พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด

Advertisement Advertisement

  เมื่อวันที่ 14 เม.ย.พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงโรดแม็ปการเลือกตั้ง ว่า รัฐบาลไม่ได้ประเมินสถานการณ์อะไรเป็นพิเศษ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้สั่งการในเรื่องนี้เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะมีการเปิดให้มีการเลือกตั้งแล้ว พรรคการเมืองและนักการเมืองที่กดดันรัฐบาล จะอดทนรอหน่อยไม่ได้หรือ สำหรับความคืบหน้าการเชิญพรรคการเมืองมาร่วมพูดคุยกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังอยู่ช่วงเวลาเดือนมิ.ย.นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ประสานนัดหมายเพื่อพูดคุยกับพรรคการเมืองว่าจะมาพูดคุยกันได้เมื่อใด จะก่อนเดือนมิ.ย.หรือภายเดือนมิ.ย.เพราะเรื่องนี้นายกฯ ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องพูดคุยกันเมื่อใด ดังนั้นหากพรรคการเมืองใดต้องการร่วมพูดคุยก็สามารถติดต่อผ่านนายวิษณุเข้ามาได้ ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์

  เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้กล่าวย้ำถึง กรณีที่ในปัจจุบันนี้สังคมไทยได้มีการตัดสินผู้คนที่อยู่คนละกลุ่มกันไปก่อนแล้วตามแนวความคิดความเชื่อของแต่ละกลุ่มนั้น ซึ่งบางครั้งการใช้ความคิดของตัวเอง ในการตัดสินมันก็จะทำให้สังคมปั่นป่วนได้เช่นกัน แทนที่จะเกิดความรัก สามัคคี ปรองดอง แต่ก็เกิดได้ยากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอย่างนี้กระจายไปอย่างรวดเร็วในโซเชียลมีเดีย เพราะถูกใจก็แชร์ต่อๆกันไป เช่นกรณีที่มีการนำภาพคนชำแหละหมี ถูกจับติดคุกเลยทันที เพราะนี่คือคนจน มาเปรียบเทียบกับกรณีของนายเปรมชัยล่าเสือดำ ซึ่งเป็นคนรวยยังไม่ติดคุก ซึ่งทำให้สังคมเกิดความเข้าใจว่าทำไมรัฐบาลหรือหน่วยงานมีหลายมาตรฐาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่าเรื่องเหล่านี้เป็นอันตรายต่อสังคมจึงขอวิงวอนให้สื่อมวลชนช่วยทำความเข้าใจว่าในข้อกฎหมายคืออย่างไร เช่น คนที่ชำแหละหมีรับสารภาพว่าชำแหละจริง ดังนั้นจึงส่งดำเนินคดีได้เลยแต่กรณีนายเปรมชัยเขาไม่ได้รับสารภาพ จึงต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากผลการสอบสวนออกมาว่าผิดก็คือติดคุก แต่จะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ว่าคนจนติดคุกคนรวยไม่ติดคุก เพราะยังเป็นเรื่องขั้นตอนทางกฎหมายที่ทุกคนก็ต่างเข้าใจกันอยู่ “เพียงแต่อารมณ์และการตัดสินของคนในปัจจุบันพิพากษา ทำให้สังคมเกิดรวนคิดว่าเรื่องต่างๆเหล่านี้เป็นเพราะฐานะของคนทำให้กฏหมายต้องเลือกปฏิบัติซึ่งในความจริงไม่ใช่อย่างนั้น นายกรัฐมนตรีจึงอยากให้ทุกคนให้ความสำคัญและทำความเข้าใจกับเรื่องข้อกฎหมาย ดังนั้นหนึ่งข้อในไทยนิยมจึงกำหนดไว้ว่าประชาชนต้องรู้จักบทบาทหน้าที่สิทธิของตัวเอง และรู้กลไกการทำงานของภาครัฐ เพื่อจะไม่ได้ไปต่อว่าหรือด่าใครอย่างพร่ำเพรื่อ” โฆษกรัฐบาลกล่าว ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์

  เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่มีข่าวว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีแนวคิดให้นำร้านอาหารริมทาง(สตรีทฟู้ด)ที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ มาปรุงให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และคณะรัฐมนตรี(ครม.)รับประทาน ว่า นายกฯมีความรู้สึกว่าควรพอเพียง ไม่ต้องการให้เกิดความรู้สึกว่าผู้นำประเทศเป็นตัวอย่างของการรับประทานอาหารที่ราคาแพง และไม่ต้องการให้เกิดปัญหา ในส่วนการพัฒนาโครงการมิชลินสตาร์ที่บุกตลาดอาหารริมทางยังคงดำเนินต่อไปเพื่อพัฒนาอาหารฟิวชั่นต่อไป ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์