ประกาศแล้ว! กฎหมายโอนงบหน่วยงานต่างๆไปเป็นงบกลาง-งบประชารัฐ1.27หมื่นล้าน

Advertisement   Advertisement ๕ ส.ค. ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชบัญญัติ โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ๒๕๖๑ มีรายละเอียดระบุว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่าโดยที่เป็นการสมควรโอนงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น บางรายการจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ๒๕๖๑” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้ “งบประมาณรายจ่าย” หมายความว่า งบประมาณรายจ่ายตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔ ให้โอนงบประมาณรายจ่าย จํานวน ๑๒,๗๓๐,๔๙๗,๗๐๐ บาท ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ตามรายการดังต่อไปนี้ ให้แก่ งบกลาง […]

ราชกิจจาฯเผยแพร่ประกาศ ให้ขรก.ทุกคนเตรียมยื่นบัญชีทรัพย์สินฯตามกฎหมายป.ป.ช.!!

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2561 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๒๘ มาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๗ และมาตรา ๔๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เหตุผลและความจําเป็นในการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติสามารถดําเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพอันจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ่งการตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่รัฐสภา สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือ โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้บัญญัติหน้าที่และอํานาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในการจัดให้มีมาตรการหรือแนวทางที่จะทําให้การปฏิบัติหน้าที่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เกิดความรวดเร็ว สุจริต และเที่ยงธรรม รวมทั้งได้เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ตลอดจนวาระการดํารงตําแหน่งไว้ อีกทั้งได้บัญญัติให้รัฐมีหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน และให้ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน และจัดให้มีมาตรการและกลไกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าวอย่างเข้มงวดตามมาตรา ๖๓ ของรัฐธรรมนูญ จึงเป็นการสมควรบัญญัติกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตขึ้นใหม่ให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน สำหรับสาระสำคัญของพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว […]

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ ‘รับคดีอุ้มหายบิลลี่’ เป็นคดีพิเศษ!

  เมื่อวันที่ 11 ก.ค. เว็บไซต์ราชกิจจาบุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกรมสอบสวนคดีพิเศษ เรื่อง มติคณะกรรมการคดีพิเศษให้คดีความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ด้วยคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ได้มีการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ และที่ประชุมได้มีมติตามมาตรา ๒๑ วรรคหนึ่ง (๒) ประกอบมาตรา ๑๐ (๓) แห่งพระราชบัญญัติ การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. ๒๕๔๗ ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสาม ของกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ให้การกระทําความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษที่ต้องสืบสวนและสอบสวน ตามพระราชบัญญัติ การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. ๒๕๔๗ จํานวน ๑ เรื่อง ดังนี้ กรณี การหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ (เลขสืบสวนที่ ๑๐๔/๒๕๕๗) ประกาศ ณ วันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ พันตํารวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ   […]

มีพระราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้ง ให้ผู้ว่าฯเชียงราย โยกไปเป็นผู้ว่าฯพะเยา-อีก10จังหวัดก็โยกด้วย

  มีพระราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้ง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย โยกไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา รวมถึงให้ย้ายรวม 11 ผู้ว่าราชการจังหวัดและรองปลัดกระทรวง เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ระบุว่ามีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตําแหน่งเดิม และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง จํานวน 11 ราย ดังนี้ 1.นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ พ้นจากตําแหน่งรองปลัดกระทรวง สํานักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ 2.นายปวิณ ชํานิประศาสน์ พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งรองปลัดกระทรวงสํานักงานปลัดกระทรวง 3.นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา 4.นายประจญ ปรัชญ์สกุล พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย 5.นายพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสํานักงานปลัดกระทรวง 6.นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ พ้นจากตําแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงสํานักงาน ปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร 7.นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร พ้นจากตําแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสํานักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ 8.นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ 9.นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล […]

ราชกิจจาฯประกาศกำหนด‘มาตรฐานปลาร้า’ กลิ่นต้องหอม-ไม่เหม็นอับ-ไร้พยาธิ

  เมื่อวันที่ 17 เมษายน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องกำหนดมาตรฐานสินค้า : ปลาร้าตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ.2551 โดยระบุว่าด้วยคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรเห็นสมควรกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่องปลาร้าเป็นมาตรฐานทั่วไปตาม พ.ร.บ.มาตรฐานสินค้าเกษตร 2551 เพื่อส่งเสริมสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพ มาตรฐาน และปลอดภัย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 มาตรา 15 และมาตรา 16 แห่งพ.ร.บ.มาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ.2551 ประกอบมติคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร ในการประชุมครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2561 รมว.เกษตรและสหกรณ์จึงออกประกาศกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร : ปลาร้า มกษ. 7023-2561 ไว้เป็นมาตรฐานทั่วไป สำหรับเนื้อหาในประกาศเกี่ยวกับปลาร้าระบุตั้งแต่คำอธิบาย กระบวนการผลิต ส่วนประกอบและเกณฑ์คุณภาพ ซึ่งประกอบด้วยคุณลักษณะทางกายภาพที่ต้องคลุกเคล้ากันพอดี ไม่แห้งหรือเละเกินไป เนื้อปลานุ่ม หนังไม่ฉีกขาด มีสีตามลักษณะเฉพาะของเนื้อปลา กลิ่นหอมตามลักษณะเฉพาะของปลาร้า ไม่มีกลิ่นคาว เหม็นอับ เหม็นเปรี้ยว เมื่อวันที่ 17 เมษายน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องกำหนดมาตรฐานสินค้า […]

กำเงินรอไว้ก่อน!! เตรียมประกาศใช้สัญญาเช่าซื้อรถใหม่ ‘ลดต้น ลดดอก’ เหมือนเช่าซื้อบ้าน แก้เอาเปรียบผู้บริโภค!! บังคับใช้1ก.ค.นี้!!

  การเช่าซื้อรถยนต์ในปัจจุบัน ผู้ซื้อจะคุ้นเคยกับการจ่ายดอกเบี้ยแบบอัตราคงที่ ไม่ลดต้น ไม่ลดดอก คำนวณเท่าไหร่ก็จ่ายเท่านั้นจนสิ้นสุดสัญญา บางที่ยังต้องเสียเงินเพิ่มเมื่อนำเงินไปโปะอีกด้วย แต่ล่าสุด สคบ. ได้ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2561 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 1 ก.ค. 2561 วัตถุประสงค์หลักเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคที่เช่าซื้อรถ โดยพบว่า ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากสัญญาเช่าซื้อค่อนข้างเอารัดเอาเปรียบ โดยประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า “อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate)หมายความว่า อัตราดอกเบี้ย สําหรับสินเชื่อเช่าซื้อในลักษณะของการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก เช่นเดียวกับการคํานวณดอกเบี้ย สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย โดยคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นคงเหลือในแต่ละงวด โดยข้อสัญญาที่กําหนดให้ผู้ให้เช่าซื้อคิดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้เช่าซื้อผิดนัดชําระค่างวดตามสัญญาเช่าซื้อเกินกว่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) บวกร้อยละสามต่อปี แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินอัตราร้อยละสิบห้าต่อปี ทั้งนี้ กรณีที่ผู้เช่าซื้อมีความประสงค์จะขอชําระเงินค่าเช่าซื้อทั้งหมดในคราวเดียว โดยไม่ผ่อนชําระค่าเช่าซื้อเป็นรายงวดตามสัญญาเช่าซื้อ เพื่อปิดบัญชีค่าเช่าซื้อ ผู้ให้เช่าซื้อจะต้องให้ส่วนลดแก่ผู้เช่าซื้อในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกําหนดชําระ คลิกที่นี่เพื่ออ่านราชกิจจานุเบกษาฉบับเต็ม ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์, ราชกิจจานุเบกษา

โปรดเกล้าฯแต่งตั้งพลตรีหญิง‘พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา’ ทรงเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษ

  เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศเรื่องแต่งตั้งนายทหารราชองครักษ์พิเศษ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า พลตรีหญิง พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 15 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ประกอบมาตรา 4 และมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ.2560 มาตรา 10 มาตรา 13 และมาตรา 18 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดระเบียบราชการและการบริหาร งานบุคคลของราชการในพระองค์ พ.ศ.2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม พุทธศักราช 2561 ประกาศ ณ วันที่ 5 มีนาคม พุทธศักราช 2561 เป็นปีที่ […]

ผู้ประกอบการ-ผู้เช่าอ่านให้ดี!! ราชกิจจาฯประกาศแล้ว ว่าด้วยเรื่องเช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัย!! คุมเข้ม ชัดเจนมากขึ้น!!

  16 ก.พ.61 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2561              

ราชกิจจาเผยแพร่กฎหมายข้าราชการทหารฉบับที่11 เพิ่มเงินตำแหน่งวิชาการ-วิทยฐานะ สายการสอน เริ่ม2,500-15,600บาท

  เมื่อวันที่ 26 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2561 ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีอัตราเงินประจำตำแหน่งข้าราชการทหาร ประเภทวิชาการในสถาบันการศึกษาสังกัดกระทรวงกลาโหมโดยไม่นำชั้นยศทางทหารมาเป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาการดำรงตำแหน่งทางวิชาการ เพื่อส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจในการสร้างผลงานทางวิชาการของข้าราชการทหารผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว และเพิ่มบัญชีอัตราเงินประจำตำแหน่งข้าราชการทหาร ประเภทวิทยฐานะ เพื่อให้ข้าราชการทหารผู้ปฏิบัติงานด้านการสอน มีสิทธิได้รับเงินวิทยฐานะ อันจะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและเป็นไปโดยสอดคล้องกับภาระหน้าที่ โดยในท้ายประกาศได้กำหนดบัญชีอัตราเงินประจำตำแหน่ง(บาทต่อเดือน)  ดังนี้ ศาสตราจารย์ 15,600  13,000    รองศาสตราจารย์9,900    5,600   ผู้ช่วยศาสตราจารย์ 5,600  3,500    นอกจากนี้ยังได้กำหนดเงินวิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ 15,600  13,000   ครูเชี่ยวชาญ 9,900  ครูชำนาญการพิเศษ 5,600  ครูชำนาญการ 3,500  และครูชำนาญการต้น 2,500  ทั้งนี้มีผลให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา     คลิกที่นี่เพื่ออ่านราชกิิจจานุเบกษาฉบับเต็ม

1 41 42
error: