คนจีน

ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ซึ่งเป็นแอคที่รีวิวเกี่ยวกับอาหาร มียอดโฟลโลว์ 15.9 หมื่นคน ได้ไปรับประทานร้านหม้อไฟแห่งหนึ่งแถวย่านห้วยขวาง ที่มีชื่อร้านเป็นภาษาจีนล้วน โดยเจ้าของทวิตได้รีวิวทั้งรสชาติ ราคา บอกพิกัด โพสต์รูปภาพ เหมือนกับการรีวิวร้านอื่น ๆ ทั่วไป แต่โพสต์ที่ดูสะดุดตาเห็นจะเป็นภาพของใบเสร็จที่เป็นภาษาจีนล้วน ทำเอาชาวเน็ตทัวร์ลงหนัก เพราะแบบนี้ถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะใบเสร็จหรือ invoice ต้องเป็นภาษาไทย หากเปิดร้านจดทะเบียนในไทย อีกทั้งยังตั้งข้อสงสัยว่าร้านนี้จดทะเบียนเป็นร้านอาหารอย่างถูกต้องหรือไม่ ความคิดเห็นบางส่วน 1. บ.จดทะเบียนเป็นธุรกิจนำเข้าส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นรายการยกเว้น Vat 2. แต่มาใช้ชื่อบ.เปิดร้านอาหารด้วย ใบเสร็จไม่มี Vat 3. ชัดเจนว่าทำธุรกิจผิดประเภท ไม่เกี่ยวว่ากำลังอยู่ระหว่างจด Vat อยู่มั้ย เจตนาเลี่ยงภาษีชัดเจน 4. ทำไมจขทว.ยืนยันสนับสนุนร้านนี้ทั้งที่คนเตือนเยอะ ? ไม่เพียงเท่านั้นยังมีคนไปค้นข้อมูลการจดทะเบียนของร้าน พบว่าจดทะเบียนธุรกิจขายปลีก แต่กลับมาเปิดร้านอาหาร แบบนี้ยื่นภาษีถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตามเมื่อกระแสตีกลับแรงมากขึ้น เจ้าของทวีตก็ได้ล็อกแอคเคาน์ พร้อมลบทวีตนั้น หลาย ๆ คน เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ   ข่าวจาก : ข่าวสด

8 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านค้าเครื่องแบบนักเรียนตามแนวถนนพระสุเมรุ ย่านบางลำพู เขตพระนคร กรุงเทพ หลังมีกระแสชาวจีนที่นิยมซื้อชุดนักเรียนไปสวมใส่ตามดารานักแสดงชาวจีนที่โพสต์ภาพในโซเชียลมีเดียต่างๆ ทางเจ้าของร้านเผยว่าผู้หญิงชาวจีนชอบซื้อชุดนักเรียนแบบคอบัว น.ส.ชลมาศ แสงนาคฤทธิ์ อายุ 16 ปี พนักงานพาร์ทไทม์ร้านเครื่องแบบนักเรียนท็อปสัน กล่าวว่า ที่ผ่านมามักจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาซื้อชุดนักเรียนกับที่ร้านตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา วันละเกือบ 10 ราย โดยจะมาช่วงบ่ายถึงเย็น ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจากแดนมังกร จะเปิดรูปดาราจีนที่ใส่ชุดนักเรียนให้ดู แต่จะซื้อกันเพียงคนละตัว มีบางรายซื้อไปฝากเพื่อน ส่วนมากจะซื้อไปใส่เที่ยวกัน หากเป็นผู้หญิงจะซื้อชุดแบบคอบัว ผู้ชายจะซื้อชุดนักเรียนม.ต้นกับม.ปลาย โดยจะซื้อไปใส่คู่กับแฟน ส่วนตัวมองว่าน่ารักดี แต่รู้สึกเฉยๆ เกี่ยวกับเรื่องความเหมาะสม สำหรับภาพรวมของลูกค้าคนไทยนั้น ขณะนี้ถือว่าขายได้น้อยเพราะว่าเป็นช่วงปิดเทอม ด้านนายวรวิทย์ ศิริวนิชสุนทร อายุ 56 ปี เจ้าของร้านเครื่องแบบนักเรียนตราสมอ บางลำพู กล่าวว่า ตนเปิดร้านมา 30 กว่าปีแล้ว สำหรับร้านตนจะมีลูกค้าต่างชาติน้อย ที่ผ่านมามีเพียง 4 คน นานๆ ทีจึงจะมีลูกค้าคนจีน ประมาณอาทิตย์หนึ่งบ้าง 10 วันก็มาที โดยจะมาซื้อกันเป็นกระแสเพียงช่วงหนึ่งเหมือนปีก่อนที่แห่กันมาซื้อชุดลูกเสือ แล้วค่อยๆ […]

11 มกราคม 2565 โลกออนไลน์แชร์คลิปจากผู้ใช้ TikTok รายหนึ่ง เผยภาพในตลาดนัดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนจีน ทำการไลฟ์ตามหน้าร้านต่าง ๆ โดยรับจ้างหิ้วของจากไทยส่งกลับไปขายที่จีน คล้ายเป็นเป็นอีกอาชีพใหม่ซึ่งมีการทำกันอย่างจริงจังไม่น้อย เจ้าของคลิประบุว่า “อาชีพใหม่ของคนจีนที่มาเที่ยวไทย ไลฟ์รับจ้างหิ้วของตามตลาดนัด มากันเป็นทีมงานมืออาชีพ มีโน้ตบุ๊ก มีสติ๊กเกอร์รหัส เจอทีหลายสิบทีม มากันเป็นทัวร์เลยจ้า” หลังคลิปนี้ถูกเผยแพร่ไป ได้กลายเป็นไวรัลกว่า 4 แสนวิว โดยบางส่วนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะหากชาวจีนกลุ่มนี้ไปได้สวยหรือขายดี ก็อาจจะช่วยให้คนไทยขายของได้มากขึ้นขณะที่บางส่วนมองว่า การมาปักหลักไลฟ์กันเยอะแบบนี้ดูจะเป็นบรรยากาศที่ไม่ค่อยดีสำหรับคนที่ตั้งใจจะไปเที่ยวตลาดเท่าไร ซึ่งบางคนก็สังเกตเห็นว่าบางร้านคนขาย ดูลักษณะคล้ายจะไม่ใช่คนไทยอีกด้วย เป็นต้น   ข่าวจาก : kapook

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดฉาวที่แฟนเพจ อ้ายจง เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและกลายเป็นข่าวดังในประเทศจีน หลังมีหญิงวัย 50 ปี จากเมืองซีอาน ถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกว่าได้สิทธิ์ไปเที่ยวที่ประเทศไทยและได้สิทธิตรวจร่างกายในไทยฟรีตลอดทริป เมื่อเดือน ม.ค.60 โดยโรงพยาบาลดังกล่าวที่หญิงคนนี้ถูกพาตัวมารักษานั้น เป็นโรงพยาบาลปลอมที่แก๊งต้มตุ๋นชาวจีนเปิดขึ้นมาเพื่อหลอกคนจีนด้วยกันให้นำเงินมารักษา และได้หลอกหญิงคนนี้ว่าเธอป่วยเป็นมะเร็ง และไม่สามารถตรวจพบได้ที่โรงพยาบาลอื่น เนื่องจากเครื่องตรวจของที่นี่เป็นเครื่องที่ดีที่สุด พร้อมกับโน้มน้าวให้เหยื่อกลับมารักษาใหม่ ซึ่งเธอก็ได้หลงเชื่อกินยาที่ได้รับจากโรงพยาบาลแห่งนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งเดือน ธ.ค.60 เธอได้เข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเมืองซีอาน และผลตรวจออกมาว่าเธอมีร่างกายปกติดี ก็รู้สึกดีใจและคิดว่าเป็นผลจากยาที่ไทย แต่ต่อมาก็รู้สึกตกใจเนื่องจากตำรวจติดต่อมาว่าเธอเป็น 1 ในเหยื่อที่ถูกหลอกมารักษาที่ไทย ซึ่งทางตำรวจได้จับกุมและดำเนินคดีกับแก๊งต้มตุ๋นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับนำเงินมาคืนเหยื่อ นอกจากนี้ยังพบว่ามีเรื่องทำนองนี้ที่ประเทศอื่น เช่น มาเลเซีย บรูไน เป็นต้น ขอบคุณข้อมูลจาก แฟนเพจ อ้ายจง