จากกรณีที่ได้ออก ม.44 เกี่ยวกับจราจรนั้น ล่าสุดทางด้านของ ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้โพสเฟสบุ๊คเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ” อย่าว่าแต่ห้ามนั่งท้ายกระบะเลยครับ ถ้าเอาตามกฎหมายจริง ๆ รถกระบะมีแคป (ตอนครึ่ง ) ป้ายทะเบียนพื้นสีขาว ตัวหนังสือสีเขียวก็จดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล
ที่มีที่นั้งเพียง ตอนหน้า คือ ผู้โดยสาร กับคนขับ รวมกันได้ เพียง 2 คน
ไม่เหมือนรถกระบะ 4 ประตู ป้ายทะเบียนขาว ตัวหนังสือสีดำ ที่จดทะเบียนเป็น “รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง”
รถกระบะแคป ที่ไม่ระบุจำนวนที่นั่ง จึงต้องถือเอาตามที่นั่งจริง คือ 2 ที่นั่ง
ส่วนกระบะท้าย และ แคป ไม่ถือว่าเป็นที่นั่งผู้โดยสาร
ยิ่งรัฐบาล โดยหัวหน้า คสช.ประกาศบังคับใช้มาตรา 44 ห้ามนั่งกระบะท้าย หรือภายในแคป ตำรวจยิ่งตีปีก รับ!!!
ความจริงรถกระบะ ไม่ว่า 4 ประตู หรือ 2 ประตู + แคป ควรเป็นรถเอนกประสงค์ ตามเจตนาผู้ผลิต และผู้ซิ้อ
ถ้ารัฐบาลจะออกกฎหมายห้าม ก็ควรแก้กฎหมาย หรือกฎระเบียบอื่นๆ ให้สอดคล้องกับ กฎหมายและความเป็นจริง
ไม่ใช่ กรมการขนส่งออกระเบียบอย่างอื่น แต่หน่วยงานอื่น ออกระเบียบไม่สอดคล้อง
ตอนนี้กลายเป็นว่า รถกระบะมีแคป เป็นรถมีเวรกรรม
นั่งท้ายกระบะก็ไม่ได้ นั่งในแคป ก็ไม่ได้
สรุป นั่งได้ 2 คน เท่ารถมอเตอร์ไซด์
แต่เสียภาษี แพงกว่ามอเตอร์ไซด์ หลายเท่า
แม้แต่เบี้ยประกันภัย กรมการประกันภัยก็ไม่ได้ช่วยอะไร / บริษัทประกันภัย คิดเบี้ยประกันภัยเท่ากับคุ้มครองผู้โดยสาร 10 -12 คน ทั้งๆ ที่กฎหมาย ให้นั่งโดยสารได้ไม่เกิน 2 คน
เรื่องนี้จึงเป็นประเด็นถกเถึยงกันต่างๆนาๆบนโซเชียวมีเดียร์
มาดูคอมเม้นกันบ้างว่าจะเป็นเช่นไร
ขอบคุณข้อมูล : เกิดผล แก้วเกิด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ