วันที่ 19 เมษายน 2560 มีรายงานว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. จะพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ที่จะเรียกเก็บบิลค่าไฟกับประชาชนรอบใหม่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2560 โดยมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 10 สตางค์ต่อหน่วย จากต้นทุนจริงที่ต้องปรับขึ้น 20 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งหากปรับขึ้นตามต้นทุนจริงอาจเป็นอัตราที่สูงเกินไป อาจใช้แนวทางให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แบกรับภาระไปก่อน รวมทั้งต้องพิจารณาว่าจะมีวงเงินใดเข้ามาชดเชยเพิ่มเติมได้หรือไม่ คงต้องรอผลการพิจารณาจากที่ประชุมเป็นข้อสรุปอีกครั้ง
[ads]
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการ กกพ. ในฐานะโฆษก กกพ. เผยว่า ค่าเอฟทีมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้นจากงวดที่ผ่านมา (มกราคม- เมษายน 2560) ที่ค่าเอฟที อยู่ที่ -37.29 สตางค์ต่อหน่วย แต่จะเป็นอัตราใดต้องรอผลการพิจารณาจากที่ประชุมอีกครั้งหนึ่ง สำหรับสาเหตุที่ปรับขึ้นนั้น มาจากราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้น ตามสูตรปรับราคาน้ำมันเตาย้อนหลัง 6-12 เดือน ที่เป็นช่วงจังหวะขาขึ้นของราคาก๊าซ และมีแนวโน้มว่าราคาจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึงสิ้นปีนี้
นอกจากนี้อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท โดยปกติแล้วมีผลต่อค่าไฟฟ้า โดยเฉพาะหากมีทิศทางแข็งค่าจะมีผลดีต่อต้นทุนที่ลดต่ำลงในภาพรวมในการจัดซื้อเชื้อเพลิง และการนำเข้าจากต่างประเทศ แต่งวดนี้กลับพบว่า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวคงที่ในระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับงวดที่ผ่านมา
ขณะที่ล่าสุด เมื่อเวลา 13.55 น. มีรายงานว่า มติ กกพ. ปรับขึ้นค่าเอฟที ในเดือนพฤษภาคม-เดือนสิงหาคม อีก 12.50 สตางค์ ส่งผลให้ค่าไฟจะขึ้น 3.5079 บาทต่อหน่วย
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ