อุบัติเหตุ

Advertisement นักวิชาการ วิเคราะห์อุบัติเหตุ BMW Z4 พุ่งข้ามเล่นชนเก๋งสวิฟต์ เป็นปรากฏการณ์ไฮโดรเพลนนิ่ง เผยมีปัจจัยอะไรบ้างที่ต้องระวัง โดยเฉพาะในหน้าฝนทำให้ล้อเหินน้ำ เป็นอุบัติเหตุที่น่าสะเทือนใจอย่างมาก กรณี นายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง อายุ 50 ปี ขับรถหรู BMW Z4 ฝ่าฝนตก ก่อนจะพุ่งข้ามเลนไปชนรถเก๋งสวิฟต์ ในพื้นที่ ต.ห้วยโป่ง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ 3 ศพ ได้แก่ นายสุรภักดิ์ คนขับรถหรู และรถเก๋งสวิฟต์ 2 ศพ Advertisement     วันที่ 15 มิถุนายน 2564 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ สัมภาษณ์ ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิชาการชื่อดังที่คำนวณความเร็วคดี บอส อยู่วิทยา ได้วิเคราะห์สาเหตุอุบัติเหตุดังกล่าว เป็นปรากฏการณ์ ไฮโดรเพลนนิ่ง หรือการเหินน้ำ […]

แหลมไปไหน เกาะกลางถนน ใน จ.ชัยภูมิ สร้างล้ำกินเลนจราจร ชาวบ้านบอกเห็นแล้วขัดตา วอนเร่งแก้ไขก่อนเกิดเหตุสลด จากที่มีการก่อสร้างขยายเส้นทางและการสร้างเกาะกลางถนน บนถนนทางหลวงหมายเลข 201 สายชัยภูมิ–สีคิ้ว ช่วงระหว่างบ้านกุดละลม-ห้วยหลัว อ.เมืองชัยภูมิ ก่อนเข้าถึงตัวอำเภอเมืองจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งในโลกโซเชียลได้มีการถ่ายรูปและนำไปโพสต์วิพากษ์วิจารณ์ ตั้งคำถามถึงลักษณะการสร้างเกาะกลางจุดกลับรถที่มีแหลมล้ำออกมาจากเส้นเหลืองเกินไปหรือไม่ และความปลอดภัยจุดเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุกันอย่างหนัก ทั้งยังมีร่องรอยการเบียดขอบแหลมจุดดังกล่าวมาแล้วและอาจทำให้รถที่สัญจรผ่านไปมาหากขับมาแบบไม่ได้สังเกตอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ทุกเมื่อ ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปดูตรวจสอบข้อเท็จจริงในสถานที่จริงที่มีการสร้างดังกล่าวที่ทำมุมแหลมออกมาลักษณะทับเส้นเหลืองที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ก่อนถึงจุดยูเทิร์นโครงการการขยาย-สร้างเกาะกลางถนน บนถนนทางหลวงหมายเลข 201สายชัยภูมิ–สีคิ้วช่วงระหว่างบ้านกุดละลม-ห้วยหลัวอ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งจากการลงพื้นที่ก็ถือว่าถนนเส้นดังกล่าวเป็นถนนหลักเข้าสู่ตัวเมืองจังหวัดชัยภูมิ เชื่อมต่อจังหวัดนครราชสีมามีรถสัญจรไปมาหนาแน่น โดยจากการสังเกตรถที่ขับขี่มาถึงจุดดังกล่าวในเลนขวาจะต้องเบี่ยงหลบจุดแหลมนี้เกือบทุกคันและจะต้องเบี่ยงมากินเลนด้านซ้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งหากมีรถขับขี่มาคู่ขนานกับรถทางเลนซ้ายก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ง่าย ซึ่งบริเวณเกาะกลางแหลมกลางถนนดังกล่าว ยังพบร่องรอยล้อยางและรอยชนจนปูนแตกชำรุด ร่องรอยมีการเบียดหรือเสียดสีมาแล้วหลายครั้งก่อนหน้านี้อาจจะยังไม่ได้รับรายงานว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น แต่ก็สร้างความสงสัยและรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยกับผู้ที่ใช้รถใช้ถนนผ่านมาตรงจุดนี้ จึงได้มีประชาชนผู้ใช้เฟสบุ๊กหลายรายถ่ายภาพและนำไปโพสต์เปิดเป็นกระทู้น่าสงสัยในโลกโซเชียล ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงประเด็นนี้ได้ถูกเล็งไปที่ผู้ดูแลโครงการดังกล่าว ถูกสังคมโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะโครงการนี้มีเริ่มแรกก็มีกระแสต่อผู้คนไปในหลายประเด็นกับการสัญจรไปมาของประชาชน แต่ก็ต้องยอมรับว่าในการพัฒนาที่จะมีขึ้นถือว่าเป็นเรื่องดีของชาวชัยภูมิ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป ดูเหมือนว่าถนนในเส้นทางดังกล่าวจะถูกก่อสร้างจนแล้วเสร็จ ความคิดที่ตั้งใจไว้ว่าจะได้มีการพัฒนาถนนหนทางในจังหวัดชัยภูมิไปในทางที่ดีขึ้นกลับเจอสิ่งประหลาดที่สังคมโซเชียลต่างตั้งคำถามว่า เจ้าของโครงการหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ออกแบบถนนหรือเกาะกลางที่แหลมออกมาแบบนี้หรือไม่ เป็นการสร้างตามแบบที่ตั้งใจไว้หรือไม่ หรือมีการตรวจสอบก่อนส่งมอบงานหรือยังก่อนที่จะเปิดให้ประชาชนได้สัญจรผ่านไปมา จึงเป็นสิ่งที่หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องชี้แจงต่อสังคมโดยเร็วอีกด้วย ขณะที่ประชาชนผู้ขับขี่และใช้ถนนเส้นนี้เป็นประจำกล่าวว่า ตนเองก็งงและรู้สึกขัดกับสายตาเมื่อเห็นว่าจุดแหลมดังกล่าว ซึ่งหากมีอยู่ต่อไปอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นกับผู้ที่ขับขี่ที่ไม่ชินทางในช่วงเวลากลางคืน จึงขอวอนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาแก้ไขและปรับปรุงอย่างเร่งด่วนก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายขึ้นอีกต่อไปด้วย ข่าวจาก อมรินทร์ทีวี

เจ้าของกระเบื้องไดนาสตี้ ไม่เอาผิด กรณีรถบิ๊กไบค์ดูคาติชน Mclaren 720s แล้วชิ่งหนี ยันขอให้เรื่องนี้เป็นบทเรียน บอกจริง ๆ รถของผม 35 ล้าน ไม่ใช่ 26 ล้าน   ล่าสุด คุณมารุต ได้มาอัปเดตว่า ทางคนขับรถบิ๊กไบค์ ได้ประสานมาทางตำรวจเพื่อขอยอมรับผิดและชดใช้ค่าเสียหาย และทางผู้กำกับการ สน. สุทธิสาร ก็ได้ประสานมาทางตน และได้พูดจาไกล่เกลี่ยกัน ทางตัวคนขับบิ๊กไบค์เองอายุยังน้อย และอาจจะตกใจพอเกิดเรื่องขึ้น แต่สุดท้ายก็ได้แสดงสปิริตมาขอโทษและเจรจา ซึ่งตนก็ให้อภัย อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ให้ทางคนขับบิ๊กไบค์ชดใช้ใด ๆ แต่ตักเตือนน้องตามสมควร และหวังว่านี่จะเป็นบทเรียนในการใช้รถใช้ถนน คุณมารุตได้ทิ้งท้ายว่า สำหรับเรื่องรถนั้น ราคาค่าสีอย่างเดียวก็ 50,000 บาทแล้ว ส่วนตัวรถรุ่นนี้ราคา 35 ล้านบาท ไม่ใช่ 26 ล้านบาทอย่างที่ออกข่าวไปในตอนแรก พร้อมกับตบมุกทิ้งท้ายว่า “เดี๋ยวขยันขายกระเบื้องเอา” ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก Maruth Bae Saengsastra