“จุลพันธ์” ขอให้ตื่นจากฝัน ไทยไม่มีงบพอทำสวัสดิการถ้วนหน้า ถามกลับ “จะให้ใช้เงินจากไหน?”

Advertisement 12 กันยายน ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 เป็นวันที่สอง โดยมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม Advertisement เวลา 13.20 น. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงว่า การแก้ปัญหา การพักหนี้เกษตรกร สมาชิกหลายท่านอภิปรายให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงท่านนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำการเดินหน้าเรื่องการพักหนี้ เราเตรียมการล่วงหน้าไปมากแล้ว โดยเชื่อมั่นว่าภายในไตรมาสนี้จะเดินหน้าแก้ปัญหาเรื่องการพักหนี้เกษตรได้ นายจุลพันธ์ชี้แจงว่า การพักหนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะต่อชีวิตให้พี่น้องภาคการเกษตร หลังจากนั้นรัฐบาลจะมีโครงการอีกจำนวนมาก พร้อมกับวางเป้าเพิ่มมูลค่าทางเกษตรภายใน 4 ปี เพื่อให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้อย่างแท้จริง รวมถึงจะมีการเจรจาการค้าเอฟทีเอกับหลายๆ ประเทศเพื่อเปิดประตูการค้า เพราะรัฐบาลมองสถานการณ์เอลนิโญที่จะเกิดขึ้นเป็นโอกาส เพราะจะเกิดภาวะขาดแคลนด้านอาหารจำนวนมากในโลก ถ้าประเทศไทยสร้างความแข็งแกร่งด้านการเกษตรได้ เราจะกลับมาเป็นครัวโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ เกษตรกรจะลืมตาอ้าปากได้ Advertisement นายจุลพันธ์กล่าวต่อว่า ส่วนการพูดถึง สวัสดิการถ้วนหน้า เราต้องตื่นจากความฝันและอยู่กับความเป็นจริง เนื่องจากจีดีพีของไทยต่ำกว่าประเทศที่ทำสวัสดิการถ้วนหน้ามาก ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในสภาวะที่การจัดเก็บภาษียังไม่สามารถอยู่ในจุดที่เราจะทำสวัสดิการถ้วนหน้าได้จริงๆ เราเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลกันมาช่วงหนึ่ง ทราบดีว่าข้อจำกัดคืออะไร […]

“จุลพันธ์” รมช.คลัง ยืนยันไม่นำสมบัติชาติมาแจกเงินดิจิทัล ไม่กระทบหนี้สาธารณะ ไม่กู้เพิ่มแน่นอน

11 ก.ย.2566 – เวลา 17.40 น. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงดิจิตอลวอลเล็ท ว่า แหล่งที่มาของรายได้เงินดิจิตอลเรายึดมั่นกรอบวินัยการเงินการคลัง ไม่แตะต้องสมบัติของชาติ ทั้งกองทุนวายุภักษ์ บำเหน็จบำนาญข้าราชการ ทุนสำรองระหว่างประเทศ กองทุนประกันตน ก็ตาม ส่วนเหล่านี้รัฐบาลทราบวัตถุประสงค์ เราจะไม่แตะต้องและไม่เคยจะคิด กระบวนที่เราจะทำสุดท้ายจะชัดเจน เราขอเวลาตรวจรายละเอียดโครงการ ไม่ว่าจะเรื่องการใช้เงิน ระยะเวลาในการดำเนินการ กระบวนการที่จะเอางบประมาณมาใช้คืนให้หมดในระยะเวลาที่กำหนด ไม่กระทบต่อหนี้สาธารณะ และไม่กู้เพิ่มแน่นอน ยึดหลักกรอบวินัยการเงินการคลังเป็นหลัก นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า มีการพูดกันว่าเม็ดเงินสุดท้ายจะไหลไปที่ทุนใหญ่นั้น ต้องเรียนว่า โครงการเติมเงินผ่านดิจิตอลวอล ไม่มีการเลือกปฏิบัติว่า สุดท้ายแล้วทุนใหญ่หรือว่าร้านสะดวกซื้อจะไม่สามารถเข้าโครงการได้ ด้วยความเคารพ มันเป็นสิทธิของประชาชนและเราต้องให้ความมั่นใจกับประชาชนในการเลือกกิจกรรมที่เขาจะทำ ทุกบาททุกสตางค์ ด้วยความที่เป็นระบบบล็อกเชน เป็นเทคโนโลยีพื้นฐาน สิ่งที่จะยืนยันกับรัฐสภาได้ ว่า ไม่มีเทคโนโลยีใดซึ่งจะมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้เท่ากับเทคโนโลยีบล็อกเชนในปัจจุบัน ยืนยันกับพี่น้องและเพื่อนสมาชิกว่า นโยบายนี้จะเกิดประโยชน์และตรวจสอบได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์   ข่าวจาก : THAIPOST

error: