ย่าน้องเตย เด็ก4ขวบข่าวดัง ดีใจน้ำตาไหล ดวงตากลับมามองเห็นแล้ว

Advertisement 28 มิ.ย.2566 จากเรื่องราวของครูอุ้ม ที่ได้เผยให้เห็น น้องเตย เด็กหญิง 4 ขวบ อาศัยกับคุณย่าตาบอด 2 คนย่าหลาน มีความเป็นอยู่ที่ลำบาก จนมีการแชร์เป็นจำนวนมากในโซเชียล กระทั่งสังคมให้ความสนใจ ต่อมาหน่วยงานต่างๆและผู้ใจบุญ ได้เข้าช่วยเหลือย่าหลานนั้น Advertisement 28 มิ.ย.2566 จากเรื่องราวของครูอุ้ม ที่ได้เผยให้เห็น น้องเตย เด็กหญิง 4 ขวบ อาศัยกับคุณย่าตาบอด 2 คนย่าหลาน มีความเป็นอยู่ที่ลำบาก จนมีการแชร์เป็นจำนวนมากในโซเชียล กระทั่งสังคมให้ความสนใจ ต่อมาหน่วยงานต่างๆและผู้ใจบุญ ได้เข้าช่วยเหลือย่าหลานนั้น Advertisement ล่าสุดผู้ใช้ติ๊กต็อก aekpalungjit ได้แจ้งข่าวดีว่า คุณย่าน้องเตยกลับมามองเห็นอีกครั้งแล้ว หลังได้รับการรักษาดวงตาที่เกือบจะบอดแต่ยังมองเห็นแสงไฟได้ โดยในคลิปเห็นภาพที่คุณย่าน้องเตยขณะกำลังกอดกับเพื่อนบ้านและร้องไห้ออกมาด้วยความปลื้มใจและดีใจ เนื่องจากกลับมามองเห็น ระบุ “โลกมืดกลับมาสว่างอีกครั้ง จากนี้ไปห้ามเรียกยายเสาตาบอดเพราะยายมองเห็นแล้ว น้ำตาไหลเลย” คลิป   ข่าวจาก : ข่าวสด

ความหวังคนปลูกผม! นักวิทย์ทดลองยารักษาผมร่วงตัวแรกดีเกินคาด ดกเต็มใน6เดือน

นักวิทย์เฮลั่น ยารักษาผมร่วงตัวแรกดีเกินคาด-ดกเต็มศีรษะใน6เดือน นักวิทย์เฮลั่น – วันที่ 26 พ.ค. เดอะซันรายงานความสำเร็จการทดสอบยารักษาโรคผมร่วงที่ประเทศสหรัฐอเมริกาว่าได้ผลดีเกินคาด โดยพบว่าผู้เข้ารับการทดสอบเกือบครึ่งหนึ่งมีผมงอกกลับขึ้นมาจนเต็มศีรษะได้ภายในระยะเวลา 6 เดือน คณะนักวิทยาศาสตร์ผู้ทดสอบจากบริษัทยา Concert Pharmaceuticals ระบุว่า เป็นพัฒนาการใหม่ที่สำคัญอย่างยิ่งในการรักษาอาการศีรษะล้านจากโรคผมร่วงเป็นหย่อม (alopecia areata) พบได้ทุกเพศทุกวัย โดยในอังกฤษนั้นพบได้ 15 ในประชากรทุกหมื่นคน โรคผมร่วงเป็นหย่อมดังกล่าวมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกันที่เข้าทำลายรากผมส่งผลให้เกิดอาการผมร่วง โดยบางคนอาจมีผมร่วงเป็นหย่อมๆ แต่อาการอาจไม่รุนแรงและผมสามารถงอกกลับขึ้นมาได้ แต่ในบางคนที่อาการรุนแรงก็จะนำไปสู่ศีรษะล้านได้ ปัจจุบันยังไม่มียาตัวใดที่รักษาโรคชนิดนี้ได้โดยตรงมีเพียงยาที่ช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผม โดยบริษัท Concert Pharmaceuticals ผู้พัฒนายา CTP-543 เดินหน้าทดสอบทางคลินิกในระยะที่สามซึ่งเป็นระยะสุดท้ายก่อนจะขึ้นทะเบียนจากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) การทดสอบมีผู้เข้าร่วม 706 คน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มรับยาขนาด 8 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง อีกกลุ่มรับยา 12 มก. วันละ 2 ครั้ง และกลุ่มสุดท้ายนั้นรับยาหลอก (placebo) […]

สบส.เตรียมประชุมแก้ประกาศเลิกผูกค่ายาในค่ารักษา14ก.พ.นี้ เปิดทางให้ผู้ป่วยนำใบสั่งยาไปซื้อยานอก รพ.ได้!

  สบส.เผยเตรียมประชุมคณะกรรมการสถานพยาบาล แก้ประกาศเลิกผูกค่ายาเป็นส่วนหนึ่งของค่ารักษา เปิดทางผู้ป่วยนำใบสั่งยาไปซื้อที่ร้านขายยาได้ แต่ย้ำผู้ป่วยสามารถไปซื้อยานอก รพ.ได้อยู่แล้ว 1 ก.พ.62 นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการพิจารณากำหนดมาตรฐานยาและเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ ซึ่งประชุมนัดแรกเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยให้ สบส.กำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ป่วยนำใบสั่งยาไปซื้อยาที่ร้านขายยาข้างนอก รพ.ได้ ว่า ปกติแล้วประชาชนหรือผู้ป่วยสามารถซื้อยาที่ร้านขายยาได้อยู่แล้ว แต่เนื่องจากว่า ที่ผ่านมามีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเมื่อปี 2561 ที่ไปผูกค่ายาเป็นส่วนหนึ่งในค่ารักษา ดังนั้น คณะกรรมการสถานพยาบาล จะมีการประชุมกันในวันที่ 14 ก.พ. เพื่อพิจารณาปรับแก้ประกาศได้ โดยไม่ต้องออกประกาศใหม่ นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะเหตุผลที่สมาคมโรงพยาบาลเอกชนระบุว่า หากมีการออกไปซื้อยาจากร้านขายยาแล้ว ทาง รพ.ไม่สามารถรับผิดชอบผู้ป่วยรายนั้นได้ เพราะไม่ทราบว่า ร้านขายยาจ่ายยาแบบใด มาตรฐานเป็นอย่างไร ก็นับว่าเป็นเหตุผลที่ฟังได้ ประชาชนอาจจะต้องรับผิดชอบตัวเอง แต่เพื่อป้องกันผลกระทบ เราต้องพิจารณารอบคอบ อาจจะมีมาตรการให้เกิดการพูดคุยจนเกิดความเข้าใจกันก่อน ระหว่างแพทย์และผู้ป่วย อีกส่วนหนึ่ง คือ การทำให้ร้านขายยามีคุณภาพ แต่เรื่องประเภทยา อาจจะมีบางประเภท […]

เปิดเผยได้ ไม่หมกเม็ด!! กรมการค้าภายในขีดเส้น รพ.เอกชนต้องเผยข้อมูลราคายา-ค่ารักษาผ่านเว็บไซต์ เริ่ม13เม.ย.62

  กรมการค้าภายในเผย โรงพยาบาลเอกชนต้องเผยแพร่ข้อมูลราคายาและค่ารักษาพยาบาลที่จำเป็นผ่านเว็บไซต์ 13 เม.ย. 2562 เพื่อให้ประชาชนเปรียบเทียบ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้หารือร่วมกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน และตัวแทนผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชน ถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาค่ายาและค่ารักษาพยาบาลสูงเกินจริงตามที่มีประชาชนร้องเรียนมา ซึ่งผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมประมาณ 100 กว่าแห่งทั่วประเทศ เห็นด้วยในหลักการที่จะร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยจะมีการเผยแพร่ราคายาที่จำเป็นและค่ารักษาพยาบาลผ่านทางเว็บไซต์กลางและเว็บไซต์ของโรงพยาบาลเอกชนแต่ละแห่ง เพื่อให้ประชาชนได้เปรียบเทียบราคาและตัดสินใจเข้ารับการรักษา หลังจากนี้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารสุข จะหารือกับโรงพยาบาลเอกชนว่าจะนำข้อมูลราคายาและค่ารักษารายการใดมาเผยแพร่บ้าง ซึ่งจะมีการนำรายการที่จำเป็นมาเผยแพร่ เบื้องต้นมีข้อมูลราคายาที่จำเป็นกว่า 1,000 รายการ จากทั้งหมดกว่า 5,000รายการ จากนั้นจะนำมาเสนอที่ประชุมที่มีกระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพเพื่อหาข้อสรุปในวันที่ 15 ม.ค. 2562 ทั้งนี้ได้มีการกำหนดวันที่จะเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์กลางและเว็บไซต์ของโรงพยาบาลเอกชนอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 เม.ย.2562 ข่าวจาก : posttoday

error: