หมอธีระวัฒน์ เตือนคนไทยวัย30-40 ปี ความดันสูงต้องรีบรักษา อนาคตอาจสมองเสื่อม

Advertisement 21 กันยายน น.พ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ 30 ถึง 40 ความดันสูงไม่จัดการ สมองเสื่อมแน่ โดยมีเนื้อหาดังนี้ Advertisement ภาวะความดันโลหิตสูง เป็นภัยเงียบที่ผู้คนไม่ค่อยสนใจ ทั้งนี้ มักมีความเข้าใจผิดว่าไม่เห็นมีปวดหัวเลย ก็ไม่จำเป็นต้องวัดความดัน การที่ไม่ปวดหัวนั้น เป็นเพราะว่าความดันโลหิตนั้นค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย จะไม่มีอาการผิดปกติใดๆทั้งสิ้น และในที่สุดแล้ว เส้นเลือดที่อ่อนนุ่มก็จะเริ่มแข็งโดยจะมีหินปูนมาจับหรือไม่ก็ตาม และนำไปสู่เส้นเลือดหัวใจตีบตันหัวใจวาย เส้นเลือดสมองตันเกิดอัมพฤกษ์ โดยที่ตัวร้ายนี้สะสมอยู่นานเป็น 10 ปีค่อยเผยตัว ความดันสูง ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสมอง ทั้งนี้มีหลักฐานชัดเจนขึ้นเรื่อยมา จากการตรวจคอมพิวเตอร์สมอง ด้วยวิธีต่างๆ โดยพบความเชื่อมโยงกันชัดเจนระหว่างความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้ควบคุมตั้งแต่อายุ 30 ถึง 40 ปี กับพยาธิสภาพของอัลไซเมอร์ และสมองเสื่อมอื่นๆ และความเปลี่ยนแปลงผิดปกติในสมองส่วนสีขาว โดยการวัดการเคลื่อนตัวของน้ำ ตามเส้นใยของสมอง จากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกส่วน (fractional anisotropy) ประสิทธิภาพในการควบคุมปริมาณเลือดไปยังสมองส่วนต่างๆในแต่ละสถานการณ์ และช่องว่างรอบเส้นเลือดในสมอง ที่ปฏิบัติตัวเป็นท่อระบายขยะจากสมองไปทิ้ง […]

หมอธีระวัฒน์เผย ท้องผูกตั้งแต่3วันขึ้นไป สมองเสื่อมเร็ว เทียบเท่ากับสมองแก่ไป3ปี

28 ส.ค. 2566 – นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์เฟซบุ๊กให้ความรู้เรื่องท้องผูก ไม่ถ่าย สมองเสื่อม โดยระบุข้อความดังนี้ การติดตามผู้คนที่ท้องผูกตั้งแต่สามวัน หรือมากกว่าพบว่าสมองเสื่อมเร็ว เทียบเท่ากับสมองแก่ไป 3 ปี (significantly worse cognition, equivalent to 3.0 years more of cognitive aging) ทั้งนี้คนที่ถ่ายวันละสองครั้งจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นนิดหน่อย โดยพบว่ามีความสัมพันธ์กับจุลินทรีย์ในลำไส้ที่ผลิตสารอักเสบ เพิ่มขึ้น รายงานในที่ประชุมสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ Amsterdam เดือน ก.ค. 2023 และเป็นเหตุผลที่ต้องเน้นอาหารสุขภาพ ผัก ผลไม้กากใย ลดงดเนื้อสัตว์ แต่กินปลาแทน และแน่นอนร่วมกับการออกกำลังตามธรรมชาติ (move naturally) เดิน เดิน เดิน ยังไม่ต้องถึงกับออกกำลังรุนแรงคาร์ดิโอ moderate to intense ถ้าอายุและสังขารไม่อำนวย หรือมีความเสี่ยงของเส้นเลือดตีบในสมองหรือหัวใจอยู่แล้วซึ่งออกกำลังรุนแรงจะยิ่งทำให้เส้นเลือดตันไปอีก […]

เผย รพ.เอกชน สั่งซื้อ”โมลนูฯ” จากรัฐชุดละหมื่นกว่า แต่หมอหาซื้อเองแค่2,000กว่า

วันที่ 20 ก.ค. นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha โดยระบุว่า ขอร้องทางการช่วยทำให้โควิดเป็นเรื่องปกติ (ด้วยความเคารพครับ) น้องๆหมอบอกว่า โรงพยาบาลเอกชนสั่งซื้อโมลนูพิราเวียร์ทำจากอินเดีย ยี่ห้อ mylan จากทางการไทย ได้ราคาชุดละ 10,600 บาท แต่หมอกันเองซื้อกันประมาณ 2,000 กว่าบาท ต่อชุด (40 เม็ด) หรือถูกกว่า จาก สปป.ลาว เขมร อินเดีย (ยี่ห้อ เดียวกัน) เวียดนาม ประเทศเหล่านี้ขอความยินยอมจากบริษัทในการผลิตยาเองตั้งแต่ต้น ทำอย่างไรประเทศไทยถึงจะได้ราคาถูกแบบนี้ และสามารถสั่งจ่ายได้เลยทั้งที่โรงพยาบาลทุกแห่ง และที่สำคัญก็คือร้านขายยาทุกแห่ง ทั้งนี้ หลักเกณฑ์คือสีเหลืองขึ้นไป ไม่ใช่ใช้เกินความจำเป็น จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องดื้อยา และไม่ต้องกังวลว่าจะมียาปลอมหรือไม่ คนที่รู้จักสนิทกลับมาจากเวียดนามสองวันที่แล้ว ยืนยันราคาตามนี้ขายตามร้านขายยาทั่วไป คนในประเทศเห็นเป็นเรื่องปกติแล้ว ไม่สบายซื้อยาและได้ยาตามความเหมาะสมเลย ไม่ใช่รออาการหนัก จนยาเหล่านี้ไม่ได้ผล (เพราะต้องใช้แต่เนิ่นๆ) […]

หมอธีระวัฒน์ เตือน โอมิครอน BA .4 – BA.5 แม้ฉีด 6 เข็มยังป้องกันไม่ดีพอ

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha โพสต์ข้อความหลังจากที่ติดโควิดโอมิครอน BA .4 – BA.5 โดยระบุว่า หมอเองติดไปแล้วตั้งแต่ 10 มิถุนายน และเช่นเดียวกับอีกหลายคน ตั้งแต่ค้นเดือนมิถุนายน แม้ว่าหลายคนจะฉีดเข็มที่สี่หรือห้าหรือหก ไปแล้ว พิสูจน์ว่า วัคซีนกัน “การติด” โอมิครอนไม่ดี โดยเฉพาะสายย่อยนี้ แต่อานิสงส์ของการฉีดวัคซีน ”สามเข็มโดยเข็มสุดท้ายเป็น mRNA” จะลดความเสี่ยงอาการหนักได้ แต่ถ้าอาการมากขึ้นอย่านิ่งนอนใจ “ถ้าฉีดเชื้อตายให้เริ่มนับใหม่” ถ้าฉีด AZ ต้องตามด้วย mRNA และถ้าจะให้หลีกเลี่ยงผลข้างเคียงของวัคซีนให้ได้มากที่สุดควรต้องฉีด”ชั้นผิวหนัง” สรุปบทเรียนจากเดือน มิ.ย. นี้จากตัวเอง และรอบข้างที่ติด 1.อย่าเชื่อ ATK ถ้ายังขีดเดียวและมีอาการไม่สบายให้รีบแยกตัว เริ่มฟ้าทะลายโจร อย่ากินตามฉลาก ให้เทียบว่ายี่ห้อนั้นมี แอนโดรกราโฟไลท์ เท่าไหร่ ให้ทาน = 60 มก. […]

หมอธีระวัฒน์ เปิดงานวิจัยญี่ปุ่น “งดข้าวเช้า เสียชีวิตเร็ว” จริงหรือ?

นพ.ธีระวัฒน์ เปิดงานวิจัยญี่ปุ่น ‘งดข้าวเช้ากลับตายเร็ว’ วันที่ 20 มิ.ย. นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก “ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha” ระบุว่า งดข้าวเช้า..กลับตายเร็ว ​พูดกันมานานและฝังใจกันมาตลอดว่าอาหารเข้าเป็นมื้อสำคัญที่สุด ในแง่ของการคุมน้ำหนัก แจ่มใส ทนงาน ไม่ล้า และลดความเสื่ยงต่อการเกิดความดันสูง โรคหัวใจ ไขมันสูง เบาหวาน เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม หลักฐานเชิงประจักษ์ตัวเป็นๆ ที่จะแสดงให้เห็นคุณงามความดียังไม่เป็นที่ชัดเจน จวบจนกระทั่งมีรายงานหลักฐานจากการศึกษาที่ญี่ปุ่นตีพิมพ์ในวารสารโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke 2016) แสดงให้เห็นชัดว่า ถ้าไม่กินตอนเช้า จะเสี่ยงต่อการเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ทั้งจากเส้นเลือดแตก และตันในสมอง รวมทั้งโรคหัวใจ   ข่าวจาก : มติชน

หมอธีระวัฒน์เผย ATK ตรวจเด็กที่ติดเชื้อไม่มีอาการ แสดงผลได้แค่50%

‘หมอธีระวัฒน์’ เผยพบเอทีเคในเด็กที่ติดเชื้อโควิดแต่ไม่มีอาการ มีความไว-แม่นยำแค่ 50% ที่ผ่านการรับรองในแต่ละประเทศ ทั้งที่ข้างกล่องระบุความไวถึง 95-97% เมื่อวันที่ 1 ก.พ.65 นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุว่า ความไวและแม่นยำของเอทีเคในเด็กมีเพียง 50% นิดๆ ATK ที่ผ่านการรับรองของทางการในแต่ละประเทศ และดูตามข้างกล่องมีความไวสูงถึง 95 ถึง 97% ด้วยซ้ำ รายงานจากประเทศอังกฤษ จากการรวบรวมและวิเคราะห์อภิมานสรุปว่า การตรวจในเด็กที่ไม่มีอาการ พบว่ามีความไวเพียง 56.2% โดยยังมีความจำเพาะ 98.6% นั่นคือตรวจเจอได้มากกว่าครึ่งเดียวเล็กน้อย แต่ถ้าตรวจเจอค่อนข้างมั่นใจว่าติดแน่ มาตรฐานขององค์การอนามัยโลกและสำนักอาหารและยาต้องมีความไว (Sensitivity) อย่างน้อย 80% และความจำเพาะ (Specificity) อย่างน้อย 97% แต่ถ้าเด็กมีอาการจะมีความไวเพิ่มขึ้นเป็น 71.8% แต่ก็หมายความว่าก่อนหน้ามีอาการได้แพร่ไปสู่คนอื่นเรียบร้อยแล้วหลายวัน นอกจากนี้ นพ.ธีระวัฒน์ยังระบุว่า ความเสถียรบนพื้นผิวของโอมิครอน จากรายงานของคณะผู้วิจัยจากประเทศญี่ปุ่นพบว่าโอมิครอนเก่งกว่าสายก่อนหน้านั้นมาก […]

หมอธีระวัฒน์ เผย ผลกระทบจากวัคซีน มีจริง และจากทุกยี่ห้อ

หมอธีระวัฒน์ เผย ผลกระทบจากวัคซีน มีจริง และจากทุกยี่ห้อ ระบุ วัคซีนคือตัวจำลองของไวรัส โควิดเกิดอะไร วัคซีน ถ้าเกิดเรื่อง ก็เป็นแบบเดียวกัน วันที่ 20 ธ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุว่า ผลกระทบจากวัคซีน มีจริง และจากทุกยี่ห้อ นี่คือทำไมต้องชั้นผิวหนัง ใช้ปริมาณน้อย สร้างภูมิเท่า ปลอดภัยกว่ามาก เพราะกระตุ้นภูมิคนละระบบ จากที่ฉีดเข้ากล้ามเกิดเรื่อง 1- แพ้ ช็อก หายใจไม่ออกทันทีหรือในวันนั้น รวมทั้งเส้นเลือดหดเกร็ง อาการคล้ายอัมพฤกษ์ 2-ปฏิกิริยาข้างเคียง ภายใน 10-12 วันแรก ตามระบบการอักเสบ innate เลือดข้น ลิ่มเลือด น้ำรั่วจากเส้นเลือด บวม ในอวัยวะต่างๆ รวมสมอง สมองอักเสบ หัวใจอักเสบ […]

‘หมอธีระวัฒน์’ เผยสถานการณ์โควิดปี’65 จบหรือเริ่มใหม่? หรือจะเกิดคู่หูระบาด

‘หมอธีระวัฒน์’ ชี้โควิดปี’65 จะไม่จบถ้าโอไมครอนแทนที่เดลตาไม่สนิท และเดลต้าปรับความรุนแรงขึ้นจะเกิดคู่หูระบาด ประกอบร่างใหม่เป็นไฮบริด เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.64 นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ข้อความระบุว่า สถานการณ์โควิด 2565 จบหรือเริ่มใหม่? 19/12/64 จบ…ถ้าโอไมครอน มาแทนกลุ่มอื่นได้หมดจด ทั้งนี้ คนที่เคยติดเชื้อมาก่อนสามารถกันโอไมครอนได้เพียง 19% และวัคซีนมาตรฐาน ในต่างประเทศสองเข็มลดการติดเชื้อที่มีอาการได้ 30% และประมาณว่าถ้าได้เข็มสามจะได้ 70% แต่บอกไม่ได้ว่าอยู่นานเท่าใด ทั้งนี้ โดยต้องแบกรับจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลและมีอาการหนัก ถึงแม้เปอร์เซ็นต์จะน้อยกว่าเดลต้า แต่อธิบายจากจำนวนติดเชื้อมหาศาล และจำนวนผู้ป่วยอาการหนักที่เกิดขึ้นจากเดลต้า เดิมที่พักฟื้น ตามวัฏจักรเชื้อโควิด ที่กลายเป็นติดเชื้อโดยไม่มีอาการและต่อมาปรับตัวเป็นรุนแรงใหม่ ดังที่เห็นจากประเทศตะวันตกต่างๆ แล้วถ้าเป็นเช่นนั้นจริงที่โอไมครอนแทนที่ได้หมด จะมีภูมิต่อโอไมครอน ทั้งพื้นที่ ทั้งประเทศ จะไม่จบ….ถ้าโอไมครอนแทนที่เดลต้าได้ไม่สนิท และเดลต้ายังปรับความรุนแรงขึ้นได้ จะเกิด “คู่หูระบาด” (twin endemic) และจะซับซ้อนขึ้นถ้าคู่หูประกอบร่างใหม่เป็นไฮบริด ทั้งนี้ […]

นพ.ธีระวัฒน์ ถามปิดร้านอาหารทำไม ไม่ควรเหมารวมตัวอย่างไม่ดี

นพ.ธีระวัฒน์ ถามปิดร้านอาหารทำไม? ไม่ควรเหมารวมตัวอย่างไม่ดี ซ้ำเติมปชช.-ลูกจ้าง ที่มีอาชีพสุจริตและปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดมาตลอด เมื่อวันที่ 23 ส.ค.64 นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์เฟซบุ๊ก นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ว่า ปิดร้านอาหารทำไม? การตัดสินใจปิดไม่ให้ประชาชนนั่งทานในร้านอาหาร อาจจำเป็นต้องพิจารณาข้อมูลให้ถี่ถ้วน จริงอยู่มีผู้ประกอบการอยู่บ้างที่ไม่เข้มงวด ในเรื่องของจำนวนคนที่เข้าร้าน ทำให้การรักษาระยะห่างไม่ได้ผลและไม่ได้ควบคุมวินัย แต่ตัวอย่างดังกล่าวไม่ควรนำมาถึงการห้ามทั้งหมด ในเมื่อสามารถที่จะควบคุมให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดได้…ไม่ใช่หรือ? และในเมื่อเราก็ทราบอยู่เต็มอกแล้วว่า ชีวิตชาวโลกคงต้องอยู่กับโควิดไปอีกนาน และประเทศไทยเองก็ยังคงมีข้อจำกัดในเรื่องของวัคซีนทั้งจำนวนและความหลากหลายของวัคซีน การทำให้การดำรงชีวิตของคนไทยเข้าใกล้ปกติอย่างปลอดภัย ทั้งตนเองและมีความรับผิดชอบต่อสังคมกลับเป็นเรื่องที่ต้องส่งเสริมมากกว่า….ไม่ใช่หรือ? การดูตัวอย่างที่ไม่ดี แต่ตีคลุมไปว่า เลวร้ายไปทั้งหมด นอกจากจะไม่ช่วยการควบคุมโรค แต่น่าจะเป็นการซ้ำเติมประชาชนและลูกจ้างที่มีอาชีพสุจริตและปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดมาตลอด และแม้แต่การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ซึ่งสามารถควบคุมให้ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดก็ยังได้ แต่มองเปรียบเสมือนว่าเป็นร้านขี้เหล้าเมายาไปทั้งหมด   ข่าวจาก : ข่าวสด

‘หมอธีระวัฒน์’ เผยอาการ คนใช้ฟ้าทะลายโจร เตือนห้ามคิดว่าปกติ

‘หมอธีระวัฒน์’ เผยอาการ คนใช้ฟ้าทะลายโจร เตือนห้ามคิดว่าปกติ และใช้ชีวิตเหมือนเดิม ยังต้องกักตัวต่อ 14 วัน ทั้งยังต้องระวังตัวเองสูงสุด วันที่ 19 ก.ค.64 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า คนที่ใช้ฟ้าทะลายโจร เริ่มมีอาการนิดหน่อย 1-ไม่ได้ตรวจและคิดว่าตนเองติดแน่ๆ เนื่องจากคนที่ใกล้ชิดเป็น หรือ 2-ตัวเองตรวจว่าเป็นแน่ หลังจากใช้ไปห้าวันแล้ว และอาการปกติ ห้ามคิดว่าหายและใช้ชีวิตเหมือนเดิม ยังคงต้องกักตนเองต่อให้ครบ 14 วัน และหลังจากนั้นต้องระวังตัวเองสูงสุดไม่ให้แพร่เชื้อที่ยังหลงเหลือไปหาคนอื่น ยังคงใส่หน้ากากสองชั้นไม่อยู่ใกล้คนอื่นอย่างเด็ดขาด ต่ออีก 14 วัน จะเป็น 14 บวก 14 วัน   ข่าวจาก : ข่าวสด

1 2
error: