้ออกห่างโดยไม่รู้ตัวก็ระวังภาษากายให้ดี ภาษากายที่ดีควรให้ความสําคัญกับการสบตาคู่สนทนาในแบบที่ไม่จ้องมากไป หรือหลบตาจนดูหลุกหลิก รวมถึงรอยยิ้ม และการใช้น้ำเสียงที่สุภาพร่วมด้วย
แม้ทุกคําแนะนําจะเป็นประโยชน์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าทุกอย่างจะได้ผล ก็ต่อเมื่อใช้เวลา ความอดทนและความสม่ำเสมอที่จะทําสิ่งดี ๆ เพื่อผู้อื่น จึงเป็นสิ่งจําเป็นมากในการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ แต่ความสัมพันธ์ทั้งทางธุรกิจการงาน หรือชีวิตจริงที่มีความเชื่อใจต่อกัน ก็เป็นความสัมพันธ์ที่คุ้มค่าที่จะลงทุนด้วยเวลา ดังนั้นอย่าใจร้อนเกินไปอดทน และทําดีอย่างสม่าเสมอ ผลตอบแทนจากความเชื่อใจจะไม่ทําให้เรารู้สึกเสียดาย
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ