200อัตราบรรจุทั่วประเทศ!! ป.ป.ช.รับสมัครนิติกร วุฒิ ป.ตรี ไม่ต้องผ่านภาค ก สมัครออนไลน์1-10ก.พ.62

    สำนักงาน ป.ป.ช. รับสมัครลูกจ้างตามสัญญาจ้าง จำนวน 200 อัตรา ตำแหน่งนิติกร อัตราเงินเดือน 15,000 บาท + 3,500 บาท (จะได้รับเมื่อผ่านการปฏิบัติงาน 6 เดือน) ผู้สมัครต้องได้รับวุฒิปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต หน่วยที่ 1 สำนักงาน ป.ป.ช.ส่วนกลาง จำนวน 60 อัตรา หน่วยที่ 2 สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี สระบุรี 21 อัตรา หน่วยที่ 3 สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดชลบุรี 4 อัตรา หน่วยที่ 4 สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ชัยภูมิ บุรีรัมย์ 41 อัตรา หน่วยที่ 5 […]

มีผลแล้ว! นายกสภามหาวิทยาลัยรัฐ-บอร์ด ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน!

  ราชกิจจานุเบกษา ประกาศระเบียบ ป.ป.ช. กำหนดผู้ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินใหม่ “นายกสภามหาวิทยาลัย – บอร์ดต่าง” ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่อง กำหนดตำแหน่งของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามมาตรา 102 (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2561  ลงวันที่ วันที่ 25 ม.ค. 2562 สรุปสาระสำคัญ คือ ยกเลิกตำแหน่งที่ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.  คือ นายกสภาและกรรมการสภาในสถาบันอุดมศึกษาในสังกัดของรัฐ ได้แก่ นายกสภาและกรรมการสภามหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ มหาวิทยาลัยนครพนม มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏทุกแห่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทุกแห่ง และสภาสถาบันการพลศึกษา พร้อมกันนี้ ได้กำหนดตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานอื่นของรัฐ และกำหนดตำแหน่งผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงที่มีหน้าที่ต้องยื่นและเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน ได้แก่ อธิการบดีในสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ รวมถึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ […]

ป.ป.ช. แจงยิบ เหตุใดเชื่อ ‘บิ๊กป้อม’ ยืมมาจากเพื่อนจริงๆ

  ป.ป.ช.แจงละเอียดยิบ เหตุไม่ฟัน บิ๊กป้อม เชื่อ “นาฬิกาหรู” ยืมเพื่อนที่ตายไปแล้วจริง ไม่เจตนาปกปิด อ้าง ขอข้อมูลต่างประเทศไม่ให้ เมื่อวันที่ 18 มกราคม นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แถลงรายละเอียดการตีตกคดีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ว่า เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจต่อสังคมโดยทั่วกัน สำนักงาน ป.ป.ช.จึงขอแจ้งว่า ในการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่แท้จริงของนาฬิกาดังกล่าว สำนักงาน ป.ป.ช.ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งภายในและต่างประเทศ ทั้งนี้ ไม่ปรากฏพยานหลักฐานใดยืนยันว่านาฬิกาดังกล่าวเป็นของ พล.อ.ประวิตร คงปรากฏเพียงภาพถ่ายที่ พล.อ.ประวิตรสวมใส่อยู่ ซึ่งรับฟังได้เพียงว่า พล.อ.ประวิตรเป็นผู้ครอบครองใช้เท่านั้น ส่วนความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ที่ผู้มีหน้าที่ต้องยื่นแสดงในบัญชีทรัพย์สินตามกฎหมาย ป.ป.ช. ยังฟังยุติไม่ได้ ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบแล้ว ทั้งพยานวัตถุ พยานเอกสาร และพยานบุคคล ต่างมีน้ำหนักฟังได้ว่านาฬิกาหรูดังกล่าวเป็นของนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เพื่อนของ พล.อ.ประวิตร ป.ป.ช.แจงละเอียดยิบ เหตุไม่ฟัน บิ๊กป้อม เชื่อ “นาฬิกาหรู” ยืมเพื่อนที่ตายไปแล้วจริง ไม่เจตนาปกปิด […]

เลขาฯ ป.ป.ช. โต้ ‘มติ5ต่อ3’นาฬิกาบิ๊กป้อม ยึดตามกฎหมาย ยืนยันไม่เคยใช้ความรู้สึกตัดสินคดี!

  วันที่ 28 ธ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงมติ 5 ต่อ 3 ของคณะกรรมการป.ป.ช. กรณีนาฬิกาหรูของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า คณะกรรมการป.ป.ช.ทำหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายระบุ โดยพิจารณาจากยึดจากพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ซึ่งกรรมการจะใช้ดุลพินิจในการพิจารณา ซึ่งข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นั้นป.ป.ช. ไม่สามารถไปห้ามไม่ให้ใครวิพากษ์วิจารณ์ได้ เพราะเป็นสิทธิในการแสดงความเห็นของแต่ละคน แต่ระยะเวลาจะพิสูจน์การทำงานของป.ป.ช. ทั้งนี้ป.ป.ช.เป็นองค์กรที่บังคับใช้กฎหมาย การตัดสินใดๆ ตัดสินจากพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายเป็นสำคัญ ไม่มีการใช้ความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบในการทำงาน ส่วนที่จะมีการล่ารายชื่อเพื่อถอนถอด 5 กรรมการป.ป.ช.เสียงข้างมากนั้น ไม่สามารถห้ามได้ แต่ประชาชนต้องรับทราบว่า การทำงานของป.ป.ช. เป็นไปตามกระบวนการทุกอย่างเช่นเดียวกับการพิจารณาคดีของศาล ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์

‘ศรีสุวรรณ’ตั้งโต๊ะทั่วประเทศ ล่า2หมื่นรายชื่อ ‘ปลด5กรรมการ ป.ป.ช.’ ละเลยตรวจสอบนาฬิกาหรูเพิ่ม

  เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ออกแถลงการณ์เพื่อล่า 20,000 รายชื่อ ปลด 5 กรรมการ ป.ป.ช. หลังจากที่ผ่านมาสมาคมฯได้ยื่นคำร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีไม่แสดงนาฬิกาหรูและแหวนประดับมีค่าที่สวมใส่ในโอกาสต่างๆ ที่ปรากฏเป็นภาพข่าวนั้น และคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณารายงานผลการตรวจสอบเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา แล้วมีมติ 5 ต่อ 3 เห็นว่าพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ แต่กลับไม่ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมตามที่กรรมการเสียงข้างน้อยเสนอ เพียงแต่ให้แจ้งข้อมูลนาฬิกาจำนวน 22 เรือน ต่อกรมศุลกากรเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปนั้น แถลงการณ์ระบุว่า “การใช้อำนาจของ 5 ป.ป.ช.ดังกล่าว อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 234(1) ทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง” ซึ่งสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจะไม่ปล่อยเว้นกรณีเช่นนี้ไปได้ และเชื่อว่าคนไทยทั้ง 66 ล้านคนก็คงยอมรับไม่ได้จากผลของการใช้อำนาจดังกล่าวของ 5 ป.ป.ช. ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมฯจึงใคร่ขอเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งร่วมกันลงชื่อ […]

รอดแล้ว! ปปช.แถลงยืนยัน ‘บิ๊กป้อม’ไม่ได้ยื่นทรัพย์สินเป็นเท็จ นาฬิกาเป็นของเพื่อน-แหวนเป็นของแม่จริง(มีคลิป)

  เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม เวลา  16.00  น. นายวรวิทย์  สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่าวันนี้  ( 27 ธันวาคม ) ได้มีการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยมีเรื่องสำคัญที่ควรแถลง ให้สื่อมวลชนทราบ คือ กรณีปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ สวมใส่นาฬิกาหรู แต่ไม่แจ้งนาฬิกาดังกล่าวในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2557 และกรณีที่มีผู้ร้องเรียน ให้ตรวจสอบพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่าจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ  กรณีไม่แสดงนาฬิกาหรูและแหวนประดับมีค่าที่สวมใส่ในโอกาสต่างๆ ที่ปรากฏเป็นภาพข่าวตามสื่อมวลชนนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. (พลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ขอถอนตัวไม่เข้าร่วมพิจารณา) ได้พิจารณารายงานผลการตรวจสอบปรากฏว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ให้พลเอก […]

บอร์ด สมศ.ลาออกยกชุด หลัง ป.ป.ช.ให้แสดงทรัพย์สิน

  คำสั่ง ป.ป.ช.พ่นพิษ บอร์ด สมศ.ลาออกยกชุด รศ.ดร.ณมน ชี้เหตุเพราะการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน อาจทำให้มิจฉาชีพเข้ามาทำร้าย หรือหาประโยชน์ เป็นอันตรายต่อตัวเองและครอบครัว ยันไม่ได้กลัวการตรวจสอบแต่ไม่อยากวุ่นวาย หากหลงลืมหรือชี้แจงผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ มีความผิดทางอาญาได้ ส่วนที่ไม่รอมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ก่อน เพราะไม่มีประโยชน์ ไม่ได้แก้ปัญหาให้กลุ่มองค์กรมหาชน เผยยังมีองค์กรอีกหลายแห่งเตรียมลาออกเช่นกัน ภายหลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกประกาศเรื่อง กำหนดตำแหน่งผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามมาตรา 102 พ.ศ.2561 ส่งผลให้บอร์ดคณะกรรมการรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ.ลาออกแล้ว เมื่อวันที่ 27 พ.ย. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ศ.ดร.วิชัย ริ้วตระกูล ประธานคณะกรรมการรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. ได้รายงานว่า รศ.ดร.ณมน จีรังสุวรรณ ผอ.สมศ.ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการ โดยไม่ได้ชี้แจงเหตุผลในการลาออกคาดว่าเป็นเหตุผลส่วนตัว และคิดว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานของ สมศ.รวมถึงการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ เพราะมีการแต่งตั้งรักษาการ ผอ.สมศ.ไปแล้ว เมื่อได้บอร์ด สมศ.ชุดใหม่ จึงจะคัดเลือก ผอ.สมศ.ต่อไป […]

ป.ป.ช. ยกเว้น ‘สมเด็จพระสังฆราช’ ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน แต่พระเถระอื่นๆ ต้องยื่นหมด

  วันที่ 12 พ.ย. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประกาศ ป.ป.ช.ฉบับล่าสุด เรื่องการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ว่า ครม.เป็นห่วงกรณีที่สมเด็จพระสังฆราชต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินตามประกาศดังกล่าวด้วยว่า ประเด็นนี้ ป.ป.ช.ได้วินิจฉัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีความชัดเจนว่าองค์สมเด็จพระสังฆราชไม่มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินตามประกาศ ป.ป.ช. เนื่องจากสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานสงฆ์ที่โปรดเกล้าฯ โดยพระมหากษัตริย์ แต่ไม่รวมถึงพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในสภามหาวิทยาลัย ดังนั้นพระเถระหลายๆ รูปก็จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์

ราชกิจจาฯเผยแพร่ประกาศ ให้ขรก.ทุกคนเตรียมยื่นบัญชีทรัพย์สินฯตามกฎหมายป.ป.ช.!!

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2561 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๒๘ มาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๗ และมาตรา ๔๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เหตุผลและความจําเป็นในการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติสามารถดําเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพอันจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ่งการตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่รัฐสภา สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือ โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้บัญญัติหน้าที่และอํานาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในการจัดให้มีมาตรการหรือแนวทางที่จะทําให้การปฏิบัติหน้าที่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เกิดความรวดเร็ว สุจริต และเที่ยงธรรม รวมทั้งได้เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ตลอดจนวาระการดํารงตําแหน่งไว้ อีกทั้งได้บัญญัติให้รัฐมีหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน และให้ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน และจัดให้มีมาตรการและกลไกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าวอย่างเข้มงวดตามมาตรา ๖๓ ของรัฐธรรมนูญ จึงเป็นการสมควรบัญญัติกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตขึ้นใหม่ให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน สำหรับสาระสำคัญของพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว […]

1 6 7 8
error: