‘วิษณุ’ ชี้’ธรรมนัส’ เคยโดนคดีต่างประเทศ ไม่กระทบคุณสมบัติ รมต. เพราะศาลไทยไม่ได้ตัดสิน
Advertisement Advertisement
Advertisement Advertisement
กรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวบรรยายเรื่อง นโยบายระดับประเทศและการปฏิรูปประเทศ ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ภายในงานเปิดโครงการอบรมหลักสูตรนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง (นยปส.) รุ่นที่ 10 ว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 62 ที่นายวิษณุ กล่าวยกตัวอย่างความหมายของการทุจริต ที่ประชาชนมักสับสน ซึ่งได้อ้างอิงกรณีนาฬิกา หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องของการทุจริต แต่กฎหมายได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน แต่หากไม่ยื่น ก็ไม่ทุจริต แต่ผิดที่ไม่ได้ยื่น ซึ่งการโยงไปสู่การทุจริตหรือไม่ สุดท้ายเป็นเรื่องของการสืบสวนสอบสวน วันที่ 2 ก.พ. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง โพสต์แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว ระบุข้อความว่า “หลายครั้งที่ผมเห็นท่านผู้ทรงคุณวุฒิท่านนี้ ตีความกฎหมาย แบบเอนเอียง ยุคสมัยเปลี่ยนไป อุดมการณ์คนก็เปลี่ยนตาม ตำหรับ ตำรา ที่ท่านแต่งไว้ หรือคำบรรยายวิชากฎหมาย ของท่าน มันยังใช้อ้างอิงได้ใหม หรือมันใช้ไม่ได้แล้ว เพราะโลกมันเปลี่ยนไป ผมจะได้เผาตำราท่านทิ้ง ครับ #พายเรือให้โจรข้าม #ไม้หลักปักเลน“ […]
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวบรรยายเรื่อง นโยบายระดับประเทศและการปฏิรูปประเทศ ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ภายในงานเปิดโครงการอบรมหลักสูตรนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง (นยปส.) รุ่นที่ 10 ว่า การป้องกันและปราบปรามการทุจริต เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยการกระทำมากกว่าการเรียนหรือการศึกษา แต่การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ก็มีความเป็นศาสตร์และศิลป์ ซึ่งปัจจุบันในสังคมยังไม่เข้าใจถึงความหมายของการทุจริต จนเกิดความสับสนในเรื่องประพฤติทุจริตและประพฤติมิชอบ เช่น กรณีนาฬิกา หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องของการทุจริต ซึ่งกฎหมายได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน แต่หากไม่ยื่น ก็ไม่ทุจริต แต่ผิดที่ไม่ได้ยื่น ซึ่งการโยงไปสู่การทุจริตหรือไม่ สุดท้ายเป็นเรื่องของการสืบสวนสอบสวน ขณะเดียวกัน องค์ความรู้ผู้เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นสากล ป.ป.ช. ได้เสนอเรื่องมายังคณะรัฐมนตรี ให้จัดการสอนวิชาเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อให้รู้เท่าทัน ครม.รับหลักการให้กระทรวงศึกษาไปดำเนินการสอดแทรกเรื่องนี้ไปในการเรียนการสอน หรือตั้งเป็นวิชาใหม่ ข่าวจาก : มติชนออนไลน์